“สุทิน” พร้อมฟัน ไม่เลี้ยงคนเอี่ยวกระทำผิดออก ใบสด.ปลอม แม้เกษียณฯ ก็ลากตัวเข้าคุก พร้อมยกเลิกบำเหน็จบำนาญได้
วันที่ 6 ก.พ. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นาย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุเดินหน้าตรวจสอบทหารขายใบ สด.ปลอมว่า อยากให้สังคมพิจารณาด้วยความเป็นธรรม กรณีใบ สด. เกี่ยวข้องกับสองฝ่าย คือผู้ที่ไปขอและผู้ที่ให้ ซึ่งผิดทั้งคู่ แต่ต้องดูว่าฝ่ายใดเริ่มก่อน เพราะคงไม่มีใครไปเร่เสนอขายใบ สด. เพื่อกระทำผิด
แต่อยากให้ดูว่าใครเป็นต้นทางทำผิด อย่าเบี่ยงประเด็น หากตรวจสอบว่าใครกระทำผิด ทางกระทรวงกลาโหมไม่เลี้ยงไว้แน่นอน แม้จะเกิดขึ้นหลายปี หรือบุคคลนั้นเกษียณฯไปแล้ว สามารถลงโทษย้อนหลัง ยกเลิกบำเหน็จ บำนาญทั้งหมด และนำตัวดำเนินคดีได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสั่งการหน่วยรักษาการรักษาดินแดน (นรด.) ไปตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า นรด. ตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ทุกปี และลงโทษคนทำผิดทุกปี แต่ไม่เป็นข่าว แต่ครั้งนี้ถ้าใครตรวจพบผู้ทำผิดให้ส่งข้อมูลมาที่กระทรวงกลาโหม เพื่อจัดการ เพราะตัวมีนโยบายว่าคนที่จะมาเป็นทหารต้องเข้ามาโดยวิธีโปร่งใสและเป็นโดยสมัครใจและมีความสุข
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกล อ้างว่าการขุดค้นเรื่องใบ สด.43 ของ สส.พรรคก้าวไกล เป็นฝีมือของกลุ่มไอโอ นายสุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องที่มีมูลหรือเหตุที่มา เมื่อพรรคก้าวไกลไปตรวจสอบคนอื่นก็ถูกคนอื่นตรวจสอบแล้วเจอด้วย เมื่อเจอต้องดำเนินไปตามกระบวนการ เพราะบ้านเรามีนักร้องเรียนเยอะ เมื่อตรวจพบก็ต้องนำไปยื่นให้ตรวจสอบ
เมื่อถามย้ำว่า บางเพจในโซเชียลมีเดียนำข้อมูลเรื่องใบ สด.ของ สส.พรรคก้าวไกล มาเปิด เพราะได้ข้อมูลจากคนในกองทัพหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องเพราะยังไม่ได้ดู โดยนายกรัฐมนตรีให้นโยบายว่า ห้ามเอาไปกลั่นแกล้งคนอื่น โดยให้นำไอโอมาใช้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ประชาสัมพันธ์งานกองทัพเท่านั้น ย้ำว่าเราไม่มีนโยบาย ให้คนในกองทัพนำข้อมูลไปให้บุคคลอื่น แต่ถ้าใครนำไปทำส่วนตัวก็ไม่อาจจะรู้ได้
ด้านนาย จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เรื่องใบสด.43 ได้ รับข้อสั่งการจาก รมว.กลาโหมให้สืบหาข้อเท็จจริงของเอกสาร ซึ่งล่าสุดมีความคืบหน้า พร้อมฝากเตือนไปยังประชาชนว่ามีกระบวนการเรียกรับผลประโยชน์ เมื่อมีผู้เสนอก็มีผู้ให้หรือมีผู้ให้ก็มีผู้เสนอรับ โดยเปรียบเทียบว่าเป็น "กระบวนการสามเหลี่ยมอาชญากรรม" จึงขอเตือนไปยังประชาชนไม่ว่าใครเป็นหน้าม้า เสนอให้ ใบสด.43 จะต้องดูต้นทางว่าผิดกฎหมายหรือไม่
"อยู่ๆ เอา ใบสด.43 มาขายให้ท่าน ก็มีลักษณะคล้ายกับกรมการขนส่งทางบกที่มีหน้าม้า ไปเอาใบขับขี่ปลอมมาขาย จนกระทั่งโดนจับ" นายจิรายุ กล่าว
นายจิรายุ ยังเปิดเผยว่า ได้มีการพูดคุยกับกองทัพบก พบว่าตั้งแต่ปี 2543 สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริง ใบสด.43 ว่าอันไหนเป็นของจริงของปลอมได้ เนื่องจากมีระบบออนไลน์ โดยเฉพาะที่จะมีคนสมัครรับราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ และต้องใช้ใบเกณฑ์ทหารไปสมัคร ซึ่งข้อมูลตั้งแต่ปี 43 เป็นไปจะมีความรวมดเร็ว แต่หากย้อนหลังไปจากนั้นก็จะต้องมีต้นขั้ว 3 ต้นขั้ว
ซึ่งจากกรณีที่ได้เป็นข่าวไปต้นขั้วทั้งหมดยังอยู่ และในสัปดาห์หน้ากองทัพจะแจ้งความดำเนินคดี และย้ำว่าโอกาสเดียวในกรณีที่ไม่ได้ไปเกณฑ์ทหาร จะต้องไปเป็นทหารเกณฑ์อย่างเดียวตามที่กฎหมายกำหนด และกรณีที่มีการสอบถามเรื่อง ใบสด.43 จะต้องพิมลายนิ้วมือ นิ้วโป้งหรือไม่ คณะกรรมการได้ตรวจสอบพบว่ามี 2 กรณี คือ 1.กรณีจับใบดำใบแดง คณะกรรมการจะให้พิมพ์ลายนิ้วมือ หรือลงลายเซ็นไว้ชัดเจน และอีกกรณีคือเข้าสู่กระบวยการเกณฑ์ทหารในเขตของตนเองแต่ผู้สมัครเต็มทำให้ไม่ต้องเกณฑ์ ตามกระบวนการจะต้องไปรับเอกสารชุดเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องลงลายมือชื่อ หรือพิมพ์ลายนิ้วมือ โดยสาระสำคัญอยู่ที่ว่าต้นขั้วเป็นของจริงหรือของปลอม หรือมีการเข้าสู่กระบวนการเกณฑ์ทหารจริงหรือไม่
รมว.ลาโหมฝากถึงประชาชน ไม่ว่าใครจะมาเสนอเงิน 30,000 , 10,000 ,50,000 บาท หรือ 100,000 แลกกับกระบวนการไม่เข้าสู่กระบวนการเกณฑ์ทหาร ขอให้สันนิษฐานได้เลยว่า จะได้รับ ใบสด.43 ปลอมแน่นอน