ร้อยตำรวจตรีที่นครสวรรค์ ปัดค้ายาข้างโรงพัก-ชุดสืบงัดหลักฐานเด็ดโต้

23 ม.ค. 67

ความคืบหน้ากรณี ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ รองสารวัตรฝ่ายปราบปราม สภ.หนองปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ถูกจับกุมหลังลักลอบค้ายาข้างโรงพัก เจ้าตัวออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ค้ายา ขณะที่ชุดสืบยืนยันมีหลักฐาน ไม่ได้มีการกลั่นแกล้ง

จากกรณีการจับกุมตัว ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ อัมพเศวตร์ อายุ 55 ปี รองสารวัตรฝ่ายปราบปราม สภ.หนองปลิง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ลักลอบค้ายาบ้าบริเวณข้างโรงพักที่ตนเองสังกัดอยู่ จนนำไปสู่การถูกล่อซื้อและจับกุมตัวได้คาเครื่องแบบ พร้อมขอกลางยาบ้าหลังชุดจับกุมได้ส่งสายไปล่อซื้อและเป็นที่มาของการจับกุม

ล่าสุด ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ได้ออกมาให้ข่าวกับสื่อส่วนกลางว่าตนเองโดนวางงานและค้นห้องพักจนได้ยามาทั้งสิ้น 333 เม็ด และอ้างว่าที่ตนเองไม่มียาเสพติดและไม่มีการล่อซื้อตามที่เป็นข่าว ส่วนเงินล่อซื้อที่เจอที่ตัวอ้างว่า นายบอยนำเงินมาใช้หนี้ตนเอง และมีเบอร์แบ็งค์ตามที่ชุดจับกุมได้อ้างไว้

ด้านชุดจับกุม ได้งัดคลิปหลักฐานกระบวนการล่อซื้อ โดยคลิปแรกเป็นคลิปช่วงที่นกต่อโทรศัพท์ไปหา ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ และนัดซื้อขายยาเสพติดกัน

คลิปที่ 2 เป็นคลิปช่วงที่นกต่อ ไปซื้อขายยาบ้ากับ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ที่โต๊ะหินอ่อนข้าง สภ.หนองปลิง หลังจากส่งของกันเสร็จ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ได้เดินเข้าโรงพักไป ซึ่งเป็นเหตุการณ์ก่อนถูกบุกจับ โดยชุดสืบสวนสามารถถ่ายคลิปเหตุการณ์ไว้ทั้งหมด

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีย้อนกลับไปพูดคุยกับ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ อัมพเศวตร์ ผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งพูดจาตอบสื่อวกไปวนมา และบางคำถามก็ตอบสื่อไม่เป็นประเด็น

ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ตนถูกจับและมีการยกมือไหว้ผู้การและผู้กำกับนั้น ตนเพียงอยากขอความสงสาร แต่ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนค้ายาเสพติด และถ้าจะให้ตนออกราชการ ก็อยากให้มอบบำเหน็จบำนาญให้ตนบ้าง เพราะตนไม่มีเงินเก็บในบัญชีเลย ยืนยันว่าไม่ได้ค้ายา ถ้าค้ายาตนก็คงมีเงินมากกว่านี้ไปแล้ว รวมถึงการจับกุมในครั้งนี้ เขาไม่เจอยาเสพติดที่ตนเลย ส่วนที่ตำรวจอ้างว่าไปค้นแฟลตของตนแล้วเจอยาบ้า 82 เม็ด ก็ไม่เป็นความจริง เขาอ้างว่าเจอหลักฐานแต่ไม่เคยพาตนไปถ่ายรูปตอนเจอยาเลย ทั้ง ๆ ที่กระบวนการปกติ หากค้นเจอยาเสพติดในที่พัก เขาต้องให้ตนไปยืนชี้และถ่ายรูป ในส่วนที่เขาอ้างว่าตรวจปัสสาวะตนแล้วเป็นสีม่วงนั้น ตนยืนยันว่าไม่ใช่ปัสสาวะของตน ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าปัสสาวะที่เจอสารเสพติดนั้นเป็นปัสสาวะของใคร

พ.ต.อ.วิริยะบัณฑิตย์ สถิตย์สุชาติ ผกก.สภ.หนองปลิง เปิดเผยว่า ยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้ง ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ และดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายทุกอย่าง ซึ่งในวันเกิดเหตุตนก็เป็นคนนำทีมจับกุมด้วยตัวเอง เจอของกลางชัดเจน ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ก็รับสารภาพโดยไม่มีข้อโต้แย้งต่อตนและผู้บังคับการ รวมถึงไปล่อซื้อต่ออีกด้วย

ยืนยันว่าไม่เจอยาเสพติดของกลางในตัว ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ แต่เจอธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อ ส่วนยาเสพติด 40 เม็ดนั้น ได้จากการล่อซื้ออีกเจ้าหนึ่ง ซึ่งตนยืนยันว่า ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ มีการส่งยาเสพติดจริง ๆ โดยทุกกระบวนการมีการถ่ายคลิปไว้ทั้งหมด

ผู้บังคับบัญชาพิจารณาหลักฐานซึ่งมีความชัดเจน จึงให้ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ออกจากราชการไว้ก่อน ต่อมา ได้เจอยาเสพติดอีก 82 เม็ด โดยหลังจาก ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ถูกจับ ได้ใช้ให้สิบเวรไปหยิบเครื่องใช้ส่วนตัวที่อยู่ในห้องควบคุมของโรงพัก ก็พบยาเสพติดอีก 82 เม็ด ซึ่ง ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ยังคงปฏิเสธว่าไม่ใช่ตัวเอง เบื้องต้นได้นำยาเสพติดดังกล่าวไปตรวจดีเอ็นเอของ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์

อย่างไรก็ตาม ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ ได้รับการประกันตัวและมีการอ้างว่ายาเสพติดไม่ใช่ของเจ้าตัว และอ้างว่าปัสสาวะที่ตรวจไม่ใช่ของเจ้าตัว รวมถึงคำกล่าวอ้างที่ว่า นกต่อที่ชื่อ บอย และ ตุ้ย เป็นหนี้เขาจนต้องเอาเงินมาจ่ายให้ จนนำมาสู่การเจอธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อ ตนมองว่าเป็นแนวทางการต่อสู้คดีของเขามากกว่า

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ขอข้อมูลจากชุดจับกุมพร้อมขอคำชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น ได้ชี้แจงว่าชุดจับกุมได้ให้สายล่อซื้อยาจาก ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ โดยมีการลงบันทึกประจำวันและเบอร์เงินล่อซื้อจำนวน 1,500 บาท โดยให้ไปล่อซื้อยาบ้าจำนวน 50 เม็ด จาก ร.ต.ต.สุทธิรัตน์โดยให้สายล่อซื้อโดยการโทรหาพร้อมนัดรับของกันที่ข้างโรงพัก โดยมีชุดจับกุมเฝ้าดูและถ่ายคลิปตามขั้นตอน โดยสายได้จ่ายเงินไปจำนวน 1,500 บาท แต่สายได้รายงานว่าได้ติดหนี้ ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ จึงได้ยามาแค่ 40 เม็ดและเงินล่อซื้อที่เจอในตัวมีแค่ 1,000 ตามที่กล่าวอ้างว่านายบอยนำมาใช้หนี้นั้น ร.ต.ต. สุทธิรัตน์ ได้จ่ายค่าล้างแอร์ไป 800 บาททำให้แบงค์ที่ล่อซื้ออยู่ที่ตัว 1,000 บาท

ส่วนเรื่องของกลางตามที่ ร.ต.ต. สุทธรัตน์อ้างว่าไม่มีที่ตัวตนเองนั้นชุดจับกุมได้ชี้แจงว่าวันที่จับมีเพียง 40 เม็ด ที่ล่อซื้อได้เท่านั้นส่วนอีก82เม็ด ได้เจอที่ห้องน้ำในโรงพักแต่ด้วยลักษณะสียาและการจัดเก็บตรงตามที่  ร.ต.ต.สุทธิรัตน์ นำมามอบให้กับสายล่อซื้อ  และได้ส่งกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อหารอยนิ้วมือแล้วและที่อ้างว่าไปตรวจค้นที่ห้องพักกับที่รถแล้วไม่ให้ตนชี้ของกลางชุดจับกุมแจ้งว่าไม่เจอยาที่ห้องพักและที่รถจึงไม่มีการชี้ของกลาง แต่ได้ให้เซ็นเอกสารการตรวจฉี่และใบรับสารภาพ ร้อยตำรวจตรี สุทธิรัตน์ ได้ปฏิเสธไม่ยอมเซ็นต์เอกสารใด ๆ ทั้งสิ้นขอให้การในชั้นศาลและขอประกันตัวออกมาสู้คดีจนเป็นที่มาของการให้ข่าวดังกล่าว ชุดจับกุมยืนยันไม่มีการกลั่นแกล้งใด ๆ ทั้งสิ้นทำตามกฎหมาย ล่าสุดต้นสังกัดทำเรื่องให้ออกจากราชการไว้ก่อน และทำเรื่องค้านการประกันตัวเกรงว่าจะมาข่มขู่พยานคาดว่าจะมีคำสั่งมาเร็ว ๆ นี้

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส