ก้าวไกล ขู่กั๊กงบกลางข้ามปี ผิดวินัยการคลัง เตือนพรรคร่วมอย่าสมรู้ร่วมคิด 

17 ก.ค. 67

 

ศิริกัญญา ก้าวไกล ขู่กั๊กงบกลางข้ามปีผิดวินัยการคลัง เตือนพรรคร่วม อย่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด อัดลงทุน 5แสนล้านได้แค่รักษาหน้ารัฐบาล 

วันที่ 17 ก.ค. 67 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. … วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอในวาระแรก 

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายท้วงติงเรื่องการดำเนินการที่อาจจะผิดกฎหมาย ที่น่าสนใจหลายประเด็น อาทิ รัฐบาลไม่แคร์ที่ประเทศจะมาอยู่ในภาวะความเสี่ยงแบบนี้ เพียงเพื่อให้ได้ทำโครงการ ดิจิทัล วอลเล็ต นอกจากนี้ในส่วนการบริหารจัดการ 43,000 ล้านบาท ที่นายกฯยืนยันจะใช้งบฯกลาง เงินสำรองจ่ายฉุกเฉินจำเป็น แต่เงินส่วนนี้จะไม่ถูกเอาออกไปกระตุ้นเศรษฐกิจในปีงบฯนี้ ใช่หรือไม่ 43,000 ล้านบาท ต้องถูกกั๊กเอาไว้ไปจนถึงปลายปี งบฯกลางส่วนนี้ถ้าจะต้องเอามาเบิกจ่ายข้ามปีในปี 68 เพื่อมาแจกดิจิทัลฯ พร้อมกับงบอีกส่วนหนึ่งที่มาขอจากสภาฯวันนี้ 122,000 ล้านบาท รวมแล้ว 165,000 ล้านบาท มันจะถูกโยกข้ามมาใช้ หลังจบปีงบฯ 67  ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ปัญหาคือทำได้จริงๆใช่ไหม 

โยกงบฯจากปี 67 ไปใช้ข้ามปีในปี 68 ไม่น่าจะได้ เพราะมาตรา 21 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง บอกชัดเจน ว่าการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ต้องใช้จ่ายเงินระหว่างปีงบประมาณ ชื่อมันคืองบกลางปี จะไปใช้ข้ามปี คงจะทำไม่ได้ มันผิดมาตรา 21 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง อย่างชัดเจน 

น.ส.ศิริกัญญา อภิปรายว่า หรือท่านจะบอกว่ารายจ่ายเพิ่มเติม มันเหมือนงบประจำปี ใช้ข้ามปีได้ แต่มาตรา 43 ของ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณบอกว่าต้องก่อหนี้ผูกพันไว้ก่อนสิ้นปี เดาว่าเดี๋ยวท่านคงจะออกมาสีข้างถลอกกันต่อว่า การลงทะเบียนถือเป็นการก่อหนี้ผูกพันแล้ว แต่มันไม่ใช่ ท่านประธานสภาฯไม่สงสัยหรือ ทำไมไม่แก้กฎหมายมีเสียงข้างมากพรรคร่วมรัฐบาล ตนขอเสนอว่า ให้แก้ไขเติมท่อนท้าย มาตรา 21 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังว่า เว้นแต่มีเหตุให้เป็นอย่างอื่นโดยได้รับความเห็นชอบจาก ครม.หรือจะเอาให้ชัดว่าโดยความเห็นชอบของนายกฯ จะชัดมาก ว่าใครต้องเอาคอขึ้นเขียงเวลาต้องผิดกฎหมายแบบนี้  และโครงการดิจิทัลฯ นั้นใช้เพื่อการอุปโภค บริโภค เป็นหลัก แต่ก็ยังอุตส่าห์ตีความว่าเป็นรายจ่ายลงทุนได้สูงถึง 80% กลับหัวกลับหางไปหมด คำอธิบายก็แปลกประหลาด ซึ่งเป็นปัญหาการตีความ ถ้าเกิดตีความกันแล้ว ไม่นับว่าดิจิทัลวอลเล็ตเป็นรายจ่ายลงทุน จะเป็นการทำผิดพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง มาตรา20 

น.ส.ศิริกัญญา อภิปรายว่า นอกจากเรื่องสุ่มเสี่ยงทำผิดกฎหมายต่างๆ แล้ว ยังมีปัญหาความไม่พร้อม เช่น อีก15 วัน จะลงทะเบียน คือ วันที่ 1 ส.ค. ยังหาเจ้าภาพไม่ได้ อาทิ ส่วนระบบลงทะเบียนเพิ่งจะได้ผู้ชนะการประมูลมา 2 เจ้า เมื่อวันที่10 ก.ค กับวันที่  11 ก.ค. ในส่วนระบบชำระเงินยังไม่ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง ยังมีเรื่องเงื่อนไขเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่ที่ตนกังวลมากที่สุดคือในส่วนของร้านค้า อีก 15 วัน ต้องลงทะเบียนร้านค้าแล้ว แต่ยังไม่มีมาตรการจูงใจให้ร้านค้ารายเล็กรายย่อยตัวจริงเข้าร่วม โดยสรุปสำหรับโครงการนี้ ก็บอกได้คำเดียวว่า การลงทุนห้าแสนล้านบาท ที่ลงทุนไปได้รักษาหน้าว่าได้ทำตามที่หาเสียงไว้แล้ว ได้เพิ่มจีดีพีเต็มที่ ตามประมาณการสูงสุด 350,000 ล้านบาท วิญญูชนลงทุน 500,000 ล้านบาท ได้คืน 350,000 ล้านบาท มันคุ้มหรือไม่ สิ่งที่เราจะเสียคือ เพิ่มความเสี่ยงทางการคลังให้กับประเทศ ตอนนี้ไม่มีปัญญาจะรับมือสถานการณ์อะไรที่จะฉุกเฉิน ยังต้องเสียอีกคือว่า ต้องทำผิดกฎหมายอีกหลายข้อ 

จากนั้น นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วง ว่า น.ส.ศิริกัญญา พูดว่า ร่างพ.ร.บ.งบฯฉบับนี้ผิดกฎหมาย ซ้ำๆไม่ต่ำกว่า 3-4 ครั้ง ถ้าไม่ประท้วง เดี๋ยวผู้ฟังทางบ้านจะเข้าใจว่า ครม.ชุดนี้เสนอร่างนี้ผิดกฎหมาย เป็นการใส่ร้าย ทำให้ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ วินิจฉัยให้ น.ส.ศิริกัญญา อภิปรายต่อ เพราะผู้อภิปรายนั้นอภิปราย และข้อกล่าวหา เดี๋ยวรัฐบาลจะตอบเองว่าผิดกฎหมายหรือไม่อย่างไร 

น.ส.ศิริกัญญา อภิปรายต่อว่า สุ่มเสี่ยงทำผิดกฎหมาย ซึ่งการทำผิดกฎหมายในครั้งนี้ ถ้าสามารถทำต่อไปได้มันจะสร้างบรรทัดฐานที่ผิดๆในการบริหารจัดการงบฯในอนาคต ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหาย ที่เราประเมิณไม่ได้ สิ่งที่จะเสียอีกคือ อุตส่าห์ลงเงิน ไปห้าแสนล้านบาท แต่กลับสร้างกลไกเงื่อนไข โดยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ เพื่อที่จะเอื้อค้าปลีกรายใหญ่ และกีดกันรายย่อยโดยไม่รู้ตัว เสียโอกาสที่จะได้แก้ปัญหาเศรษฐกิจเฉพาะหน้า ให้กับประชาชนเพียง เพราะว่าเราจะต้องกั๊กเงินส่วนหนึ่งเอาไว้เพื่อไปทำโครงการนี้ในปลายปี ภาระที่มันจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ จะตามเราไปถึง 69-70 นี่จะเป็นกระสุนนัดใหญ่ นัดแรก นัดเดียว และนัดสุดท้ายของทางรัฐบาล ที่จะได้มีโครงการขนาดใหญ่ขนาดนี้ ด้วยข้อจำกัดทางงบประมาณที่จะตามมา

 “วันนี้ขอส่งความห่วงใยไปยังพรรคร่วมรัฐบาลว่าท่านจะกลายมาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ในการทำผิดกฎหมายครั้งนี้ ในการกระทำที่สุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายครั้งนี้หรือไม่ ถ้าท่านเองยังพอยึดถือหลักการอยู่ในหัวใจ ยังนับถือหลักวิชาการ มีความรู้เรื่องงบฯและการคลัง ท่านคงรู้ ได้โดยไม่ต้องสงสัยว่า ทำแบบนี้ จะทำให้ประเทศเราสุ่มเสี่ยงต่อปัญหาในอนาคตอย่างไร ขอโน้มน้าวให้ สส.ฝ่ายรัฐบาล ช่วยกันคว่ำร่างพ.ร.บ.ร่ายจ่ายประจำปีฯฉบับนี้” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว   

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส