กรมอุตุฯ ประกาศเตือนฉบับที่ 7 เผยเส้นทางพายุ "โคอินุ" วันที่ 8-11 ต.ค. เคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงใต้ของจีนในช่วงวันที่ 8-9 ต.ค.
วันที่ 8 ตุลาคม 2566 กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 7 เรื่อง พายุโคอินุ ระบุว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (8 ต.ค. 66 พายุได้ฝุ่น "โคอินุ" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 21.6 องศาเหนื่อ ลองจิจูด 114.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้เกือบไม่เคลื่อนที่ คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีนในช่วงวันที่ 8-9 ต.ค. 66 หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 10-1 1 ต.ค. 66 จะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำลงสู่อ่าวตังเกี๋ย ซึ่งจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชัน ตามลำดับ โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบ สภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ประกาศ ณ วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 17.00 น กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 05.00 น.
โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่า อัพเดทสถานการณ์พายุหมุนเขตร้อนในทะเลจีนใต้ตอนบน พายไต้ฝุ่น "โคอินุ (KOINU) ยังไม่สลายตัวง่ายๆ มีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกตามแนวชายฝั่งตอนใต้ของประเทศจีนในวันที่ 8-9 ต.ค.66 แต่เมื่อปะทะกับมวลอากาศเย็นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ พายุนี้จะไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย แต่ฝนที่เกิดขึ้นมาจากร่องมรสุมและหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมในขณะนี้ และ ในมหาสมุทรแปซิฟิกมี พายุโซนร้อน "บอละเวน(BOLAVEN)" ก่อตัวคาดว่าจะแรงขึ้นอีก แต่อยู่ห่างจากประเทศไทยมาก จึงไม่มีผลกระทบ ส่วนหย่อมความกดอากาศต่ำทางด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะเคล่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ ในช่วงวันที่ 12 -15 ต.ค.66 แต่ก่อตัวในช่วงที่มีมวลอากาศเย็นแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว จึงไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย แต่ยังต้องติดตามเป็นระยะๆ (ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลนำเข้าใหม่ ภายใต้เงื่อนไขของปีที่เกิดปรากฎการณ์เอลนีโญ ซึ่งทำให้สภาวะฝนและพายุเปลี่ยนแปลงไป ใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ)
_2.jpg)
