สาวร้อง โดนเพื่อนบ้านคอนโด ยกพวกตบ ปมโยนกุญแจถูกหลังคารถบุบ ผงะหนึ่งในนั้นมีผู้ต้องหาติดกำไรอีเอ็ม ด้านรปภ.เข้าห้าม กลับโดนกระทืบเจ็บ
จากกรณีที่ชาวเน็ตแชร์ภาพวงจรปิด เหตุการณ์ขณะที่หญิงสาวคนหนึ่งถูกรุมทำร้าย จนต้องก้มกราบ เพื่อร้องขอชีวิต โดยทราบว่าเหตุการณ์เกิดที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว กทม. ปมเหตุมาจากเรื่องการโยนกุญแจลงมาถูกหลังคารถจนบุบ ทำให้เกิดการโต้เถียงกัน และนำมาสู่การรุมทำร้าย
วันที่ 8 มิ.ย. 67 ที่ สน.ลาดพร้าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าวเกิดจากการโยนกุญแจรถลงมาจากชั้น 7 ให้กับเพื่อนที่ยืนรอรับอยู่ข้างล่าง แต่ปรากฎว่ากุญแจดันไปตกใส่หลังคารถชาวบ้านจนบุบ ทาง รปภ.ของตึกจึงไปแจ้งเจ้าของรถให้ลงมาดู และ เกิดการถกเถียงกับทางคู่กรณี ทำให้ฝั่งนั้นไม่พอใจจึงทำร้ายเจ้าของรถ และได้เรียกพวกที่อยู่บนห้องลงมากระทืบ รวมถึง รปภ. ที่ดูแลตึกจนบาดเจ็บสาหัส
เบื้องต้นจากการสอบถามทราบว่า ตำรวจ สน.ลาดพร้าว ได้รับแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว รอพนักงานสอบสวนเรียกมาสอบปากคำ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอยของกฎหมายต่อไป
พร้อมกันนี้ทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี” ได้พูดคุยกับ คุณไอซ์ อายุ 36 ปี ผู้เสียหายที่ถูกรุมทำร้ายร่างกาย เล่าว่า คืนเกิดเหตุช่วง 4 ทุ่มของวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา เธอได้ยินเสียงคนเอะอะโวยวายกัน ลักษณะตะโกนคุย จึงโผล่หน้าจากระเบียงห้องมาดู และเห็นคนกำลังเดินหาของอยู่ใกล้ๆ รถของเธอ จึงเกิดความสงสัยเดินลงมาดู และปรากฏว่า หลังคารถมีรอยบุบ จึงสอบถาม รปภ. คอนโด ทราบว่ามีการโยนสิ่งของลงมา ถูกหลังคารถเธอจริง และเมื่อมองขึ้นไปก็เห็นวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งชะโงกหน้ามาพอดี จึงตะโกนถามว่า ได้โยนอะไรมาโดนรถเธอรึเปล่า แต่เนื่องจากระยะความสูงของห้อง กับที่จอดรถ ทำให้ต้องตะโกนคุย จึงเป็นลักษณะเหมือนตะโกนต่อว่ากัน ทำให้ฝั่งนั้นไม่พอใจเดินลงมาหาเธอด้วยกัน 3 คนเป็นผู้หญิง 2 คน ผู้ชายหนึ่งคน
โดยฝั่งคู่กรณีปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นคนทำจึงเกิดการโต้เถียง ตนจึงบอกว่าจะไปเปิดกล้องวงจรปิดตรวจเช็ก จากนั้นก็มีการท้าทายและต่อว่ากันไปมาด้วยถ้อยคำหยาบคาย ยอมรับว่าตอนนั้นเริ่มมีอารมณ์โมโห เนื่องจากรถเสียหาย และฝั่งคู่กรณีก็ด่าไม่หยุด จึงด่ากลับไปด้วยถ้อยคำรุนแรงเช่นเดียวกัน ทำให้คู่กรณีไม่พอใจ ซึ่งตอนนั้นสามีโทรศัพท์หาเธอพอดี จึงเล่าเรื่องให้ฟัง และบอกให้สามีรีบมา เมื่อทางฟังคู่กรณีได้ยินแบบนั้น จึงโทรตามพวกมา และเริ่มมีคนทยอยมา ชุดแรกมาอีก 2 คนเป็นผู้หญิง หลังจากนั้นก็มีผู้ชายอีกเกือบ 10 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามมา
โดยผู้หญิงคนที่มาทีหลังได้เข้ามาทำร้ายเธอ จิกหัว ตีเข่าและกระหน่ำต่อยที่ศีรษะ จน รปภ. ตรงจุดเกิดเหตุต้องพยายามเข้ามาช่วยห้าม ซึ่ง รปภ. เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรกและพยายามห้ามมาโดยตลอด แต่ฝั่งคู่กรณีไม่ยอมฟัง รุมทำร้ายเธอ และยังทำร้าย รปภ.ที่ช่วยห้าม จังหวะนั้นสังเกตเห็นว่า 1 ในกลุ่มคู่กรณี เป็นผู้ชายที่สวมหมวกกันน็อก และที่ขามีกำไรอีเอ็มติดอยู่ ถือมีดออกมาจะแทง รปภ. ด้วยความตกใจสุดขีดตอนนั้นคิดว่าก็คงไม่รอดเหมือนกัน ถ้ารปภ.โดนทำร้ายจนถึงชีวิต จึงพยายามร้องขอให้หยุดทำร้าย และพยายามวิ่งหนี แต่ก็จนมุม สุดท้ายยอมที่จะก้มกราบเท้ากลุ่มคู่กรณีร้องขอชีวิต พร้อมยอมรับว่าเป็นคนผิดเองทั้งหมด ขอไม่เอาเรื่อง แลกกับการไว้ชีวิตเธอ และ รปภ. ถึงขั้นที่เธอต้องโกหกพบคู่กรณีว่ากำลังตั้งท้องอยู่ เพื่อจะเอาตัวรอด ทำให้ฝ่ายคู่กรณีใจเย็นลง และยอมหยุดทำร้าย
หลังเกิดเหตุหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ไม่กล้าออกมาใช้ชีวิตตามปกติ ไม่กล้าออกจากบ้าน เพราะคู่กรณียังอยู่ที่คอนโดเดียวกัน โดยเจ้าของห้องเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ทราบว่าคืนเดียวกันกับที่เกิดเรื่อง มีลูกบ้านคนอื่นร้องเรียนว่า ห้องนี้เสียงดัง นิติบุคคลต้องไปเตือนอยู่หลายครั้ง และหลังเกิดเรื่องครั้งนี้ นิติบุคคลได้ทำเรื่อง แจ้งให้ผู้พักอาศัยย้ายออกแล้วตามกำหนดคือวันนี้
ส่วนคู่กรณีที่ทำร้ายพยายามติดต่อมาทางโทรศัพท์ เพื่อขอเจรจา แต่ไม่กล้าที่จะพูดคุยด้วย เพราะหวาดกลัว โดยเฉพาะคนร้ายที่ติดกำไรอีเอ็ม รู้มาว่าโดนคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น เมื่อ 9 เดือนก่อน ยิ่งทำให้หวาดกลัว ครอบครัวเธอเองมีลูกวัยเพียง 4ขวบ อยู่ด้วย ก็กลัวว่าจะเป็นอันตรายกัน หลังเกิดเรื่องได้เข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งนอกจากตนยังมีพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดที่ได้รับบาดเจ็บหนักเช่นเดียวกัน ถูกทำร้าย เพราะเข้ามาช่วยตนเอาไว้ ซึ่งจากการสอบถาม รปภ.คนนี้ก็บอกว่าเป็นหน้าที่ที่เขาต้องช่วยลูกบ้านอยู่แล้ว
เบื้องต้นจากการสอบถามทราบว่า ทางตำรวจได้รับแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว รอทางพนักงานสอบสวนเรียกมาสอบปากคำ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป โดยมีการนัดหมายให้ทั้งฝั่งของผู้เสียหายและคู่กรณีมาให้ปากคำในวันที่ 11 มิ.ย.นี้