หนุ่มนักศึกษา ร้องสายไหมต้องรอด ถูกหนุ่ม CEO เจ้าของคลินิกชื่อดังทำร้ายร่างกาย หลังนัดกันผ่านแอปฯหาคู่ พบผู้เสียหายเพียบ
วันนี้ 23 พ.ค.หนุ่มนักศึกษา ม.ดัง ได้เดินทางเข้าพบนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังถูกทำร้าย จากหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งรู้จักกันผ่านแอปฯหาคู่ โดยหนุ่มรายดังกล่าว อ้างตัวเองว่าชื่อ นายเอส อายุ 25 ปี และยังบอกว่าเขาเป็น CEO คลินิกเสริมความงานหลายสาขา
ในวันเกิดเหตุ 11 มี.ค.2567 เวลา 22.00 น. ตนเองได้นัดดีลไปหานายเอสที่คอนโด ก่อนขึ้นตึก นายเอสได้โยนคีย์การ์ดลงมาให้ตนจากชั้น 4 ให้ขึ้นไปเอง ตนก็รู้สึกงงๆแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ระหว่างขึ้นลิฟต์ ตนเองลืมเอาคีย์การ์ดแตะที่ลิฟต์ ลิฟต์จึงพาขึ้นไปชั้นบนสุด จากนั้นนายเอสโทรมาหา ตนก็บอกว่าถึงแล้วอยู่ชั้น 4 ซึ่งตนเองไม่รู้ ว่าหลงไปอยู่ชั้นบนสุด จึงได้ขอโทษที่ให้รอนาน
พอเข้าไปในห้องบรรยากาศมืดมากๆ เปิดแค่โคมไฟดวงเดียว พอถึงห้องตนเองได้ยื่นคีย์การ์ดคืนไป และสักพักนายเอสให้ตนไปนั่งอยู่ที่เตียง แล้วก็พูดว่า “ไปว่ายน้ำเล่นรอมา ไฮด้วย” ซึ่งตนตกใจมาก
นายเอสไม่ได้บอกก่อนว่าเล่นไฮ (คือเล่นยา) สักพักนายเอสเข้ามากอดและให้ตนดูดนมให้เขา แต่เขากลับบอกว่า ตนแกล้งทำให้ไม่ดี จู่ๆเขาก็เริ่มชกตน และเริ่มต่อย จนตนได้รับบาดเจ็บที่หน้าสาหัส หน้าบวม เลือดออก ปากแตก ทั้งๆที่ตนไม่ได้ทำอะไรเขาเลย ตนบอกว่าขอกลับบ้านก็ไม่ให้กลับ ปากตนเลือดออกก็จะขอให้ตนดูดนมให้อีก และก็ยังทำร้ายชกต่อยตนเองต่อ
จากนั้นนายเอสก็ด่าตนสารพัด เช่น มึงนัดคนอื่นไม่ดูหน้าตาตัวเองว่าเ-ี้ยขนาดไหน มึงมีปัญญาอยู่คอนโดเหมือนกูมั้ย, พ่อแม่มึงเป็นใครเลี้ยงลูกแบบนี้, รู้ไหมกูเป็นใคร CEO เจ้าของคลินิก, มึงทำได้เหมือนกูไหม, เดี๋ยวมึงได้รู้จักพ่อกู และในขณะที่ด่าก็ขู่ว่าจะแจ้งตำรวจว่าตนบุกรุก ตนขอออกจากห้องก็ไม่ให้ออก จากนั้นนายเอสขอคีย์การ์ด ตนบอกว่าให้ไปแล้วตอนเข้าห้อง เขาก็หาว่าตนเองหลอก หาว่าเอาคีย์การ์ดไปซ่อน
ตนโดนนายเอสทำร้ายจนถึงเช้า หน้าตนเองบวมปูด เลือดไหล แต่ก็ไม่สามารถออกไปไหนได้ เนื่องจากนายเอสตัวใหญ่กว่า เล่นกล้าม และบังคับไม่ให้ตนออกจากห้อง บังคับไม่ให้จับโทรศัพท์
โชคดีที่ตนอาศัยจังหวะที่นายเอส เข้าไปอาบน้ำ จึงมีโอกาศจับโทรศัพท์เพื่อโทรหาเพื่อน ตนจึงขอความช่วยเหลือจากเพื่อน พอช่วง 12.00น. นายเอสจึงยอมลงมาส่งตนเอง แถมยังเรียกค่าเสียหายจากตนเอง 5,000 บาท ที่เลือดของตนเปื้อนเตียงนอน หลังจากที่ออกมาได้ ตนเองให้เพื่อนพาไปโรงพยาบาล และขอใบจากนิติเวชเพื่อแจ้งความไว้ สน.หัวหมาก
ในวันเดียวกันตนเองเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน พาตนเองเดินทางไปชี้จุดเกิดเหตุ และสอบถามข้อมูล กับทางนิติบุคคลของคอนโด นิติที่ดูแลตึกบอกว่าตนไม่ได้โดนรายแรก นิติเคยเห็นผู้หญิงวิ่งมาจากบันไดหนีไฟแล้วหน้าอาบเลือด
หลังจากแจ้งความได้มีการโทรไปหาคู่กรณีเพื่อให้ออกมาสน.แต่เจ้าตัวบอกว่า “ไม่จำเป็นต้องไปคุยกับคนอย่างมึง จะให้ทนายไปคุย”
ในส่วนของที่คู่กรณีออกมาชี้แจง ผ่านโซเชียล ตนเองขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากตนเองถูกทำร้ายร่างกายและมีหลักฐานจากนิติวิทยาศาสตร์
ทางด้านของ นายเอกภพ เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า ตัวของผู้เสียหาย ได้มาร้องขอให้ตนเองช่วยเหลือ เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกาย จากหนุ่ม CEO คลินิกแห่งหนึ่ง โดยการนัดเจอผ่านแอปฯหาคู่ ทำให้ได้ไปพบกันที่คอนโดของหนุ่ม CEO แต่เมื่อไปพบผู้เสียหายกลับถูกทำร้ายร่างกาย ถูกกังขังหน่วงเหนี่ยวตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2567 เวลา 22.00น. จนถึงเที่ยงวันของวันที่ 13 มีนาคม 2567 ตัวผู้เสียหาย ได้มีการแจ้งความไว้ที่ สน.หัวหมาก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตนเองก็จะประสานไปที่ สภ.หัวหมากเพิ่มเติม ในส่วนของผู้เสียหายเพิ่มเติมทั้ง 3 ราย ตนเองก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ ฝากเตือนพี่น้องประชาชน เตือนภัยเกี่ยวกับแอปฯหาคู่ ซึ่งตอนนี้เป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นเป็นอย่างมาก ให้ระมัดระวัง อาจเป็นอันตรายต่อตัวเองได้.