ผอ.แจงถาดข้าววิญญาณหมู 21 บาทจัดฉากโค่น เด็ก-ครูรวมหัวแฉความจริงสุดยี้ (คลิป)

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทริน์ part 5.2” ได้โพสต์ภาพอาหารกลางวัน ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยข้อความกล่าวถึงอาหารกลางวันของเด็กในโรงเรียนที่จัดสรรค์ให้คนละ 21 บาทต่อคน

โดยภาพดังกล่าวปรากฎภาพถาดอาหารที่มีข้าวกับแกงจืด บางถาดเป็นขนม 3 ชิ้น และไข่ 1 ใบ แตงกวา 1 ชิ้น บางถาด เป็นเหมือนแกงฟักและมีขนม 2 ชิ้นเท่านั้น

ล่าสุดวันที่ 14 ธ.ค. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่โรงเรียนโชคชัยพรมบุตรบริหาร นายอาริยะ วาทไธสง ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่เป็นข่าวในโซเชียลฯ กรณีมีนักเรียนโพสต์ถาดอาหารกลางวันที่ปริมาณและคุณภาพอาหารไม่เหมาะสม ทางโรงเรียนขอชี้แจงว่า การดำเนินงานอาหารกลางวันโรงเรียนได้ดำเนินการตามแนวทางของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และกระทรวงศึกษาธิการอย่างเคร่งครัด เช่น มีคู่มือการดำเนินงานและให้ผู้รับผิดชอบดำเนินงานตามคู่มือให้เกิดผลดีต่อนักเรียน มีคำสั่งให้มีผู้รับผิดชอบและคณะทำงานที่ชัดเจน และมีการประชุมเพื่อสรุปปัญหาและแนวทางการพัฒนาให้เกิดผลดีต่อนักเรียน

ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น เนื่องจากโรงเรียนไม่มีโรงอาหารขนาดใหญ่ที่เพียงพอกับนักเรียน จึงให้แม่ครัวและคนทำงานนำอาหารจัดส่งไปให้นักเรียนถึงชั้นที่ 4 ของอาคารและให้ครูประจำชั้นและนักเรียนตักอาหารรับประทานเอง ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมาไม่เกิดปัญหา แต่อาจจะมีนักเรียนบางคนนึกสนุกตักอาหารให้น้อยแล้วถ่ายรูปโพสต์ลงในโซเชียลฯ จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งปกติหากอาหารไม่เพียงพอนักเรียนสามารถมาขอให้ตักเพิ่มได้

ทั้งนี้ตนเองเคยสอบถามไปที่หัวหน้าโครงการอาหารกลางวันว่าในวันนี้ทำเมนูอาหารอะไร ก็ได้รับการชี้แจงว่าทำไข่ไส้เนื้อหมูสับ มีผัก ผลไม้ตามรายการสคูลลันส์ เป็นเมนูที่แพงทำยาก แต่ก็อยากให้นักเรียนได้รับประทานอาหารที่ดีมีคุณภาพ แต่ในวันเกิดเหตุที่นักเรียนโพสต์เป็นช่วงเช้าเวลา 08.00-12.00 น. ซึ่งตนเองก็ไม่ได้รับรายงานเหตุการณ์ไม่ปกติ จนถึงเวลา 12.00 น. ตนเองเดินทางมาถึงโรงเรียนเพื่อประชุมคณะทำงาน นั่งประชุมกับรองผู้อำนวยการโรงเรียนและทีมงานบริหาร จนกระทั่งเวลา 16.30 น. ได้รับรายงานออกสื่อซึ่งรวดเร็วมากน่าจะมีกระบวนการทำลายชื่อเสียงของโรงเรียน

ส่วนแนวทางการแก้ปัญหาหลังจากนี้ ทางโรงเรียนจะกำกับควบคุมดูแลการดำเนินงานโครงการอาหารกลางวันอย่างใกล้ชิด ชัดเจน ให้การดำเนินงานมีคุณภาพ ถูกต้อง โปร่งใส เกิดประโยชน์ต่อนักเรียน จะมีการจัดระบบการรับประทานอาหารรูปแบบใหม่ เป็นจุดรับประทานอาหารให้พอเพียงทั่วถึง ควบคุมการตักอาหารโดยครูเวรและแม่ครัว รวมทั้งจัดให้มีเครือข่ายของนักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน ชุมชน และหาผู้มีความรู้ความถนัดโดยตรงมาเป็นครูผู้รับผิดชอบโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนต่อไป

ต่อมาทีมข่าวได้สอบถามครูท่านหนึ่ง เล่าว่า ในส่วนของอาหารกลางวันหากเปรียบเทียบกับเมื่อก่อนอาหารกลางวันไม่ได้เป็นแบบนี้ เเต่ตั้งเเต่ประมาณ 1 ปีก่อนจนถึงปัจจุบัน พวกตนมองเเล้วก็ได้เเต่สงสารเด็ก ๆ เพราะมันเป็นตามภาพที่ปรากฏในโซเชียลฯ จริง ๆ เเต่พวกตนทำอะไรไม่ได้เลย บางวันเห็นตนเเทบอยากจะร้องไห้ หากตนเป็นผู้ปกครองเด็กเเล้วเห็นว่าลูกได้กินเเค่นี้คงเสียใจ

ส่วนที่ ผอ.ชี้เเจงว่าอาหารได้มาตรฐาน ได้เยอะ เด็กเติมได้ ก็ต้องยอมรับว่ามีเเค่บางวันเท่านั้นเเต่ไม่ใช่ทุกวัน ส่วนใหญ่เด็ก ๆ จะไม่พอกินโดยเฉพาะเด็กโต ตนยืนยันว่าอย่างไรก็กินไม่อิ่มเเน่นอน ซึ่งงบประมาณอาหารกลางวันเด็กหัวละ 21 บาท กับเด็กในโรงเรียนทั้งหมด 1,600 กว่าคน คูณเเล้วงบต่อ 1 วัน คือ 30,000 กว่าบาท ซึ่งได้รับจัดสรรมาจากเทศบาล มีการเบิกจ่ายอย่างถูกต้องตอนรับมาเเต่เมื่องบมาถึงเเล้วจะมีการจัดซื้อวัตถุดิบ ซึ่งตนไม่รู้ว่าการตรวจรับถูกต้องหรือไม่ เพราะเมื่อก่อนจะต้องมีการเซ็นตรวจรับวัตถุดิบทุกวัน เเต่ปัจจุบันนี้ยังไม่มีการตรวจรับเเละเซ็นเอกสารเลย เเถมยังมีการขู่บังคับให้ครูเซ็นเอกสารย้อนหลัง 6-7 เดือนอีก ด้วย

ตนมองว่างบเท่านี้ควรได้อาหารที่มากเเละมาคุณภาพมากกว่านี้ เพราะเปรียบเทียบได้จากเพื่อนต่างโรงเรียน ซึ่งตนก็สงสัยว่าทำไมเขาทำได้เเต่เราทำไม่ได้ ซึ่งทำตั้งเเต่ชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมด้วยซ้ำ เเต่โรงเรียนของตนเเค่โรงเรียนประถมเเถมยังมีงบประมาณเยอะมากเเต่คุณภาพอาหารเเย่มาก ซึ่งเด็กบางคนที่เห็นอาหารเเล้วก็ไม่อยากกินเลย เเต่ครูก็บังคับไม่ได้ ได้เเต่ช่วยกันเกลี้ยกล่อมให้อย่างน้อยเด็ก ๆ จะต้องกินข้าว

ส่วนเรื่องการเรียน EIS ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงที่มีการเก็บเงินจากผู้ปกครองเด็กคนละ 600 บาท เเต่ไม่มีการจ้างครูต่างชาติมาสอน มีคนมาสมัครเเต่ก็ไม่รับเเต่กลับเอางบไปติดแอร์ กับช่องลมที่เกินราคา ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบอยู่ เรื่องนี้ผู้ปกครองน้อยคนที่จะรู้เเละไม่มีครูคนไหนกล้าจะสู้กับ ผอ. เพราะถูกข่มขู่ไว้ว่าจะมีการหักเงินเดือน หักเบี้ยเลี้ยง เคยขู่ถึงขั้นว่า “ผอ.มีปืน”

เด็กหญิงฝน (นามสมมติ) อายุ 12 ปี  เด็กนักเรียน เผยว่า ตนเองอยู่โรงเรียนนี้มาตั้งเเต่ ป.2 เเล้ว จนตอนนี้อยู่ชั้น ป.6 ซึ่ง ผอ. คนปัจจุบันได้ย้ายเข้ามารับตำแหน่งได้นานประมาณ 1 ปีกว่า ๆ เเล้ว อาหารกลางวันของพวกตนก็เปลี่ยนไป ทั้งอาหารไม่สะอาด เจอหนอน เเละเส้นผมในอาหาร

ส่วนในครัวก็จะมีสุนัขเดินว่อน เเม่ครัวเองก็ใช้มือที่ไม่สะอาดตักอาหาร อาหารได้น้อย อย่างเช่นเมื่อวานนี้พวกตนได้กินไข่เจียว น้ำพริกเผ็ด ๆ ข้าวเปล่าอย่างเดียว ซึ่งไม่ได้เป็นเฉพาะระดับชั้นเด็กโตเเต่เป็นทุกระดับชั้นเมนูเดียวกันทั้งโรงเรียน อาหารรสชาติไม่อร่อย ซึ่งเมนูทึ่พวกตนไม่ชอบมาก ๆ ก็คือแกงจืดที่มีเเต่เศษหมู

นอกจากนี้พวกตนก็ได้กินข้าวช้าจากปกติพวกตนจะต้องได้กินอาหารกลางวันตอน 12.00 น. เเต่ก็ได้กินช้าช้าสุดคือกินตอนประมาณ 13.00 น. เพราะเเม่ครัวทำกับข้าวไม่ทัน ซึ่งพวกตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงทำไม่ทัน

ซึ่ง ผอ.คนก่อน ๆ ก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้เลย เเต่พอเปลี่ยน ผอ. อาหารกลางวันของพวกตนก็เเย่ลงเรื่อย ๆ นอกจากเรื่องอาหารเเล้ว ผอ.คนนี้ยังไม่สนับสนุนเด็กเรื่องของกีฬาด้วย ปิดกั้นไม่ส่งเสริมให้ไปเเข่งขันกีฬาบอกว่าไม่มีงบทั้งที่ผู้ปกครองก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ จนต้องมีการประท้วง ผอ. ถึงจะยอมให้ไป ตนอยากให้โรงเรียนมีการปรับปรุงในเรื่องของอาหารเเละอีกหลาย ๆ เรื่องที่ ผอ.ไม่สนับสนุนเด็ก ๆ

ขณะที่ โรงเรียนวัดท่าโพ อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี ที่ปัจจุบันได้เงินค่าหัวนักเรียนสำหรับโครงการอาหารกลางวันละ 21 บาทต่อวันต่อคน เช่นเดียวกัน ตอนนี้ที่โรงเรียนมีนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึงชั้นประถมปีที่ 6 ทั้งหมด 93 คน จะทำให้มีรายจ่ายเป็นค่าอาหารกลางวันตกวันละ 1,700–1,800 บาท ซึ่งจะมีวิธีการเลือกสรรเลือกวัตถุดิบต่าง ๆ บริหารจัดการโดยมีการระดมทุนได้รับความร่วมมือจากทั้งผู้ปกครอง รวมไปถึงชุมชนและกรรมการสถานศึกษาจะเข้ามาช่วยถึงเรื่องวัตถุดิบต่าง ๆ และทำให้โรงเรียนเช่นผักผลไม้ที่ปลูกกันเอง ก็จะนำไปให้โรงเรียนได้ประกอบอาหารกลางทำให้ลดต้นทุนได้และทำให้โรงเรียนสามารถจัดอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียนได้ในราคาหัวละ 21 บาท และเป็นอาหารที่มีกับข้าว 2 อย่างและขนมหรือผลไม้

อย่างเช่นวันพุทธ จะเลือกเป็นอาหารเส้น หรืออาการจานเดียว อาจจะเป็นก๋วยเตี๋ยว สุกกี้ ราดหน้า แตกต่างกันไป เด็ก ๆ จะได้รับอาหารที่ให้คุณค่าอาหารอย่างครบถ้วน และในแต่ละวันจะมีเมนูอาหารค่อนข้างหลากหลายหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไป เช่นชุดอาหารข้าวสวยแกงจืดเต้าหู้หมูสับ น้ำพริกกะปิผักทอด ข้าวเกรียบกุ้ง ข้าวผัดไข่สามสีฮอทดอกนึ่งน้ำซุปน้ำแข็งไส เป็นต้น

ซึ่งอาหารแต่ละเมนูคุณครูจะจัดไม่ซ้ำกันในแต่ละวันประมาณ 1 เดือน เมนูอาหารก็จะกลับมาซ้ำก็จะทำให้เด็ก ๆ ไม่เบื่ออาหาร
และสำหรับการที่มีการอนุมัติค่าหัวอาหารกลางวันเพิ่มจาก ครม. อย่างที่โรงเรียนมีเด็กนักเรียนอยู่ 93 คนอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับค่าหัวจาก 21 บาท เป็น 27 บาท