ตร. ยัน เมียทหารดับปริศนา ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่น

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประชุมความคืบหน้าเหตุเมียทหารเสียชีวิตปริศนาภายในแฟลตทหาร เบื้องต้นไม่ใช่การฆ่าตัวตาย แต่ยังไม่ตัดเรื่องอุบัติเหตุและการฆาตกรรมออกไป

พลตำรวจตรี อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เข้าร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าในคดีการเสียชีวิตปริศนาของ นางสาว ประกายแก้ว โรจน์ธนวรกุล  อายุ 36 ปี ภรรยาจ่าทหาร ที่บ่อขยะภายในแฟลตทหารกองทัพภาคที่ 1 ย่านพญาไท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

โดยพลตำรวจตรี อรรถพล กล่าวภายหลังการประชุมว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก ได้มีการสอบพยานที่ใกล้ชิดและที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 10 ปาก มีการรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์แล้ว มาขนาดนี้ยังไม่มีการตัดประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุบัติเหตุ หรือ การฆาตกรรม เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่ปิด คนนอกเข้าไม่ได้ การสอบพยานใกล้ชิดค่อนข้างจะครอบคลุมแล้ว แต่ก็ยังมีอีกบางประเด็นที่จะต้องพิสูจน์ทราบสาเหตุที่แท้จริง

นอกจากนี้ ยังชี้แจงว่า การที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวว่ามีการใช้โทรศัพท์มือถือของผู้ตายในพื้นที่บางนานั้นไม่เป็นความจริง ส่วนข้อเท็จจริงนั้นขอสงวนไว้ก่อนยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งเบื้องต้นในขณะที่พบศพนั้นไม่พบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายในที่เกิดเหตุ คดีนี้ไม่มีความซับซ้อน แต่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานในบางประเด็น ถ้าได้ข้อมูลเพิ่มเติมอีก 2-3 ประเด็น ก็จะสามารถชี้ชัดถึงสาเหตุได้ว่าเป็นอุบัติเหตุหรือการฆาตกรรม แต่ไม่ใช่การฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน และสภาพศพก็ไม่ได้มีบาดแผล โดยผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จะทราบในสัปดาห์หน้า เช่น ผลการตรวจแอลกอฮอล์ในร่างกาย

ด้าน พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตํารวจนครบาล เปิดเผยว่า ให้ส่งชุดสืบสวนไปสนับสนุนร่วมคลี่คลายคดีด้วยแล้ว คาดว่าคดีจะมีความชัดเจนในเร็ว ๆ นี้

ขณะที่ พลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากแนวทางการสืบสวนของตำรวจ พบว่า เป็นการเสียชีวิตผิดธรรมชาติ และมีเงื่อนงำ อาจจะไม่ใช่การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ขณะที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนยังมีข้อสงสัยในหลายประเด็น จากร่องรอยบางอย่างในที่เกิดเหตุด้วย อีกทั้งจากการตรวจสอบข้อมูลจากทางครอบครัว ก็ยังไม่พบมูลเหตุจูงใจที่จะทำให้ผู้เสียชีวิตไปก่อเหตุฆ่าตัวตายได้ รวมถึงวิธีการฆ่าตัวตายในลักษณะนี้ ก็ยังไม่สอดคล้องความเป็นจริง

ทั้งนี้จากการที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนยังมีข้อสงสัยในหลายประเด็น จึงยังอยู่ระหว่างหาพยานหลักฐานและความเชื่อมโยงในชนวนเหตุต่างๆ ทั้งเรื่องหนี้สิน ชู้สาว และอื่น ๆ โดยยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง รวมถึงกรณีของการเกิดอุบัติเหตุพลัดตกลงมาเสียชีวิตเองด้วย โดยคดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะยังอยู่ระหว่างสืบสวนหาพยานหลักฐาน ซึ่งรวมถึงโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตที่หายไป ที่ถือเป็นหลักฐานสำคัญทางคดี

ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิตได้ไปติดต่อรับศพ นางสาว ประกายแก้ว ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ โดยมีกำลังพลจากกองทัพภาคที่ 1 เดินทางมาด้วย แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพทำจ่าง และสัมภาษณ์ครอบครัวของผู้เสียชีวิต ก่อนจะนำไปบำเพญกุศลที่วัดตะขบ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารยังได้นำตัวทหาร 2 นาย มาเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำในฐานพยาน