พีระพันธุ์ ยันไม่มีกระแสใต้น้ำ รทสช.ยังมั่นคงสร้างข่าวให้ตายก็ไม่มีทาง หลังกฤษฎาลาออก รมช.คลัง-สุพัฒนพงษ์ ลาออกสมาชิกพรรค บอกหากออกแค่หาคนแทน
วันที่ 8 พ.ค. 67 นาย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวนาย กฤษฎา จีนะวิจารณะ ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรมช.คลัง ว่า “คงเป็นกระแสข่าว ผมยังไม่ทราบไม่เห็น ผมเพิ่งประชุมเสร็จเดี๋ยวนี้เอง”
เมื่อถามว่า มองอย่างไรถึงการแบ่งงานของกระทรวงการคลังเมื่อวานนี้ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ผมไม่ทราบ ไม่เห็น เพราะไม่ได้ดูกระทรวงการคลัง
เมื่อถามว่า ไม่ได้มีการมาปรึกษา หรือพูดคุยก่อนลาออกใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ยังไม่มี ยังไม่ได้คุยกัน
เมื่อถามว่า หากเป็นการลาออกจริง จะส่งผลต่อการทำงานหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า “ก็หาคนอื่นแทนแค่นี้เอง”
เมื่อถามย้ำว่า จะมีการยับยั้งการลาออกหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ผมไม่ทราบเรื่อง เพิ่งเลิกประชุม ออกมาก็โดนสัมภาษณ์ตรงนี้ว่าลาออก
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฤษฎา ได้มีการยื่นหนังสือลาออกกับนายกรัฐมนตรีนายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ผมไม่ทราบเลย เพิ่งประชุมเสร็จ ซึ่งตนไม่ได้รู้สึกตกใจ เพราะทางการเมืองถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อออกก็ต้องหาคนแทน แต่ตำแหน่ง รมช.คลังก็ยังเป็นโควต้าของพรรครวมไทยสร้างชาติ
เมื่อถามว่า นอกจากนี้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ยังลาออกจากสมาชิกพรรค และประธานยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะแต่ละคนก็มีภารกิจส่วนตัวของเขา เราจะไปยุ่งเขาได้อย่างไร ใครจะอยู่ใครจะไป ใครจะทำอะไร พร้อมยืนยันว่าการลาออกนายกฤษฎา ไม่กระทบของพรรคร่วมหรือรัฐบาล และไม่ทราบว่าในพรรครวมไทยสร้างชาติมีคลื่นใต้น้ำหรือไม่
“ผมทำงานมาไม่มีปัญหา พร้อมยืนยันว่าภายในพรรคไม่ได้มีปัญหา แต่สื่อมวลชนพยายามทำให้มีปัญหา จะทำอย่างไรก็ไม่มีเพราะพรรคผมมั่นคง สร้างข่าวกันไปให้ตายก็ไม่มีทาง และก่อนหน้านี้ก็มีคนลาออกก็ไม่มีปัญหาอะไร” นายพีระพันธุ์ กล่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า การประชุมพรรคมีการวางหลักเกณฑ์ไว้ว่าประชุมสัปดาห์ละครั้ง ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร รอบนี้ก็เพิ่งประชุม เพราะว่าเพิ่งตั้งคณะรัฐมนตรีมาใหม่ ภารกิจยังแน่นไม่ได้มีการประชุม ซึ่งส่วนตัวยังไม่ทราบสาเหตุการลาออกว่าเกี่ยวกับการแบ่งงานหรือไม่ เนื่องจากยังไม่ได้พูดคุยกัน และไม่ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และนายกฤษฎา เพราะนายพิชัยก็เพิ่งได้รับตำแหน่ง และโปรดเกล้าฯเมื่อวานนี้ ซึ่งไม่ว่าจะตำแหน่งอะไรก็ต้องทำงานร่วมกันให้ได้เท่านั้นเอง
เมื่อถามว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคต้องมีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนต้องคุยกับนายกฤษฎา ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี ซึ่งการแบ่งงานทุกอย่างอยู่ที่เจ้ากระทรวง ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติจะต้องเรียกรวม เพื่อประชุมหรือไม่นั้น จะต้องตรวจสอบว่านายกฤษฎาลาออกจริงหรือไม่ พร้อมกับกล่าวย้ำว่าเป็นเรื่องปกติ การเมืองก็เป็นแบบนี้ และยืนยันว่าไม่ต้องประชุมพรรค เพราะกรรมการบริหารพรรคก็ตัดสินใจได้ และในวันที่ 13 พ.ค.นี้ จะมีการสัมมนาพรรคเป็นการภายใน