ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยอมรับ เสี่ยแป้ง วางเเผนหนีเป็นเดือนอย่างเเยบยล หากจับตัวได้ส่งไปอยู่เรือนจำความมั่นคงสูง ป้องกันเหตุซ้ำรอย
เมื่อเวลา 13:45 น. วันที่ (12 พ.ย.66) พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ มาที่ศูนย์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง ตำบลตะโหมด อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง เพื่อร่วมประชุมรับฟังความคืบหน้ากรณีการติดตามตัว นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ"เสี่ยแป้ง" โดยมี พลตำรวจตรีปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าในที่ประชุม
หลังจากเข้าร่วมประชุมเป็นระยะเวลากว่า 1 ชั่วโมง พันตำรวจเอกทวี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าวันนี้เดินทางมาให้กำลังใจชุดปฏิบัติการ ขณะเดียวกันกระทรวงยุติธรรมต้องขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ปฏิบัติภารกิจอย่างทุ่มเท สำหรับการประชุมในครั้งนี้ได้รับรายงานว่าวันที่ 8 พฤศจิกายน จากการพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พบว่าผู้ก่อเหตุยังคงอยู่ในพื้นที่เทือกเขาบรรทัด ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่นั้นทางเจ้าหน้าที่มีการวางแผนและประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา เพื่อที่จะติดตามต่อคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้
สำหรับเทือกเขาบรรทัดนั้นในอดีตเป็นตำนานสถานที่หลบหนีของผู้ก่อความผิด ซึ่งเป็นที่นิยมมาก เนื่องจากสถานที่เอื้อต่อการหลบหนี เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมยาก ซึ่งครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการระดมสรรพกำลังไม่ต่ำกว่า 400 คน เพื่อไล่ล่าคนร้าย ขณะเดียวกันก็ต้องทำความเข้าใจกับชุมชนโดยรอบ ถึงผลกระทบต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นขณะปฏิบัติหน้าที่
เมื่อถามว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กรมราชทัณฑ์จะนำไปถอดบทเรียนอย่างไรบ้าง โดยภาพรวมกรมราชทัณฑ์ มีระเบียบปฏิบัติที่ดูแลเรื่องนักโทษอยู่แล้ว แต่อีกด้านก็ต้องยอมรับว่ากรณีของนักโทษรายนี้ มีพฤติการณ์ที่เเยบยล และมีการวางแผนมาเป็นเดือน โดยได้อาศัยช่องว่างเกี่ยวกับหมอ โดยเสี่ยแป้งอ้างว่ามีปัญหาเกี่ยวกับช่องปาก จึงขอให้หมอนัดออกไปโรงพยาบาลด้านนอกเรือนจำ เพื่อทำทันตกรรม จากนั้นได้มีวิธีการหลอกล่อทำให้ตัวเองความดันตก และสร้างสถานการณ์ว่าป่วย ประกอบกับสถานที่โรงพยาบาลค่อนข้างพลุกพล่าน จึงทำให้มีการช่องโหว่ในการดูแลและสามารถหลบหนีออกไปได้
สำหรับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตอนนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 3 คน ซึ่งจะต้องโดนดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนบุคคลที่ไม่มีความผิดทางอาญาก็จะลงโทษทางวินัย หากมีการสอบสวนว่าร่วมกระทำความผิดเพิ่มเติม ก็จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้หากจับกุมเสี่ยเเป้งได้ก็จะพิจารณาให้ไปอยู่ในเรือนจำที่มีความมั่นคงสูง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกรมราชทัณฑ์จะต้องแก้ไข รับผิดชอบและต้องทำให้ดีขึ้น