ดาบตำรวจ ปิยนันท์ ภาพรวมอาการยังคงที่ สัญญาณชีพมีแนวโน้มดีขึ้น

19 เม.ย. 67

แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ แถลงอาการ ดาบตำรวจปิยนันท์ ที่ถูกรถชนขณะยืนโบกรถช่วงเทศกาลสงกรานต์ ภาพรวมยังคงที่ สัญญาณชีพมีแนวโน้มดีขึ้น

 

ความคืบหน้าอาการของ ดาบตำรวจ ปิยนันท์ สีเสื้อ ผบ.หมู่ ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล. (ตำรวจทางหลวงลพบุรี) ที่ประสบอุบัติเหตุถูกรถชนได้บาดเจ็บสาหัส ขณะปฏิบัติหน้าที่โบกรถเปิดช่องทางพิเศษ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้น

วันนึ้ พลตำรวจโท ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ แถลงความคืบหน้าการรักษาว่า หลังจากได้รับการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะข้างซ้าย และตัดเนื้อสมองส่วนหน้าบางส่วนออก ขณะนี้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดในหอผู้ป่วยวิกฤต

สำหรับอาการล่าสุดขณะนี้ ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจและเครื่องช่วยหายใจอยู่ มีสัญญาณชีพปกติ สามารถลดยากระตุ้นความดันโลหิตได้ ยังไม่มีการตอบสนองทางระบบประสาท แต่ยังตรวจพบการหายใจเองอยู่ ค่าเลือดทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ปกติ ค่าไปปกติ เกล็ดเลือดที่ต่ำ หลังได้เกร็ดเลือดขึ้นมาเกือบปกติ ลมและเลือดในช่องปอดหยุดรั่วแล้ว ใส่เฝือกพยุงกระดูกขาขวาที่หักไว้เรียบร้อย เลือดจากฐานกะโหลกร้าวหยุดแล้ว

พลตำรวจโท ทวีศิลป์ เปิดเผยว่า ต้องดูอาการอย่างต่อเนื่อง ณ ขณะนี้รักษาอาการสมองเป็นหลักก่อน ในภาพรวมอาการยังคงที่สัญญาณชีพมีแนวโน้มดีขึ้น แต่อาการทางระบบประสาทยังไม่เปลี่ยนแปลงแผนการรักษา เฝ้าระวังการบวมของสมองซึ่งจะรุนแรงขึ้นใน 4-5 วัน หลังจากนี้ และเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ

ขณะที่แพทย์เฉพาะทางที่ให้การรักษาดาบตำรวจ ปิยนันท์ ก็ได้เปิดเผยข้อมูลดังนี้

พันตำรวจเอก บัญชา ศัลยแพทย์ระบบประสาท ที่ให้การรุกษาผ่าตัดสมอง ระบุว่า ผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บที่สมองอย่างรุนแรง มีเลือดออกจากสมองเพิ่มขึ้น สัญญาณชีพคงที่ หายใจเองได้บ้าง ยังอยู่ในภาวะวิกฤตอยู่ แต่ หลังจากที่ผ่าตัดสมองครั้งทีา 2 อาการมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ อาการจะดีขึ้น ซึ่งขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องผ่าตัดครั้งที่ 3

ด้าน พันตำรวจเอก จุมพฏ แพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง ที่ให้การรักษา ระบุว่า มีกระดูกหักที่ใบหน้า และเบ้าตา หากการผ่าตัดสมองแล้วอาการดีขึ้น ก็จะมีการรักษาโดยการผ่าตัดศัลยกรรมต่อไป

พลตำรวจตรี วรรวุฒิ ศัลยแพทย์ออโธปิดิกส์ ที่ทำการรักษากระดูกของผู้ป่วย ระบุว่า กระดูกหน้าแข้งขวาหัก ต้องใส่เฝือกอ่อนประคอง

พันตำรวจโท ปัญชรัช ผู้รักษาดวงตา ระบุว่า ผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บของลูกตาสองข้าง ข้างขวาอาการหนัก ได้รับความเสียหายอวัยวะของตาทะลักออกมาจากเบ้าตา ต้องผ่าตัดซ่อมแซมตาข้างขวาที่แตกเสียหาย แล้วจึงผ่าตัดฟื้นฟูซ่อมแซมอีกที ส่วนตาข้างซ้ายมีเลือดออกที่จอตา อาการจะน้อยกว่าลูกตาข้างขวา ต้องรอให้อาการทางสมองดีขึ้นก่อน จึงดำเนินการผ่าตัดตาได้ เพราะร่างกายของผู้ป่วยยังไม่พร้อมท่าจะเข้ารับการผ่าตัดตาในขณะนี้

ส่วนด้านการมองเห็นนั้น ตาข้างขวา มีโอกาสจะกลับมามองเห็นได้น้อยกว่า 10% ส่วนตาข้างซ้าย มีโอกาสได้กลับมามองเห็นได้ แต่จะมากน้อยเพียงใดนั้น ต้องเข้ารับการรักษาก่อน.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส