หนุ่มเพี้ยน บุกทุบ โต๊ะหมู่บูชา-แจกันลายคราม ในโบสถ์วัดดังกลางเมืองอุดรฯ

27 พ.ย. 66

 

หนุ่มเพี้ยน บุกทุบ โต๊ะหมู่บูชา–แจกันลายคราม ในโบสถ์วัดดังกลางเมืองอุดรฯ รวมมูลค่า 1.4แสน แตกเสียหาย ตำรวจเปิดวงจรปิดเร่งล่าตัว 

วันที่ 27 พ.ย. 66 ที่วัดมัชฌิมาวาส (อารามหลวง) ถนนวัฒนานุวงศ์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี พระครูประสิทธิ์ กิตติสาร พระเลขาเจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.กิตติภูมิ อัครวิทยานุกูล สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานีว่า มีคนร้ายเป็นชายบุกเข้ามาทำลายสิ่งของภายในอุโบสถได้รับความเสียหาย โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน เหตุเกิดเวลา 14.37 น. วันที่ 26 พ.ย. 66 

โดยสามเณรปรัมทธ์ เม้าราศี อายุ 14 ปี เล่าว่า ขณะที่พระกำลังทำพิธีบังสุกุลงานศพที่ศาลาได้มีชาวบ้านมาบอกว่ามีผู้ชายเข้าไปทุบทำลายสิ่งของภายในอุโบสถได้รับความเสียหาย จึงรีบไปดูก็พบว่าประตูอุโบสถเปิดภายในสิ่งของถูกทุบแตกเสียหายกระจัดกระจาย มีแจกันลายคราม 2 ใบราคา คู่ละ 65,000 บาท โต๊ะหมู่บูชา ราคา 60,000 บาท เครื่องขยายเสียง ราคา 8,000 บาท นาฬิกาฝาผนัง 1 เรือน และป้ายหินอ่อนหน้าพระอุโบสถถูกทุบแตกหัก ราคา 10,000 บาท รวมมูลค่าเสียหายประมาณ 1.4 แสนบาท 

“เมื่อเดินออกมาหน้าอุโบสถ พบผู้ก่อเหตุเป็นผู้ชายอายุประมาณ 30-35 ปี คาดว่าจะเป็นคนสติไม่ดี หลังก่อเหตุไปนั่ง และยืนถอดเสื้ออยู่ใต้ต้นไม้หน้าอุโบสถ พร้อมกับบ่นพึมพำอยู่คนเดียว พอเห็นตนก็หยิบอิฐตัวหนอนมาขว้างปาใส่ ก่อนจะเดินหนีออกจากวัดไป ซึ่งตนเคยเห็นผู้ชายคนนี้เข้ามาวัดทุกวันประมาณ 3-4 เดือน คาดว่าจะเสพยาเสพติดจนหลอน และคลั่ง เคยขว้างปาจานกระเบื้องข้างหอระฆัง ตนจึงไปแจ้งพระเลขามาตรวจสอบ และแจ้งตำรวจให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี” 

จากการตรวจภาพวงจรปิด พบว่าเวลา 14.37 น. พบชายมีลักษณะสติไม่สมประกอบ สวมเสื้อแขนยาวกางเกงขาสั้นเดินขึ้นมาหน้าโบสถ์ และทำลายข้าวของที่วางอยู่หน้าโบสถ์ ทั้งโยนพานทิ้ง และเตะข้าวของ เขย่าตู้เซฟรับบริจาค จากนั้นก็เข้าไปทุบทำลายสิ่งของภายในอุโบสถ ซึ่งเวลานั้นไม่ได้ล็อกประตู เสร็จแล้วออกมายืนถอดเสื้ออยู่ใต้ต้นไม้ และเดินหลบหนีออกจากวัดไป 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้มีคนร้ายเป็นชายเข้ามาลักเงินในตู้บริจาคหน้าอุโบสถหลายครั้ง และยังจับตัวไม่ได้ นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาลรองผบ.ตร. เคยเดินทางมาสักการะหลวงพ่อนาค พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่หน้าอุโบสถ ก่อนจะถูกตำรวจไซเบอร์นำกำลังบุกค้นบ้านพัก 1 วัน ซึ่งทางวัดอยากให้ตำรวจติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี และให้ตำรวจสายตรวจมั่นเข้ามาตรวจตราดูแลภายในวัดให้ เพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดซ้ำรอยอีก

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส