โอละพ่อ บิ๊กโจ๊ก แจงยิบ ป้ายกพวกบุกสภาฯ ร้อง นายกฯ เรื่องที่ดิน

4 เม.ย. 67

โอละพ่อ บิ๊กโจ๊ก แจงยิบ ป้ายกพวกบุกสภาฯ ขอเจอ นายกฯ ร้องเป็นธรรม อ้างถูกตำรวจขับไล่ที่ดิน งัดคำพิพากษาศาลฏีกา สรุปเจ้าตัวบุกรุกที่บริษัทอื่น 

วันที่ 4 เม.ย. 67 ที่รัฐสภา นางฐิตารีย์ อามาทันต์ อายุ 75 พร้อมกับเพื่อนบ้านอีก 3 คน เดินทางเข้ามาที่บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา เพื่อขอเข้าพบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง 

โดยมีนำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.แห่งหนึ่งข่มขู่ และขับไล่ออกจากที่ดินของตนเอง รวมถึงทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ และยังมีการแจ้งความจับตนในข้อหาแจ้งความเท็จ รวมทั้งไปเฝ้าหน้าบ้าน แต่ได้เจอกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ที่กำลังจะเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา 

นางฐิตารีย์ กล่าวว่า ตนถูกยัดเยียดข้อกล่าวหา และมีผู้ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องนี้จำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโฉนดที่ดินอื่นมาแจ้งความจับ และทำร้ายชาวบ้านในระแวกนั้น จึงต้องการขอความเป็นธรรมจากนายกรัฐมนตรี เนื่องจากได้มีการยื่นเรื่องนี้หลายครั้ง และหลายรัฐบาลแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า หลังจากนี้ตนจะเดินทางกลับมาติดตามทวงถามความคืบหน้าภายใน 3 วัน 

อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ได้รับปากว่าจะมีการไปตรวจสอบเกี่ยวกับเอกสารหลักฐานที่มอบให้ในวันนี้ก่อนที่จะตามเรื่องให้ 

ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความระบุว่า “ผมทราบว่าได้มีการไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่ดิน ที่รัฐสภา และกล่าวพาดพิงถึงตัวผมว่า ผมได้ให้ลูกน้องไปบุกรุก และจับกุมยัดข้อหา ผมขอนำเรียนพี่น้องประชาชนทราบว่า ในห้วงปี 62-63 ผมถูกย้ายไปดำรงตำแหน่งที่สำนักนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่อย่างใด” 

“ส่วนกรณีคุณป้าที่มาร้องเรียน ผมอธิบายดังนี้ครับ ในขณะที่ผมดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน คุณป้าดังกล่าว ได้มาพบผมที่สโมสรตำรวจ และขอให้ผมช่วยดูแลเอาที่ดินของป้าคืน และป้าบอกว่าถูกตำรวจ สน.พระโขนง ยัดข้อหา จับกุมโดยไม่เป็นธรรม ผมจึงเรียกสำนวนทั้งหมดมาดูด้วยตนเอง และเรียก ผกก.สน.พระโขนงมาพบ และอธิบายเรื่องราวให้ฟังโดยละเอียด” 

“จึงพบว่าคุณป้าเข้าใจผิด เพราะที่ดินของคุณป้า ศาลฏีกาได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดไปแล้วว่าที่ดินดังกล่าวจมน้ำไปแล้ว แต่ปรากฏว่าคุณป้าไปบุกรุกที่ดินของบริษัท จึงเป็นเหตุให้บริษัทมาร้องทุกข์แจ้งความดำเนินคดีกับคุณป้า ในความผิดฐานบุกรุกจึงเป็นเหตุให้ตำรวจ สน.พระโขนง ต้องจับกุมคุณป้าตามกฏหมาย เพราะไปบุกรุกที่ดินของ ผมก็ได้อธิบายให้คุณป้าฟังด้วยตัวเองโดยละเอียด พร้อมด้วย ผกก.สน.พระโขนง” 

“แต่วันนี้คุณป้ามาร้องเรียนท่านนายกรัฐมนตรีว่าผมได้ให้ลูกน้องไปบุกรุก ยัดข้อหา คุณป้า มันคนละเรื่องกันเลยนะครับคุณป้า ผมดูแลคุณป้าอย่างดี เอาข้าวนำ้ให้ทาน รับเรื่อง นั่งอธิบายความเอง เรียกสำนวนมาดูเอง ให้ความเป็นธรรมเอง เป็นรองผบ. แต่ทำหน้าที่เหมือนร้อยเวร ลงมาดูแลเรื่องราวทั้งหมดดวยความใส่ใจ และเป็นธรรม อีกทั้งเรื่องการจับกุมอะไรของคุณป้าเกิดขึ้นในขณะที่ผมถูกประจำอยู่สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งผมไม่รู้เรื่องมาก่อน แต่เมื่อผมโอนกลับเข้ามา คุณป้าก็มาหาผม และบอกกับผมว่า มีผมคนเดียวเท่านั้น ที่ช่วยเหลือคุณป้าได้ ผมยินดีจึงรีบกุรีกุจรทำให้ แต่ในเมื่อมันยุติด้วยคำพิพากศาลฎีกาไปแล้ว คุณป้าต้องยุติครับ” 

“ขอให้คุณป้ายุติการดำเนินการในลักษณะที่ทำให้ผม และตำรวจ สน.พระโขนงเสียหายทันที เพราะบ้านเมืองมีขื่อ มีแปครับ ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฏหมายไทยครับ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส