หนุ่มกลับจากไต้หวัน ถึงบ้านถูกปาดคอจมกองเลือดปริศนา

หนุ่มกลับจากไต้หวันถึงบ้านถูกปาดคอจมกองเลือดปริศนา อาการเป็นตายเท่ากัน แม่บินมาดูอาการมั่นใจคนร้ายมากกว่า 2 คนมาชิงทรัพย์ แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ

วันที่ 28 เม.ย.67 กรณีนายสุเดช อายุ 32 ปี ถูกมีดปาดคอ คมมีดเฉือนหลอดลมหวิดขาด รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์อาการสาหัส เหตุเกิดเมื่อเวลา 08.00 น.(26 เม.ย.) ที่ผ่านมา

เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความมึนงงให้กับตำรวจ สภ.กระสัง อ.กระสังเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ว่ามูลเหตุที่แท้จริงเกิดอะไรขึ้น ไม่มีแม้ภาพจากกล้องวงจรปิดที่จะสามารถคลี่คลายได้

เพื่อนบ้านผู้บาดเจ็บและคนเห็นเหตุการณ์ครั้งแรก เล่าว่า นายสุรเดช นอนจมกองเลือดอยู่หน้าบ้าน จึงรีบไปดู เห็นมีดทำครัว 1 เล่มหล่นอยู่ใกล้กับร่าง ตอนแรกไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่อาการหนักเพราะเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งหน่วยกู้ภัยมาถึงจึงทราบว่าถูกปาดคอ

นายสุรเดชไปทำงานอยู่ประเทศไต้หวันกับแม่ ได้ประมาณ 2 ปี และเพิ่งกลับมาพักอยู่บ้านได้ 10 วัน แต่ไม่มีเงินติดตัว ซึ่งบ้านตนเองเปิดเป็นร้านขายของ ถ้านายสุรเดช ซื้อของ แม่จะเป็นคนโอนจากประเทศไต้หวันมาให้ ส่วนสาเหตุยอมรับว่าไม่รู้

ล่าสุดนางสาวี อายุ 53 ปี แม่ผู้บาดเจ็บได้เดินทางจากประเทศไต้หวันเพื่อมาดูอาการของลูกชาย พร้อมกับเผยว่าตามที่ตำรวจลงความเป็นเบื้องต้นว่าลูกชายอาจจะทำร้ายตัวเองนั้น ส่วนตัวไม่เชื่อ เพราะเลี้ยงลูกชายมารู้ดีพูดคุยกันปกติ

เชื่อว่าคนร้ายที่มาทำร้ายลูกชายน่าจะมาด้วยกันไม่น้อยกว่า 3 คน เพราะดูจากบาดแผลแล้วสาหัสรุนแรงมาก หมอแจ้งว่าให้ทำใจแล้ว จึงอยากจะขอความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ด้วย และอยากให้เร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว

ด้านชาวบ้านในหมู่บ้านกลับมองว่าไม่เชื่อว่าจะมีคนร้ายเข้ามาชิงทรัพย์ ผู้บาดเจ็บใส่สร้อยคอทองคำจริง แต่เป็นทองจากประเทศไต้หวัน สีจะไม่เหมือนทองในเมืองไทย ประกอบกับคนในหมู่บ้านใส่ทองกันแทบทุกหลังคาเรือน ไม่เคยมีคนร้ายทำแบบนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเกิดจากความผิดปกติของผู้บาดเจ็บเอง เพราะเป็นคนหลอนๆ.