นายกฯ ลุกขึ้นแจงย้ำนโยบายเศรษฐกิจทำไปหมดแล้ว แต่ยังไม่เกิดผล แนะเชิญไปทำเองถ้าได้เป็นรัฐบาล ฮึ่มฝ่ายนิติบัญญัติอย่าก้าวล่วงบริหาร
วันที่ 15 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นตอบชี้แจงเป็นครั้งแรก ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 28 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ระบุ นั่งฟังมาตั้งแต่เช้า มีหลายคนแสดงความคิดเห็นทั้งแนะนำ กล่าวหา ตักเตือนหลายอย่าง อยากบอกว่าที่ท่านพูดมาทั้งหมด ในด้านเศรษฐกิจทำมาหมดแล้ว แต่มันยังไม่เกิดผล แต่ท่านก็เอามาตีกินอยู่ตรงนี้ ที่พูดมาทั้งหมด เวลารัฐบาลพูดท่านไม่ฟังกระทรวงการคลังหน่วยงานราชการชี้แจงท่านก็ไม่ฟังอีก ดังนั้นนโยบายอะไรของท่าน เมื่อท่านเป็นรัฐบาลท่านก็ทำเถอะ ถ้าท่านได้เป็นนะ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวต่อว่า ในส่วนของการดูแลประชาชนทุกภาคส่วน รัฐบาลทำตั้งแต่ระดับฐานราก เอสเอ็มอีวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ กองทุนหมู่บ้าน ประชาชนที่มีรายได้น้อย มีการแก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า ขอให้ลองไปศึกษาดูก็แล้วกัน ถ้ามันง่ายอย่างที่ท่านพูดคงทำได้นานแล้ว สมัยก่อนท่านก็ทำไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องการทุจริตผิดกฎหมาย ในกระบวนการยุติธรรมก็ไปว่ามา การที่เอาไปโยนคนนั้น คนนี้ญาติคนโน้นคนนี้ ผมคือตัวผม คือครอบครัวผม และผมไม่เคยเอื้อประโยชน์ให้ใคร ก็ไปตรวจสอบมา เวลาสมัยก่อนผมไม่เห็นพูดเก่งแบบนี้เลย สมัยท่านเป็นรัฐบาลกันน่ะ เรื่องทุจริตไม่เห็นมีการพูดกันสักคำ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต่อไปนี้ต่อไปนี้ก็จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจง ก็ไม่อยากจะทำให้เสียบรรยากาศ เพราะเพิ่งผ่านห้วงเวลาของวันวาเลนไทน์มาเมื่อวานนี้เองไม่อยากจะทำให้เสียอารมณ์ นั่งฟังมาตั้งแต่เช้าเรื่องที่ดีก็รับไว้ จดไว้ หลายเรื่องที่มันไม่ตรงไม่ถูกต้อง ก็คงต้องให้ฝ่ายรัฐบาลชี้แจงบ้าง เพราะส่วนราชการก็เตรียมไว้หมดแล้วในแต่ละเรื่อง เรื่องสำคัญ ๆ ก็เตรียมไว้ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะชี้แจง แต่จำเป็นต้องหยุดตรงนี้ไว้บ้าง ไม่เช่นนั้นฝ่ายค้านก็จะใช้โอกาสตรงนี้ในการหาเสียง ส่วนตัวพยายามจะไม่ไปแตะต้องอะไร
“ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามมารยาท กติกาของสภา เราต้องมีมารยาทในการที่จะพูดจา หลายอย่างเป็นปัญหาในเชิงบริหาร หลายอย่างเป็นปัญหาในเชิงกฎหมาย แต่ทุกอย่างมีหลักการหลักเกณฑ์ไว้หมดแล้ว เพราะฉะนั้นก็ไปตรวจสอบมาให้เกิดความชัดเจนขึ้น ก่อนที่จะกล่าวอ้างว่าใครผิด ใครถูก ไปว่ากันมา จนผลการสืบสวนสอบสวนมันออกมาไม่เคยปล่อยปละละเว้นเมื่อเกิดมาก็สอบสวน ถ้ายังไม่เกิดก็ไปทำให้มันเกิดการร้องทุกข์กล่าวโทษ กฏหมายมีมาแบบนี้ การที่มาพูดในนี้แล้วทำให้คนข้างนอกได้ยิน ก็กลายเป็นว่าคนนี้ผิดไปแล้ว หรือคนนั้นถูกไปแล้ว มันไม่ใช่”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คิดว่าควรเคารพกระบวนการยุติธรรมด้วย ไม่อยากให้อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติไปก้าวล่วงฝ่ายบริหารมากจนเกินไป คนละอำนาจกัน ถ้าฝ่ายค้านจะทำอะไรก็ไม่ว่า แต่บางอย่างที่เป็นเรื่องของการบริหารราชการแผ่นดินก็เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร หากไม่ดีก็ไปร้องทุกข์กล่าวโทษเอาไม่ใช่มาติติง พูดจาเสียหายแบบนี้บางอย่างก็รับไม่ได้