วันสตรีสากล "นักการเมืองหญิง ประชาธิปัตย์" ชูพรรค ให้ความสำคัญ ส่งเสริมบทบาทสตรี เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างเสมอภาค
วันที่ 8 มี.ค. 66 วันสตรีสากล เหล่านักการเมืองหญิง พรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรค รมช.กระทรวงศึกษาธิการ ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
คุณจิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรค คุณวทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง ดร.มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ คุณรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ประธานบอร์ดบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
คุณรัศมี ทองสิริไพรศรี นางแบบและนักแสดงชื่อดัง คุณดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค คุณเจิมมาศ จึงเลิศศิริ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตพระนคร - ป้อมปราบฯ สัมพันธวงศ์-ดุสิต คุณชมพูนุท นาครทรรพ คณะทำงาน รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ คุณศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรค ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตพญาไท ราชเทวี และคุณผ่องศรี ธาราภูมิ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีต ส.ส. จังหวัดลพบุรี ได้ร่วมกันแถลงขับเคลื่อนนโยบายเกี่ยวกับผู้หญิง ของพรรคประชาธิปัตย์
เนื่องในโอกาส วันสตรีสากล โดยทุกวันที่ 8 มีนาคม ของทุกปี ได้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของบทบาทผู้หญิงในการพัฒนาบ้านเมือง ขณะเดียวกัน ก็เป็นการสร้างการรับรู้ต่อสังคมว่า การเลือกปฏิบัติและความไม่เท่าเทียมระหว่างเพศยังคงมีอยู่ในทุกสังคม และหากไม่ทำอะไรให้มากกว่านี้ อาจใช้เวลาถึง 300 ปี โลกนี้ถึงจะมีความเสมอภาค เลขาธิการองค์การสหประชาชาติกล่าวไว้
วันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ขอแสดงจุดยืนที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมบทบาทผู้หญิงเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างเสมอภาค การสร้างโอกาสแก่ผู้หญิงให้มีพลัง มีสิทธิเสรีภาพอย่างเท่าเทียม มีความมั่นคงในชีวิต เพื่อจะได้เป็นกำลังในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป
สังคมไทยวันนี้ มีประชากรหญิงมากกว่าชายอยู่ 1 ล้านคน ผู้หญิงอายุยืนกว่าผู้ชาย เฉลี่ย 6-8 ปี นั่นหมายความว่า หากเราส่งเสริมผู้หญิง เราจะได้พลังอันยิ่งใหญ่และยืนนาน แต่หากละเลยปัญหาที่ผู้หญิงต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นฐานะแม่ คนหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว ปัญหาในอาชีพการงานต่างๆ การถูกกีดกัน ความรุนแรงในครอบครัว และอีกมากมาย ซึ่งหากผู้หญิงถูกทำให้อ่อนแอ ถูกตัดโอกาส สิ่งที่ตามมาคือ การเสียโอกาสของสังคม
ในวันสตรีสากลนี้ พรรคประชาธิปัตย์ขอให้คำมั่นว่า เราจะเดินหน้าแก้ปัญหาความไม่เสมอภาค การกีดกัน และการเลือกปฏิบัติ อีกทั้งเร่งสร้างความเข้มแข็ง ความมั่นคงในชีวิตแก่ผู้หญิงทุกคน โดยการกำหนดนโยบายที่ครอบคลุมทุกด้าน และสนับสนุนผู้หญิงให้เข้ามามีบทบาททางการเมือง ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ จะได้เป็นตัวแทนที่เข้าใจหัวอกผู้หญิงอย่างแท้จริง จะได้เป็นสะพานเชื่อมระหว่างประชาชนและการผลักดันนโยบายสู่การพัฒนา
ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง พรรคได้คัดเลือกว่าที่ผู้สมัครหญิงในระบบเขต 66 คน และจะมีจำนวนเพิ่มอีกจากผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งทุกคนล้วนเป็นคนที่พร้อมทำงานเพื่อผู้หญิง เราทำงานเป็นทีม ที่สมาชิกประกอบด้วยผู้ที่มากด้วยประสบการณ์ทางการเมือง ส.ส.หลายสมัย รัฐมนตรี นักการเมืองท้องถิ่น นักวิชาการ นักธุรกิจ นักสิ่งแวดล้อม เกษตรกร
อีกทั้ง หลายท่านเป็นผู้ทำงานร่วมกับองค์กรภาคประชาสังคมอย่างใกล้ชิด เช่น เครือข่ายผู้หญิง สลัมสี่ภาค ต่อต้านการค้ามนุษย์ คนพิการ แรงงาน กลุ่มคนหลากหลายทางเพศ โดยพรรคได้ใช้ประสบการณ์ของบุคคลากร ถ่ายทอดเป็นกิจกรรมการอบรมให้ความรู้ทั่วประเทศ ในหลายเรื่อง อาทิการส่งเสริมผู้หญิงเข้าสู่การเมืองท้องถิ่น การวางแผนการเงิน การแก้หนี้ครัวเรือน การปลุกพลังในตัวผู้หญิง ช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ในส่วนของนโยบาย จะแบ่งเป็นสองมิติ คือ การแก้ปัญหาที่เป็นตัวฉุดรั้งไม่ให้ชีวิตเดินหน้าอย่างมั่นคง และการเพิ่มโอกาสในความก้าวหน้าของผู้หญิง ทุกเรื่องจะนำไปสู่การสร้างพลังหญิงขับเคลื่อนสังคม นโยบายที่ได้แถลง ล้วนแต่เป็นเรื่องที่โดนใจผู้หญิง เช่น เงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า นมโรงเรียน 365 วัน ซึ่งแม่ทุกคนชอบมาก ธนาคารชุมชน ช่วยให้ผู้หญิงที่ต้งอการประกอบอาชีพในชุมชนเข้าถึงแหล่งเงิน ไม่ต้องไปเผชิญกับการทวงหนี้โหด รวมถึงการออกโฉนดที่ดิน เป็นสิ่งที่เครือข่ายสตรีเรียกร้องมานานเรื่องที่ดินทำกินเพื่อความมั่นคงในชีวิต
นอกจากนั้น เรายังมีชุดนโยบายที่ครอบคลุมประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิง อาทิ
1)การส่งเสริมสตรีสู่ผู้ประกอบการหญิง
2)การส่งเสริมสถาบันครอบครัวและดูแลครอบครัวเปราะบาง
3) สวัสดิการให้การดูแลแม่ตั้งแต่ตั้งครรภ์
4)ศูนย์เด็กเล็กมีคุณภาพในท้องถิ่นและโรงงาน
5)การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
6) การส่งเสริมความเสมอภาคเท่าเทียม ห้ามเลือกปฏิบัติ ตามม.27 ของรัฐธรรมนูญ
7) การยกระดับมาตรการคุ้มครองแรงงานเด็กและสตรีให้เป็นไปตามหลักสากล การเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ร.บ.ความเสมอภาคเท่าเทียม พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ร.บ.ป้องกันการค้ามนุษย์
8) การส่งเสริมให้สตรีมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เช่น เป็นนักเมืองท้องถิ่น หรือการกำหนดโควต้าผู้หญิงในคณะกรรมการต่างๆ และ
9)การสร้างความตระหนักในการจัดทำงบประมาณโดยคำนึงถึง ความจำเป็นและความต้องการที่แตกต่างกันของเพศวัยและสภาพของบุคคลเพื่อความเป็นธรรม (Gender Responsive Budgeting) เป็นต้น
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ที่พรรคประชาธิปัตย์มุ่งมั่นขับเคลื่อน เพื่อสร้างพลังและโอกาสแก่ผู้หญิง ให้เป็นกำลังในการพัฒนาประเทศชาติ และเราจะทำงานควบคู่ไปกับภาคประชาสังคมเหมือนที่ได้ทำมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขอให้มั่นใจในความตั้งใจและประสบการณ์ของพวกเรา