5 เทคนิคผ่อนบ้าน เงินต้นหมดเร็ว เสียดอกไม่เยอะ ปิดหนี้ได้ไว สบายใจ สบายตัว

3 พ.ย. 66

5 เทคนิคผ่อนบ้าน เงินต้นหมดเร็ว เสียดอกไม่เยอะ ปิดหนี้ได้ไว สบายใจ สบายตัว

"หนี้บ้าน" เป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่ต้องผ่อนชำระกันอย่างยาวนาน และดอกเบี้ยค่อนข้างสูงกว่าหนี้อื่นๆ แต่จะทำอย่างไรให้หนี้บ้าน ไม่บาน ปลดหนี้ได้ไว เงินต้นลดเร็ว เสียดอกเบี้ยน้อย ที่นี่มีคำตอบ

5 เทคนิค ผ่อนบ้านให้หมดเร็ว

1. จ่ายเกินทุกงวด

เงินค่าผ่อนบ้านต่อเดือนที่จ่ายให้กับธนาคาร จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ เงินต้น และ ดอกเบี้ย โดยปกติธนาคารจะกำหนดอัตราผ่อนสินเชื่อที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด หรือทาวน์โฮมในอัตราต่ำสุด เช่น ค่างวดเดือนละ 10,000 บาท ระยะเวลา 30 ปี หากจ่ายเพิ่มไปเป็นงวดละ 20,000 บาท จะลดระยะเวลาผ่อนเหลือเพียง 9-10 ปีเท่านั้น

2. โปะเพิ่มปีละครั้ง

เนื่องจากการผ่อนบ้านเป็นการ “ผ่อนแบบลดต้นลดดอก” การโปะเป็นวิธีการลดเงินต้นและดอกเบี้ยแบบเดียวกับการชำระเกิน แต่จะเป็นการจ่ายก้อนเดียวในงวดในงวดหนึ่ง เช่น จากเดิมจ่ายค่างวดเดือนละ 10,000 บาทในงวดที่ 1-10 แต่งวดที่ 11 จ่ายเพิ่มเป็น 50,000 บาท ก็จะช่วยลดเงินต้นได้จำนวนหนึ่งเช่นกัน การโปะจึงเป็นวิธีที่จะช่วยให้เราสามารถลดเงินต้นได้มากที่สุดและเมื่อเงินต้นลด ดอกเบี้ยที่จะตามมาก็ลดลงไปด้วยเช่นกัน หรือพูดง่ายๆ ว่ายิ่งผ่อนมากเท่าไหร่จึงยิ่งหมดไวเท่านั้น

3. โปะเพิ่มในช่วงอัตราดอกเบี้ยต่ำ

เมื่อธนาคารอนุมัติแล้ว ส่วนใหญ่อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อที่อยู่อาศัยมักได้อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก ซึ่งเป็นเรตอัตราดอกเบี้ยต่ำ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสดีสำหรับการโปะเงินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดจำนวนเงินต้นได้อย่างรวดเร็วและจะทำให้ดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายในช่วงหลังจากนี้ลดลงไปด้วย โดยอาจจะข่ายเกินในแต่ละงวด หรือเลือกโปะเป็นก้อนก็ได้

4. ปรับโครงสร้างหนี้ด้วยการรีไฟแนนซ์ (Refinance) หรือรีเทนชัน (Retention)

ดอกเบี้ยบ้านมักเป็นดอกเบี้ยแบบ MRR มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นในปีต่อๆ ไป เช่น จากในช่วง 3 ปีแรก อัตราดอกเบี้ย 3% แต่เมื่อเข้าปีที่ 4 ดอกเบี้ยปรับตัวเป็น 6.5% ซึ่งจะทำให้ยิ่งลดเงินต้นได้ยากมากขึ้น การปรับโครงสร้างหนี้จึงเป็นทางเลือกของการปรับอัตราดอกเบี้ย โดยมีอยู่ 2 วิธีคือ

รีไฟแนนซ์ (Refinance) การรีไฟแนนซ์คือการย้ายหนี้บ้านจากธนาคารเดิม ไปอีกธนาคารหนึ่ง เพื่อขอรับอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าเดิม ทำให้ยังคงผ่อนในอัตราดอกเบี้ยต่ำเช่นเดียวกับช่วง 3 ปีแรกของการผ่อน ลดเงินต้นได้เร็วขึ้น สามารถปิดหนี้ได้เร็วขึ้น และช่วยลดภาระการผ่อนบ้าน

รีเทนชัน (Retention) เป็นวิธีปรับดอกเบี้ยให้ลดลงด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่กับธนาคารเดิม หลังจากครบกำหนดผ่อนชำระ 3 ปี โดยผู้ที่ขอรีเทนชันจะต้องมีประวัติการผ่อนชำระที่ดี ข้อดีของวิธีนี้คือ หากมีประวัติการผ่อนบ้านดี ไม่เคยผิดนัดชำระ โอกาสที่ธนาคารจะอนุมัติ Retention เพื่อปรับลดดอกเบี้ยก็ง่ายขึ้น

5.หยุดการสร้างหนี้เพิ่ม

หนี้บ้านเป็นหนี้ก้อนโตที่ภาระหนัก หากผู้ผ่อนก่อหนี้อื่นเพิ่มเติม เช่น บัตรเครดิต รถยนต์ สินเชื่อ ก็อาจทำให้เสียสภาพคล่องในการผ่อนชำระบ้านให้หนี้หมดอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงไม่ควรสร้างหนี้เพิ่ม ควรหารายได้เสริม หรือจากการเก็บออมนำมาโปะบ้าน ทยอยปิดหนี้ให้สบายตัว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม