“ประเสริฐ” เผย รัฐบาลไม่หนักใจเจอถล่มวันแถลงนโยบาย ชี้ สมาชิกมีอะไรแนะนำ ก็ยินดีรับฟัง เชื่อ “ก้าวไกล” เป็นฝ่ายค้านอภิปรายเชิงสร้างสรรค์
เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 6 กันยายน 2566 ที่รัฐสภา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์ถึงความกังวลต่อการอภิปรายในวันแถลงนโยบายของรัฐบาลว่า ทางรัฐบาลไม่ได้หนักใจเรื่องอะไร หากสมาชิกมีอะไรแนะนำก็สามารถอภิปรายในสภาได้ ซึ่งนโยบายที่รัฐบาลจะแถลงในสภาฯ ก็จะเป็นหลักในการบริหารประเทศในอนาคต แต่หากมีอะไรที่สมาชิกที่เห็นว่าจะเพิ่มเติมหรือลดก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้ ซึ่งก็น่าจะเป็นประโยชน์ โดยรวมแล้วรัฐบาลยินดีรับฟังความคิดเห็น
เมื่อถามว่า ประเด็นสำคัญที่ถูกจับตา คือ กรอบยุทธศาสตร์ชาติ หรือนโยบายของรัฐที่จะเป็นบทกำกับนโยบายของรัฐบาล นายประเสริฐ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐธรรมนูญได้ผนวกเรื่องงบประมาณก็ดี เรื่องนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาก็ดี ผนวกไปกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ฉะนั้น ก็เป็นเรื่องที่กฎหมายกำหนดไว้ ทั้งนี้ ขอให้ดูในรายละเอียดอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า จะมีการชี้แจงถึงเรื่องงบประมาณที่จะนำมาใช้ในแต่ละนโยบายด้วยหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ในเบื้องต้นเราต้องดูก่อน เพราะบางเรื่องก็สามารถชี้แจงได้ ในขณะที่บางเรื่องอาจจะไม่ต้องใช้งบประมาณก็ได้ หรืออาจะไม่ได้ใช้งบประมาณมาก เช่น เรื่องการเกณฑ์ทหาร ซึ่งเรื่องงบประมาณเป็นเรื่องของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ที่จะต้องเข้าสภาฯ หลังจากนี้ เราสามารถที่จะไปพูดกันได้ในช่วงนั้น
เมื่อถามว่า การแถลงนโยบายรัฐบาลว่าจะเป็นวันเดียวหรือสองวัน นายประเสริฐ กล่าวว่า หากอภิปรายได้ครอบคลุมทุกประเด็นวันเดียวก็น่าจะเพียงพอ แต่ก็ขึ้นอยู่กับวิป 3 ฝ่ายว่าจะให้เป็นวันเดียวหรือสองวัน แต่ในส่วนของรัฐบาลมีความพร้อมเสมอ
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะตั้งทีมองครักษ์พิทักษ์การอภิปรายหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เราได้เตรียมคนอภิปรายเอาไว้ และเตรียมเรื่องการดูแลให้สภาฯ ประชุมไปด้วยความเรียบร้อย โดยเตรียมข้อมูลการอภิปราย และดูเรื่องข้อบังคับการประชุมไว้แล้ว ซึ่งเรามีความพร้อมในการดำเนินการ
เมื่อถามถึง กรณีที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) จับตาเรื่องการแถลงนโยบายเป็นอย่างมาก อยากสื่อสารอะไรไปยังพรรคก.ก. หรือไม่ นายประเสริฐ ยิ้มเล็กน้อย พร้อมกล่าวว่า “ไม่มีอะไรครับ ผมคิดว่าพรรคก้าวไกล เป็นพรรคการเมืองที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน เชื่อว่าจะอภิปรายในเชิงสร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมรับฟัง”