สส.ก้าวไกล ถามจำหน่ายไฟฟ้าหน้าที่ กองทัพเรือ? เตรียมถก กมธ.ถ่ายโอนธุรกิจกองทัพสัปดาห์หน้า

7 ก.พ. 67

 

สส.ก้าวไกล ถามจำหน่ายไฟฟ้าหน้าที่ กองทัพเรือ? ซัดค่าไฟแพง-คุณภาพย่ำแย่ กระทบประชาชน เตรียมถก กมธ.ถ่ายโอนธุรกิจกองทัพสัปดาห์หน้า 

วันที่ 7 ก.พ. 67 น.ส.เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ผลการประชุม คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจต่างๆ ของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (ครั้งที่ 2) เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา 

ซึ่งมีวาระสำคัญ 2 เรื่อง คือ การพิจารณาเรื่องการให้บริการกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และการพิจารณากรอบแนวทางการดำเนินงานของ กมธ. 

โดยเฉพาะประเด็นกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือฯ ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ต้องจ่ายค่าไฟแพง การขอมิเตอร์ไฟฟ้าถาวรเป็นไปได้ยาก ส่วนใหญ่ใช้มิเตอร์ชั่วคราว 

น.ส.เบญจา กล่าวต่อว่า ส่วนการถ่ายโอนกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ไปอยู่ในการดูแลของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) นั้น จากการประชุมทำให้ได้ทราบข้อมูลที่ไม่เคยทราบมาก่อน ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้ขายไฟให้กิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือฯ แล้วกิจการฯ ก็ขายไฟต่อให้ประชาชนในราคาที่สูงกว่า จากปกติ 4 บาทกว่าต่อหน่วย มิเตอร์ถาวรของกิจการฯ ขายประมาณ 6 บาทกว่าต่อหน่วย ส่วนมิเตอร์ไฟชั่วคราว สูงไปถึง 8-10 บาทต่อหน่วย  

นอกจากค่าไฟแพง คุณภาพการให้บริการยังมีปัญหา ไฟตก ไฟติดๆดับๆ ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าของประชาชนเสียหาย จากเฟซบุ๊กเพจของกิจการฯ จะเห็นประชาชนเข้ามาตำหนิต่อว่าอยู่เสมอ นี่จึงเป็นปัจจัยสำคัญนำมาสู่การพิจารณาศึกษาว่าจะถ่ายโอนธุรกิจนี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ กฟภ. เข้ามาดูแลได้อย่างไรบ้าง 

เมื่อถามถึง อัตราค่าไฟที่กิจการฯ ขายให้ประชาชนแพงกว่าปกติ น.ส.เบญจา กล่าวว่า กองทัพไม่ได้ชี้แจงเรื่องนี้อย่างชัดเจน บอกเพียงว่าอัตราค่าไฟเท่ากับ กฟภ. แต่เรามีบิลค่าไฟจากพี่น้องประชาชนมาใช้ยืนยันว่าค่าไฟแตกต่างกัน แม้กองทัพบอกว่านั่นคือมิเตอร์ชั่วคราว เราก็ยืนยันกลับไปว่าต่อให้เป็นมิเตอร์ถาวร ถ้าดูจากบิลค่าไฟจะเห็นชัดเจนว่ามีความแตกต่างอยู่ประมาณ 2 บาทต่อหน่วย เช่น ประชาชนที่อยู่โดยรอบพื้นที่ของกองทัพ ใช้จำนวนหน่วยไฟฟ้าเท่ากัน จ่ายประมาณ 2,000 บาท แต่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่กิจการฯ ต้องจ่ายประมาณ 6,000 บาท เมื่อรวมกับภาษีอื่นๆ เท่ากับจ่ายค่าไฟสูงกว่าความเป็นจริงเกือบสามเท่าตัว 

“เราไม่ติดใจเลย ถ้ากองทัพสำรองไฟไว้ใช้แค่ในกิจการภายใน และอยู่ในพื้นที่ความมั่นคง ซึ่งควรแบ่งให้ชัดเจน เช่น พื้นที่ที่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ พื้นที่การรบ แต่พื้นที่ที่อยู่นอกเหนือ เช่น เป็นรีสอร์ท เป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจ กองทัพเรือยังมีความจำเป็นต้องเป็นผู้จำหน่ายไฟฟ้าหรือไม่” น.ส.เบญจา กล่าว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส