ป้านา โกนหัวหน้าศาลหลังถูกจำคุก 6 เดือน 10 วัน ปรับ 1 พันบาท ไม่รอลงอาญา คดีด่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สมัยยังเป็นนายกรัฐมนตรี
จากกรณี น.ส.วันทนา โอทอง หรือ ป้านา อายุ 61 ปี ชาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงรวบตัว โดยใช้มือปิดปาก แล้วลากเข้าไปหลบบริเวณซอกรถ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ปฏิบัติราชการ เพื่อติดตามดูโครงการแนวทางแผนพัฒนา อ.บ้านโป่ง เมื่อวันที่ 13 มี.ค.66 ที่ผ่านมา ก่อนจะถูกดำเนินคดีในข้อหา “ขัดคำสั่ง ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึงในที่สาธารณะ”
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 10 ต.ค.66 ณ ศาลแขวงจังหวัดราชบุรี อ.เมือง จ.ราชบุรี น.ส.วันทนาได้เดินทางมารับฟังคำพิพากษา โดยมีญาติและกลุ่มเพื่อนเดินทางมาร่วมให้กำลังใจ
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยเข้าไปในเขตที่จัดไว้ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยและหวงห้ามเพื่อรักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรี บุคคลในขบวนของนายกฯ และประชาชนอื่น ตำรวจผู้มีอำนาจได้แจ้งต่อจำเลยแล้ว โดยจำเลยทราบคำสั่งแล้ว แต่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่โดยไม่มีเหตุสมควร อีกทั้งจำเลยไม่เคยสำนึกในการกระทำความผิด ยืนยันต่อสู้คดีและแจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่ ไม่เคารพยำเกรงกฎหมาย พฤติการณ์จึงเป็นคดีร้ายแรง หากบังคับใช้กฎหมายไม่จริงจังอาจมีบุคคลอื่นทำแบบเดียวกัน จึงไม่มีเหตุอันควรรอการลงโทษ ศาลแขวงจังหวัดราชบุรี จึงมีคำสั่งพิพากษา นางวันทนา โอทอง หรือ ป้านา จำคุก 6 เดือน 10 วัน ปรับ 1,000 บาท โดยไม่รอลงอาญา
ต่อมาในเวลา 12.00 น. หลังทนายยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลแขวงราชบุรีได้มีคำสั่งให้ประกันตัว น.ส.วันทนา โดยให้วางหลักทรัพย์ประกันในชั้นอุทธรณ์เพิ่มอีก 10,000 บาท รวมกับหลักทรัพย์ประกันเดิมในศาลชั้นต้น 20,000 บาท รวมเป็นเงินประกัน 30,000 บาท ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนราษฎรประสงค์
โดยหลังจากได้รับการประกันตัว น.ส.วันทนาได้เดินออกมาบริเวณริมถนนหน้าศาลแขวงจังหวัดราชบุรี ก่อนจะโกนผมตัวเอง พร้อมกับพูดเปิดใจกับทีมข่าวว่า ผลการตัดสินของศาลในวันนี้ ไม่ได้ผิดจากที่ตนคาดการณ์ไว้ แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อว่าการใช้สิทธิ์ของประชาชนคนหนึ่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการสะท้อนปัญหาด้านเศรษฐกิจ ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตทั้งต่อตนและครอบครัว จะมีความผิดร้ายแรงถึงขั้นจำคุกกันขนาดนี้
ส่วนสาเหตุที่ตนโกนผม เพราะรู้สึกน้อยใจและเสียใจกับผลการตัดสินในวันนี้ รวมไปถึงเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับประชาชนตัวเล็กๆ ที่ต้องการบอกถึงความเดือดร้อนต่อผู้นำประเทศ โดยความคิดที่เห็นต่างเหล่านี้ นายกต้องยอมรับแล้วนำไปปฏิบัติ.