“สาธิต” แถลงลาออกจากสมาชิกประชาธิปัตย์ ตาม “อภิสิทธิ์” ด้วยเหตุผล 4 ข้อ เผยอาจมีลาออกตามอีกเพียบ ขอเฝ้าดูผู้บริหารชุดใหม่พาพรรคไปสู่จุดไหน
9 ธ.ค.2566 เมื่อเวลา 12.15 น.ที่ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ กทม. นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หรือ ปชป. แถลงลาออกจากสมาชิกพรรคด้วยเหตุผล 4 ข้อว่า
- สถานการณ์ของพรรคมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงอุดมการณ์เป็นอย่างมาก และจากที่มาร่วมประชุมรู้สึกว่าเป็นการประชุมเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคเหมือนกับรู้ผลมาก่อนล่วงหน้า เพราะฉะนั้นทิศทางทิศทางและแนวทางทางการเมืองของพรรคที่ผ่านมาจนมาถึงวันนี้ ตนเห็นว่าละทิ้งอุดมการณ์ของพรรค จะเห็นได้จากเหตุการณ์การจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมามีการไปลงมติให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ ทั้งที่พรรคมีมติแล้วว่าให้งดออกเสียง นั่นคือความชัดเจนว่าทิศทางของพรรคในเชิงอุดมการณ์การเปลี่ยนแปลง
- มีคนกลุ่มหนึ่งในพรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับคำว่าพรรคพวกมากกว่าจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน และมากกว่าอุดมการณ์ที่มีมาอย่างยาวนานของพรรค เราอาจจะเห็นทิศทางของการนำพาพรรคในการนำพาพรรคในอนาคตอย่างชัดเจน อย่างชัดเจนว่าจะเป็นอย่างไร ทางการเมืองเพราะปราศจากจุดยืนทางการเมือง
- ทิศทางของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เปิดโอกาสให้ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทั้งที่ในที่ประชุมมีผู้เสนอตัวลงสมัครหัวหน้าพรรค โดยต้องใช้การงดเว้นข้อบังคับโดยใช้เสียง3 ใน4 แต่ปรากฏว่าไม่ให้ลงสนามเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นจึงถือว่าการเปลี่ยนแปลงของพรรคไม่เป็นไปในทิศทางที่มีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน แต่ใช้ความเป็นพรรคพวกมาตัดสินทุกเรื่องในการนำพาพรรค
- คนที่จะมานำพาพรรคไม่รักษาสัจจะวาจา อย่าว่าแต่เป็นผู้บริหารพรรคเลย เป็นนักการเมืองก็เป็นไม่ได้เพราะคำพูดและสัจจะที่เราให้ไว้กับประชาชนในที่สาธารณะเปรียบเสมือนนโยบายที่ต้องรักษา นักการเมืองที่ดีต้องพึ่งรักษา
“ดังนั้นถ้านักการเมืองที่มีคุณสมบัติแบบนี้มานำพาพรรคผมเห็นว่าทิศทาง ในอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์ก็จะถูกประชาชนลงโทษ ผมจึงตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคตลอดเวลา 13 ปีที่ผ่านมามีความผูกพันกับพรรคและจะดูว่าคนที่จะบริหารพรรคจะนำพาพรรคไปสู่จุดไหนและจะติดตามเฝ้าดู ถ้ามีโอกาสก็พร้อมจะกลับมาร่วมงานกับเพื่อนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ในโอกาสครั้งต่อไป“ นายสาธิต กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้จะไปทำงานเมืองพรรคการเมืองไหน นายสาธิต กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการตัดสินใจว่าจะไปอยู่พรรคไหน แต่วันนี้ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรค ซึ่งการลาออกครั้งนี้เป็นการตัดสินใจของตนคนเดียวและคิดว่าจะมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ที่มีแนวความคิดตรงกันก็แล้วแต่จะตัดสินใจ ตนไม่ได้ชวนใคร