“เดชอิศม์” แจงเข้าใจ “เศรษฐา” เลยโหวตสวนมติพรรคประชาธิปัตย์

24 ส.ค. 66

"เดชอิศม์" แจงหลังโหวต “เศรษฐา” สวนมติพรรค - ฟังอภิปรายแล้วรับได้ว่าเป็นความขัดแย้งส่วนตัว ไม่กระทบคุณสมบัติและการปฏิบัติหน้าที่นายกฯ

นายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย นายชัยชนะ เดชเดโช รักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นำทีม สส.รวม 20 คน มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่อาคารรัฐสภา ประเด็นที่หลายคนมองว่า สส.กลุ่มดังกล่าวเป็นงูเห่า โหวตเห็นชอบ ให้กับ นายเศรษฐา  ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งที่มติพรรค งดออกเสียง

โดยนายเดชอิศม์ กล่าวว่าก่อนหน้านี้ พรรคประชาธิปัตย์ เริ่มไม่มีเอกภาพตั้งแต่การประชุมเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคแล้ว มีกลุ่มคนเจตนาทำให้องค์ประชุมล่มถึง 2 ครั้ง  จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้จะเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคได้เมื่อไหร่  และการประชุมพรรคล่าสุด ก่อนวันโหวตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ในที่ประชุมมีความเห็น เป็น 3 เสียง  คือ  ไม่เห็นชอบ เพราะยังติดภาพความขัดแย้งในอดีตระหว่าง เพื่อไทย กับ ประชาธิปัตย์ เป็นความโกรธในอดีต  แต่ สส.รุ่นใหม่ในพรรค มองว่า ไม่เห็นด้วยเพราะ มันผ่านมาแล้ว อยากให้มองข้าม แต่ก็ทำให้ผู้ใหญ่ไม่พอใจลุกเดินออกจากห้องไป

ส่วนเสียงโหวตเห็นชอบ เพราะเห็นถึงปัญหาประเทศที่ต้องเร่งแก้ไข  และโหวตงดออกเสียง เทียบตอนเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตพรรคก้าวไกล พรรคก็มีมติ งดออกเสียง เพราะกังวลการแก้ ม. 112   ทำให้การประชุมในวันนั้น ไม่ได้มีมติแน่ชัด

เมื่อถึงวันโหวตนายกฯ  สส. หลายคน ฟังอภิปรายแล้ว ยอมรับได้ว่ากรณีที่หลายคนกังวล เป็นความขัดแย้งส่วนตัว แต่ไม่กระทบคุณสมบัติและการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี  จึงตัดสินใจโหวต เห็นชอบกัน  เพราะก่อนหน้าที่จะโหวต  ผู้ใหญ่ที่เป็นเสาหลักของพรรคยังโหวตแตกต่างกัน  โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคโหวต  งดออกเสียง นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และนายชวน  หลีกภัย ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โหวต ไม่เห็นชอบ  พวกเราเลยเห็นว่า ต้องแยกแยะ และตัดสินใจเลือก  พรรค หรือ ประชาชน และเราจำเป็นต้องเลือกประเทศชาติ และประชาชน 

มองว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลสมานฉันท์ 2 สี เหลือง - แดง และพรรคประชาธิปัตย์ ยุคใหม่ ไม่เคยเลือกข้าง แดง-เหลือง จึงไม่ควรมารับมรดกความขัดแย้งรุ่นเก่า ๆ จึงควรสนับสนุนให้นายเศรษฐา เป็นนายกฯ แม้ตัวเองเป็นฝ่ายค้าน

เพราะวันนี้ประกาศได้อย่างชัดเจน ว่า เราเป็นฝ่ายค้านเต็มตัว  และศักดิ์ศรีของ ปชป.ไม่กระเหี่ยนกระหือรือไปเป็นรัฐบาล และเราก็ไม่มีอำนาจตัดสินใจเองได้ทุกอย่างต้องเป็นไปตามมติของพรรค แต่อย่างไรก็ตามต้องมีหนังสือเทียบเชิญร่วมรัฐบาลจากพรรคการนำมาก่อน

ส่วนกรณีที่บินไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ฮ่องกง นายเดชอิศม์ ชี้แจงว่า ตัวเองเป็น สส.รุ่นใหม่ มีเพื่อนทุกพรรค  รู้จักทุกคน แต่เราแยกแยะ เพื่อน กับ พรรค ความรัก ไม่ยึดอคติ จะไปพบพรรคไหนก็ได้ ถ้าไปพบแล้วมีความผิดคงโดนโทษประหารไปแล้ว

และหลายคนมองว่าสส.ทั้ง 16 คนต้องการให้พรรคมีมติขับออกจากพรรคเพื่อไปหาพรรคอื่น ก็ต้องดู ปกติการจะมีมติขับออกต้องเป็นการหารือร่วมกันระหว่าง สส.พรรค และกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเสียง สส.ส่วนใหญ่อยู่ฝั่งนี้หมดแล้ว ไม่รู้ใครจะขับใครออกกันแน่ แต่ส่วนตัวตอนนี้ฝ่ายเราไม่คิดจะขับใครออกจากพรรค อยากให้มีการพูดคุยเจรจาแต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครมาเจรจากับเราเลย ขอยืนยันว่า ตนไม่อยากรับมรดกความเคียดแค้นจากอดีต พร้อมออกจาก สส.วันนี้พรุ่งนี้ ถ้าเราทรยศประชาชน แต่เราไม่ได้ทำแบบนั้น เพราะที่เราทำ เพื่อประชาชน

ส่วนปัญหาในพรรคแก้ไขได้ง่าย ๆ แค่ต้องประชุมให้ได้ ให้ครบองค์ประชุมก่อน แล้วหันหน้าคุยกัน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส