"สันธนะ"โผล่พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือเสนอตัวเป็นที่ปรึกษานายกฯ หวังช่วยดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปราบทุจริตซื้อขายตำแหน่ง
วันนี้ 31 ส.ค. เวลา 10.30 น. นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เดินทางมาที่พรรคเพื่อไทย เพื่อยื่นหนังสือแนะนำตัวและเสนอตัว เพื่อให้พิจารณาแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยต้องการจะทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษาและพิจารณาเสนอความเห็น หรือข้อเสนอแนะต่างๆตามที่ นายกรัฐมนตรีมอบหมายเกี่ยวข้องกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
โดยนายสันธนะ กล่าวว่า จากที่ตนได้ดูรายงานข่าวการจัดโถคณะรัฐมนตรี รัฐบาลเศรษฐา1 นั้น มีทั้งหมด 35 คน 20 กระทรวง ซึ่งใกล้จะนิ่ง แต่สำหรับตนมองว่ายังไม่ได้นึกถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีกำลังพลกว่า 200,000 ราย มีงบประมาณ 72,000 ล้าน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ไม่สามารถที่จะแยกจากฝ่ายการเมืองได้ เพราะทุกครั้งที่เปลี่ยนขั้วอำนาจ ตำรวจก็คือด่านแรกที่จะต้องออกมารับภาระและยังเป็นองค์กรที่ถูกหาประโยชน์
แต่ตอนนี้เข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลของนายเศรษฐาเน้นไปที่เรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน ซึ่งนายเศรษฐายังไม่เคยพูดเรื่องตำรวจเลยตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกฯ ทั้งๆที่หน่วยงานความมั่นคง ทั้งตำรวจและกลาโหมเป็นโควต้าของพรรคเพื่อไทย ที่อยู่ในรัฐบาลผสม
วันนี้ยังไม่มีการระบุเลยว่าใครจะมารับผิดชอบดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ภายใต้กำกับการดูแลของนายกรัฐมนตรี แต่นายเศรษฐาก็เป็นผู้ที่อาจจะรู้เรื่องธุรกิจอย่างเดียว ซึ่งตนก็เข้าใจ ก็อาจจะมอบหมายให้รองนายกฯไปดูแลตำรวจก็ได้ แต่ตอนนี้ตนก็ยังไม่เห็นว่ารองนายกคนไหนที่จะมาดูแลได้
ตนจึงมาแนะนำตัวและเสนอตัวขอทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษานายกฯ พอจะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของการหากินจากการแต่งตั้งโยกย้าย ที่มีตั้งแต่ระดับสูงขององค์กร มีการซื้อขายทุกตำแหน่ง ซึ่งสิ่งนี้ตนมีความกังวลว่าจะเป็นวิกฤตขององค์กร ทำให้ประชาชนหมดศรัทธา
"ตำรวจคนไหนก็ได้ในองค์กรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใครลองดีกับตน ให้รีบแสดงตัวออกมา แล้วตนจะบอกว่ามาร้องยี้เพราะอะไร อะไรที่คุณเสียผลประโยชน์ เพราะตนเข้ามามันจะไปขวางผลประโยชน์ ใช่ไหมตนก็จะถามกลับ " นายสันธนะกล่าว
นายสันธนะ กล่าวต่อว่า ตนได้ทำหนังสือเอกสารมาให้นายเศรษฐาได้พิจารณาโดยตรง พร้อมแนบภาพนิ่ง ของตนเองกับบุคคลภายนอก 33 ภาพ ที่เกี่ยวข้องเป็นส่วนที่ให้รับไปพิจารณาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และหวังว่าพรรค พท.จะให้โอกาส แต่หากไม่ได้รับตำแหน่งดังกล่าว ตนก็จะเดินหน้าตรวจสอบทุกตำแหน่งในสตช.อย่างเข้มข้น.