นายกฯพร้อมภริยา นำ ครม. ทำบุญปีใหม่ก่อนประชุมนัดแรกของปี

ปีใหม่ “นายกฯ” พร้อมภริยา นำ ครม.ทำบุญปีใหม่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนนั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.นัดแรกของปี

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 2 มกราคม 2567 ที่ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นวันเปิดทำงานครั้งแรกในปี 2567 ของทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา นำ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำบุญประกอบพิธีสงฆ์เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2567 โดยมี สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ประกอบด้วย

สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรวิทยาราม, สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม, สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม, สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี วัดไตรมิตรวิทยาราม, พระพรหมกวี วัดกัลยาณมิตร, พระพรหมวชิรมุนี วัดสุทัศนเทพวราราม, พระธรรมโพธิมงคล วัดสระเกศ, พระธรรมราชานุวัตร วัดโมโลกยาราม, พระธรรมวชิรญาณ วัดบวรนิเวศวิหาร และพระธรรมวชิรมุนี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์

จากนั้นนายกฯพร้อมภริยา นำครม.และคู่สมรส ร่วมทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ 58 รูป จากวัดโมลีโลกยาราม รวม 68 รูป บริเวณรอบสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า

โดยวันนี้นายกรัฐมนตรีและภริยามีสีหน้ายิ้มแย้ม ทักทายข้าราชการเจ้าหน้าที่และคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นกันเอง โดยนายกรัฐมนตรีได้สวมเสื้อผ้าไทยสีเหลือง พร้อมกางเกงสีเทา

ซึ่งภายหลังทำบุญตักบาตรเสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรี ได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำทำเนียบรัฐบาลโดยเริ่มที่พระพรหม บนตึกไทยคู่ฟ้า ศาลพระภูมิ ศาลตาศาลยาด้วย

สำหรับการประชุม ครม. นัดแรกของปี 2567 มีวาระการพิจารณาที่น่าสนใจได้แก่ กระทรวงพลังงาน รายงานมติคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้องเพลิง หรือ กบน. ตามมติที่ประชุม กบน. รายงานมาตรการรักษาระดับราคาน้ำมันดีเซลให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร เพื่อให้คงราคาจำหน่ายหน้าสถานีบริการน้ำมันไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2567 โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการอุดหนุนราคาน้ำมันขายปลีกดีเซล และพิจารณามาตรการราคาไฟฟ้า

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอขออนุมัติการเพิ่มวงเงินในสัญญารายการทำนบดินหัวงาน และอาคารประกอบโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำเฮี้ย จังหวัดเพชรบูรณ์

กระทรวงพาณิชย์ เสนอการลงนามพิธีสารฉบับที่ 2 เพื่อแก้ไขความตกลงจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ รวมถึงการเสนอร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงซึ่งออกตามกฎหมายว่าด้วยหอการค้าบางฉบับที่ไม่เหมาะสมกับกาลปัจจุบัน (ยกเลิกค่าธรรมเนียมหอการค้า)

สำหรับวาระเพื่อทราบ ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข เสนอรายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ 30 บาทรักษาทุกโรค ให้ ครม.รับทราบเพื่อเตรียมการเปเปลี่ยนผ่านโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคสู่ 30 บาทรักษาทุกโรคพลัส ตามนโยบายรัฐบาล โดยมีสาระสำคัญคือการขับเคลื่อนสิทธิ์ในการรักษา 5 เรื่อง ให้แก่ผู้ได้รับสิทธิ์โดยใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ได้แก่ ฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก เพิ่มโรงพยาบาลรักษาในพื้นที่ กทม. การเพิ่มบริการสุขภาพจิต และสถานชีวาภิบาล