รสนา ยื่นสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ตรวจสอบและระงับโครงการแจกเงิน 1 หมื่น พร้อมยก 6 ข้อ ส่อให้เกิดความเสียหายแก่การเงินการคลังของรัฐ ชี้อาจะเหมือนกรณีจำนำข้าวรัฐมนตรีต้องติดคุก
นางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร ยื่นหนังสือต่อผู้แทนประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามในมาตรา8 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2561 กรณีแจกเงินดิจิตอล 10,000 บาท ว่า วันนี้มายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดินประเด็นของการแจกเงินดิจิตอล 10,000 บาท ที่ผ่านมามีกฎหมายของทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินในมาตรา 8 หากพบว่ามีนโยบายของรัฐที่อาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ ขัดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และอาจมีผลเสียหายต่อเศรษฐกิจการเงินการคลังของรัฐ ประธานสตง. สามารถที่จะมอบหมายให้ผู้ว่าสตง. ตรวจสอบเรื่องต่างๆ เหล่านั้น และหากพบว่าเป็นสิ่งที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ขัดต่อกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และมีผลเสียหายต่อระบบการเงินการคลังของรัฐอย่างร้ายแรงประธานสตง. สามารถจะเชิญให้ประธาน กกต. และประธาน ป.ป.ช. มาพิจารณาร่วมกัน และเมื่อพิจารณาแล้วพบว่ามีความเสียหายตามที่มีการศึกษามารวมถึงที่มีการตรวจสอบมา ก็สามารถที่จะทำรายงานโดยการลงชื่อ ทั้งนี้ต้องมีเสียงของ 3 องค์กรเห็นด้วย โดยต้องมีเสียงไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 จากนั้นสามารถทำรายงานส่งไปยัง สส. ส.ว. และรัฐบาล เพื่อยับยั้งนโยบายดังกล่าวนี้
สำหรับเนื้อหาในเอกสารที่ยื่นนั้น มี 6 ประการที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบการเงินการคลังของรัฐ และอยากให้ทางสตง. นำไปตรวจสอบ 1.ผลได้ไม่คุ้มเสีย 2.ขัดต่อพระราชบัญญัติเงินตรา 3.เพิ่มความสิ้นเปลืองแก่ประเทศโดยไม่จำเป็น 4.หลีกเลี่ยงหลักการใช้เงินแผ่นดิน 5.ซุกหนี้สาธารณะ 6.ขัดกับพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 มาตรา 9 วรรค 3
นางรสนา ระบุว่า หากเทียบในกรณีจำนำข้าว เราเห็นว่ารัฐมนตรีจะต้องติดคุก แต่จะมีประโยชน์อะไร เนื่องจากเงินเราสูญหายไป ตนในฐานะประชาชนเป็นเจ้าของภาษีที่เป็นเงินที่รัฐบาลจะต้องนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ดังนั้นการทำหน้าที่ในวันนี้เรามาทำหน้าที่ในฐานะประชาชนที่เรียกร้องให้องค์กรตรวจสอบได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวนี้