บิ๊กต่อ ไม่เครียด โดนเด้งเข้ากรุ บอกได้พักสมอง-สบายใจมาก ไม่กังวลจะกลับหรือไม่กลับ เพราะพี่ก็เป็นผบ.ตร.คนที่14 แล้ว
วันที่ 20 มี.ค. 67 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง มีคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่สำนักนายกรัฐมนตรีว่า
ตนเห็นคำสั่งแล้วตอนเดินทางกลับเข้ามาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็รับตามคำสั่ง เมื่อนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำฝ่ายบริหารสั่งการ ตนก็ทำตามคำสั่งเท่านั้น พรุ่งนี้ (21 มี.ค.) ตนก็ไปรายงานตัวสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งคำสั่งมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เมื่อถามว่าที่นายกฯเรียกไปคุยช่วงเช้าได้ส่งสัญญาณอะไรมาก่อนหรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีสัญญาณอะไร ทุกอย่างตนไม่เคยมองลบ แต่เมื่อนายกฯแจ้งมา ตนก็ไม่ได้มีความทุกข์ เพราะรู้ตั้งแต่ตอนมาก่อนแถลงข่าวแล้ว ตนพูดเสมอเราไม่ได้มีความขัดแย้ง นายกฯบอกแล้วว่าเดี๋ยวจะมีคำสั่ง ตนก็ยอมรับตามคำสั่ง ไม่ได้มีทุกข์ ไม่ได้เดือดร้อนตนเป็น ผบ.ตร.ก็เป็น ผบ.ตร. เมื่อนายกฯเห็นว่าตนบริหารงานไม่ผ่าน ซึ่งในคำสั่งที่อ่านคร่าวๆ เนื่องจากมีเหตุขัดแย้งกันเยอะ เราไม่สามารถบริหารได้ และเป็นเรื่องของระดับสูงก็ให้ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และให้รักษาราชการเข้ามาดู เพราะไม่มีส่วนได้เสีย คนคิดว่าตนกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มีปัญหากัน จริงๆแล้วเราไม่ได้มีปัญหาความขัดแย้งกัน ตนไม่มีอะไร ทำตามคำสั่งนายกฯอย่างเดียว สั่งอย่างไรก็ทำตามอย่างนั้น ไม่ต้องห่วง
เมื่อถามว่า ในคำสั่งระบุว่าถึงขั้นว่าบริหารงานไม่เรียบร้อยหรืออย่างไร พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของการบริหารความขัดแย้ง และเพื่อให้ภาพรวมการสอบสวนมีความยุติธรรมจึงให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักนายกฯ ตนก็ไป และก็ยังเป็น ผบ.ตร.อยู่ แต่ไปช่วยราชการสำนักนายกฯเท่านั้น แต่ในวันพรุ่งนี้คงไม่ได้อยู่ร่วมประชุมกับนายกฯ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะต้องเข้าเวรราชองครักษ์2 วันและตามเสด็จไปที่จ.พิจิตร 3 วัน เพื่อถวายงานความปลอดภัย
เมื่อถามว่า ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ย้าย ผบ.ตร.และรอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้พัก ตนสบายใจมาก อย่างน้อยก็ได้พักสมอง ตนเบื่อเรื่องภาพความขัดแย้ง เราอยู่กันแบบพี่น้อง ตนพูดเสมอว่าหากตนบริหารงานไม่ผ่านก็จะต้องพิจารณาตัวเอง จะต้องทุกข์อะไร เพราะตนเป็น ผบ.ตร.
เมื่อถามว่า ส่วนตัวตั้งใจทำงานแต่ผลลัพธ์ออกมาแบบนี้ หวั่นไหวหรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า “ไม่หวั่นไหว และพี่ไม่ท้อ ไม่เหนื่อย พี่พูดเสมอ แรงบันดาลใจของพี่คือในหลวง ร.9 พี่ทำทุกวันนี้เพื่อพระองค์อท่าน พี่ไม่ท้อ ไม่เหนื่อย เราเป็นข้าราชการ พี่หว่ายข้าวโพดสักวันต้องได้กินข้าวโพด พี่ไม่ได้หว่านไมยราพ พี่ไม่ต้องรอเหยียบหนาม ดังนั้นพี่ไม่ทุกข์ ตรงไหนก็ทำงานได้ เราเป็นข้าราชการของแผ่นดิน เราทำงานเพื่อประชาชน และเพื่อสถาบัน”
เมื่อถามว่า เบื้องต้นไปช่วยราชการกี่วัน และจะได้กลับมาเมื่อไหร่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า “ยังไม่ทราบ แล้วแต่นายกฯ ถ้าท่านเห็นสมควรว่าเรื่องในสำนักงานตำรวจแห่งชาติสงบ ท่านก็อาจจะส่งกลับมา พี่ไปไหนก็ได้ จะให้พี่ไปอยู่จนปลดเกษียณพี่ก็อยู่ได้ พี่ไปได้ทุกที่ จะไปไหน ไม่ต้องห่วง สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ใช่ของพี่ และไม่ใช่ของใครทั้งนั้น เป็นของตำรวจทุกคน ท่านมีหน้าที่ของท่าน ผู้บังคับบัญชาถึงเวลางานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา ถึงเวลาก็ต้องไป ไม่มีอะไรที่เป็นของพี่เลย ทุกอย่างมันมีเวลาของมัน ถึงเวลาก็ต้องไป ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า พี่ไม่ยึดติด ไม่ต้องห่วงพี่ พี่ยิ้มได้ทุกเวลา มีความสุขทุกครั้ง”
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เคยมีคดีครหามาตลอด แต่หวยกลับมาออกที่ยุคท่านจนทำให้ถูกโยกย้าย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า “ความรู้สึกของพี่ พี่เป็นหัวหน้าหน่วยที่ไม่สามารถบริหารความขัดแย้งในองค์กรได้ พี่ก็ต้องพิจารณาตัวเอง นายกฯก็มองจุดนี้ ภาพองค์กรเสียหายมากๆ ตนพูดตั้งแต่วันแรกว่าพี่เป็นผู้นำหน่วย พี่เหมือนกระโถน คนก็เอาสิ่งสกปรกของไม่ดีมาใส่ กระโถนมันก็เปื้อนบ้าง แต่บ้านของเราจะสะอาด ก็ไม่เป็นไร ท่านนายกฯทำถูกต้องแล้ว ต่อไปเรื่องคดีต่างๆก็เป็นหน้าที่รกัษาการ และดำเนนการไปตามกระบวนการยุติธรรม พี่ไม่เป็นอะไร สนุก การตัดสินใจของนายกฯเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง พี่เคารพการตัดสินใจ และพี่โจ๊กเองก็ยอมรับ พี่ต่ายเป็นคนดี เหมาะสมเป็นที่พึ่งของน้องๆ”
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าอาจจะไม่ได้กลับมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า “ไม่กังวล จะกลับหรือไม่กลับ เพราะพี่ก็เป็นผบ.ตร.คนที่14 แล้ว”