นายกรัฐมนตรี ย้ำ ใช้บล็อกเชนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ยังขออุบแหล่งที่มาของเงิน ไม่กังวล ก้าวไกลตั้งป้อมซักวันแถลงนโยบาย ลั่นพร้อมให้ตรวจสอบ บอกได้ชื่อโทรโข่งรัฐบาลแล้ว มองครม.เศรษฐกิจไม่จำเป็น เหตุมีวิธีการสื่อสารอื่นไม่ต้องนั่งล้อมวงเสียเวลาเตรียมเอกสาร พร้อมผงาดนั่งคุมตำรวจเอง
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางถึงพรรคเพื่อไทยในเวลา 08.37 น. โดยมีทหารผ่านศึกมารอต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ว่า เรื่องนี้ได้พูดคุยกับหลายภาคส่วน และขณะนี้อยู่ระหว่างการทำเรื่องของงบประมาณ รวมถึงแหล่งที่มาเงินทุน และวานนี้ได้พูดคุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งได้ให้ข้อคิดและคำแนะนำในหลายเรื่อง เช่น การดำเนินการในระยะกลาง และระยะยาว ระบบการเงินการคลังจะเป็นลักษณะใด ตัวเลขหนี้สาธารณะจะขึ้นจะลงอย่างไร ซึ่งท่านก็เห็นด้วยว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องพูดคุยกันให้ชัดเจน วันนี้ขอทำการบ้านให้ดีก่อน และขณะนี้เองก็ยังไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากต้องรอการแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาก่อน จึงจะสามารถสั่งการได้ ตนจึงไม่อยากพูดให้เกิดความสับสน พร้อมขอให้สื่อมวลชนใจเย็นสักนิด
เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะออกเป็นพันธบัตรเพื่อเป็นแหล่งเงินทุน นายกรัฐมนตรี ระบุว่าขอเวลานิดนึง ตอนนี้ตนไม่อยากจะตอบอะไร ให้สื่อมวลชนไปเขียนข่าวจนเกิดความเข้าใจผิด พร้อมยืนยันว่ามีหลายส่วนที่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งจะใช้ระบบบล็อกเชนในการดำเนินการ และนโยบายนี้สามารถออกได้ในไตรมาสแรกปีหน้า
ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า 13 กันยายน 2566 จะมีวาระอะไรบ้างนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า นอกจากเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญและลดราคาพลังงานแล้ว ยังมีอีกหลายเรื่อง พร้อมทำมือวัดขนาดความสูงของวาระ พร้อมกับกล่าวว่า มีลิสต์ยาวขนาดนี้ครับ ซึ่งที่ผ่านมามีการประกาศว่าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกจะมีวาระการประชุมอะไร และส่วนตัวก็ต้องไปดูวันที่ประชุมได้จริงเมื่อไหร่หากพูดไปตอนนี้อาจจะเกิดความสับสน
เมื่อถามต่อว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีจะมีการพูดคุยถึงการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีแต่ละฝ่ายเลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหนึ่งในหลายเรื่องที่จะคุยกับคณะทำงานในเที่ยงวันนี้
ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่มี พร้อมกับมองว่าสมัยนี้ ไม่จำเป็นต้องมานั่งล้อมวง เพราะเสียเวลาในการเตรียมเอกสารค่อนข้างมาก ตนคิดว่าควรใช้การจับกลุ่มพูดคุย หรือแยกตัวกันทำงานจะดีกว่า และปัจจุบันสามารถใช้การสื่อสารได้หลายวิธี ตนจึงคิดว่าครม.เศรษฐกิจนั้นไม่จำเป็น แต่มั่นใจว่า เรื่องทุกเรื่องจะเดินหน้าได้เร็วกว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้
พร้อมกับกล่าวยืนยันว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่จะมีอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ระบุว่า สามารถหาตัวผู้จะมาทำหน้าที่โฆษกรัฐบาลได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะทำหน้าที่พูดคุยกันเพื่อไม่ให้ประชาชนและสื่อมวลชนเกิดความสับสน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ ว่าเป็นใคร
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า ตำแหน่งข้าราชการการเมืองจะมีเข้าที่ประชุมครม.เพื่อพิจารณาบางส่วน เพราะมีหลายหน่วยงานได้เตรียมเรื่องไว้แล้ว และจะมีการพูดคุยกับทีมงาน เพื่อพูดคุยถึงสิ่งที่จะดำเนินการหลังจากนี้
เมื่อถามว่าจะมีการจัดตาราง ว่า 100 วันแรกจะทำอะไรบ้างหรือไม่ เพื่อให้ประชาชนได้ติดตามการทำงานของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะพิจารณาก่อน ยังไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องนี้ แต่อย่างไรจะเห็นผลงานอย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลเชิญชวนประชาชนให้จับตานโยบายรัฐบาลที่ไม่มีการเขียนนโยบายของพรรคเพื่อไทยเมื่อครั้งหาเสียงลงในคำแถลงนโยบาย นายกรัฐมนตรี กล่าว ขอให้รอดูวันแถลงนโยบาย และเข้าใจว่าหน้าที่ฝ่ายค้านก็ต้องตรวจสอบกันไป และฝ่ายบริหารก็มีหน้าที่อธิบายให้เข้าใจตามขั้นตอนต่าง ๆ
ส่วนกังวลหรือไม่ว่าจะถูกซักถามถึงนโยบายในวันแถลง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเราอาสาเข้ามาทำงานก็ต้องพร้อมให้ถูกตรวจสอบ พร้อมกล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา แต่ถือว่าเป็นเรื่องดีที่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจชั้นนายพลที่มีการพูดถึงในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ ว่า เรื่องนี้ จะพูดคุยกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งหน้า และตัวเองจะเข้าไปกำกับดูแลคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร ด้วยตัวเอง
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า ในช่วงบ่ายของวันนี้จะมีการหารือร่วมกับเลขาฯ กรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ Boi โดยจะหารือในประเด็นการลงทุนระหว่างประเทศว่ามีข้อติดขัดอะไรหรือไม่ เพราะการลงทุนกับต่างประเทศนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากนั้นจะพบกับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่าขอให้สื่อมวลชนมั่นใจว่าเราทำงานอย่างเต็มที่