นายกฯ ลุกโต้ จุรินทร์ สวนถูกเปรียบเป็นแมลงวัน บอกไม่อยากเห็นฝ่ายค้านเป็นแมลงหวี่ แซะฝ่ายค้านโลกงง วันหนึ่งก็ค้าน อีกวันขอร่วมรัฐบาล
วันที่ 3 เม.ย. 67 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ ญัตติอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152
ภายหลังจากที่พรรคร่วมฝ่ายค้านอภิปรายอย่างกว้างขวางตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงบ่ายที่ผ่านมา ส่วนใหญ่อภิปรายโจมตีการทำงานของรัฐบาล นโยบายด้านการต่างประเทศ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงการเดินทางไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีนั้น โดยเฉพาะนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายตอนหนึ่งว่า คนไทยอยากเห็นนายกรัฐมนตรีบินเหมือนเหยี่ยว มากกว่าแมวงวันที่บินทั้งวันแต่ไม่ได้อะไร นอกจากสร้างภาพ
ต่อมาเวลา 15.30 น. นาย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ลุกขึ้นชี้แจงว่า ขอบคุณที่มีการอภิปรายกันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงบ่าย ซึ่งตนก็อยู่ที่นี่ไม่ได้ไปไหน ตั้งแต่ช่วงเช้าย้ายทำเนียบฯ มาอยู่ที่นี่ มานั่งทำงานหลังบัลลังก์ ก็ยังทำงานกันอยู่ และคอยฟังการอภิปรายไปด้วย ถ้าตรงไหนที่ตนคิดว่าคำแนะนำหรือความคิดเห็นของท่านมีประโยชน์ก็จด และอันไหนอยากจะมาให้ความกระจ่างก็จะออกมาตอบ
“ทั้งนี้เรื่องการดูดนักลงทุนต่างชาติ ทุกครั้งที่ผมบินออกไปต่างประเทศก็เป็นการเปิดโอกาส และสร้างการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจ ผมมั่นใจผลที่จะตามมา ไม่มีหรอกครับที่นายกฯ จะเป็นไปเหมือนแมลงวัน ขณะเดียวกันก็ไม่อยากเห็นว่าฝ่ายค้านเป็นแมลงหวี่ ที่คอยจ้องเล่นแต่การเมือง ทั้งที่รัฐบาลเองก็พยายามเดินหน้าอย่างเต็มที่ ขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ส่วนเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ผมมั่นใจว่าเราไม่มี ถ้ามีก็ขอให้นำข้อมูลหรือหลักฐานมา เรายินดีที่จะโต้แย้ง และให้ความกระจ่างยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมที่จะทำงานเพื่อประชาชนต่อไป”
นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงอีกว่า เรื่องที่บอกว่ายังไม่มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในตลาดจริงๆนั้น ถ้าทำงานจริงๆก็จะรู้ เพราะหาคนจะลงทุนมูลค่า 500,000 ล้านบาทหรือ ล้านล้าน ตนเชื่อว่าระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา และงานที่รัฐบาลก่อนทำมารัฐบาลนี้ก็มาสานต่อ รวมถึงรัฐบาลนี้ก็มีการติดต่อนักลงทุนใหม่ๆ ฉะนั้นหากจะมีการลงทุนมูลค่า 5 แสนล้านก็จะต้องใช้เวลาสักนิดนึง ซึ่งเราก็มั่นใจว่าอย่างไรสัญญาณที่เห็นมาเป็นบวกบวก
และอย่างไรก็ตามที่เรามีตัวเลขที่ชัดเจน ในไตรมาสที่ 4 ตั้งแต่ต้นมารับตำแหน่ง ก็ได้เดินทางไปในประเทศที่มีเจตจำนงมาลงทุนในไทย มีเม็ดเงินเพิ่มขึ้น 2.5 เท่าหากเปรียบเทียบกับปีก่อน นี่เป็นตัวเลขที่ชัดเจนที่สุด สามารถพิสูจน์ได้ส่วนตัวเลขการลงทุน 583,000 ล้านบาท ที่ฝ่ายค้านสงสัยนั้น ก็เป็นเลขที่มีแผนเข้ามาแล้ว พร้อมยืนยันว่าเป็นตัวเลขจริง และยังมีอีกหลายบริษัทที่กำลังพูดคุยในตัวเลขจริง ไม่ใช่เป็นตัวเลขจับต้องไม่ได้ ฉะนั้นขอให้ท่านอดใจ เชื่อว่าอีก 2 ปีข้างหน้า เราจะเห็นเงินลงทุนเข้ามาในไทยอย่างมหาศาล โดยตนขอใช้คำว่า สึนามิแห่งการลงทุน ฉะนั้นขอให้ท่านมั่นใจ เพราะตนยังมั่นใจ
ส่วนการที่ฝ่ายค้านออกมาระบุว่า รมว.คลัง เป็นรัฐมนตรีว่าการที่โลกเซ็งนั้นไม่จริงหรอก เพราะการขับเคลื่อนนโยบายของตน มั่นใจว่าเป็น รมว.คลัง ที่แก้จนให้กับประชาชน แต่ถึงอย่างไรตนขอฝากไว้สักนิดว่า ท่านก็อย่าเป็นฝ่ายค้านที่ทำให้โลกงงก็แล้วกัน วันหนึ่งก็จะเป็นฝ่ายค้าน อีกวันหนึ่งก็มีข่าวว่าจะขอเข้าร่วมรัฐบาล กลัวประชาชนจะงงมากกว่า