"ณัฐพงษ์" พร้อมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตั้งเป้าปี 70 ชนะเลือกตั้งเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ลั่น "วันนี้ผมอาจจะยังไม่ดีพร้อมแต่ผมพร้อมที่จะพัฒนาตัวเอง"
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า วันนี้พวกเราพรรคประชาชนได้แสดงให้เห็นแล้วว่า กระบวนการในการทำให้พรรคประชาชนเป็นสถาบันทางการเมือง สืบต่ออุดมการณ์พรรคตั้งแต่อนาคตใหม่พรรคก้าวไกล ดังนั้นวันนี้ผมเองก็ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค จากที่ประชุมใหญ่ของพรรค โดยภารกิจ ของผมและพวกเราต่อจากนี้ กรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรค ทีมงานของพรรคทุกคน เรามีภารกิจที่จะทำให้ เราสามารถสร้างรัฐบาล แห่งการเปลี่ยนแปลง ในการเลือกตั้งปี 70 ได้ ซึ่งหมายถึงว่าเราจำเป็นที่จะต้องชนะการเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งหน้า และตั้งเป้าหมายให้สูงยิ่งขึ้น นอกจากการที่เราได้เป็นพรรคอันดับ 1 ในการเลือกตั้งปี 66 โดยเป้าหมายขั้นต่ำ คือชนะการเลือกตั้ง โดยเป็นพรรครัฐบาลพรรคเดียวได้ ซึ่งนั่นคือเป้าหมายสูงสุดของพวกเรา และยังมี อีกหลายภารกิจที่ต้องทำ คือการสร้างพรรคขึ้นมาใหม่ปรับปรุงโครงสร้างพรรค การหาสมาชิกพรรคการหายอดบริจาคพรรค รวมถึงหาคะแนนนิยม การปรับปรุงนโยบาย ให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน มากขึ้น ซึ่งคุณศรายุท ธใจหลัก และคุณศิริกัญญา ตันสกุล เป็นคนที่อยู่ร่วมกับพวกเรามา ตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่ โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการแบ่งแยกบทบาทให้ชัดเจน ผมในฐานะหัวหน้าพรรค และก็เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาหลายปีจะรับบทบาทในฐานะ ทำงานหน้าบ้าน สิ่งสำคัญที่จะทำให้พรรคประชาชนแข็งแรงยิ่งขึ้น ก็คือการทำโครงสร้างพรรค ฐานสมาชิกพรรคให้มีความแข็งแรง ซึ่งคุณศรายุทธ ใจหลัก ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่ ของพรรคประชาชนได้รับความไว้วางใจ เพราะคุณ ศรายุทธ ใจหลัก ได้ทำหน้าที่ตรงนี้มาตลอด ตั้ง แต่ที่เราได้ร่วมเดินทางด้วยกันมา
ส่วนคำถามที่ว่าหลังจากพรรคก้าวไกลถูกยุบไปแล้ว จะทำให้การทำงานเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ นายณัฐพงษ์ บอกว่า ส่วนตัวคิดว่าวิธีการปฏิบัติ ก็ไม่ประมาท ต้องกลับมาทบทวน เรียนรู้ คำตัดสินของศาล และข้อกฎหมายต่างๆ แต่สิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนไป ก็คือหลักการและอุดมการณ์ของความเชื่อ และแนวนโยบาย ที่คิดว่า ต้องการให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน และต้องการที่จะอยู่เคียงข้างประชาชน และไม่คิดว่าเรื่องนี้ที่จะต้องทำให้พวกเราเซนเซอร์ ปิดปากตัวเอง สิ่งที่ยืนยันมาตลอด ก็คือเสนอทุกอย่างบนหลักการ ไม่ได้พุ่งเป้า ที่จะไปเซาะกร่อน ทำลาย สถาบันใด ซึ่งเรื่องนี้เองแน่นอนภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เราต้องยึดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ยืนยันที่จะเดินหน้าทุกอย่างต่อ แต่อย่างไรก็ตามเราก็ต้องไม่ประมาท และต้องกลับมาศึกษาในเรื่องจำกัดข้อกฎหมายต่างๆด้วย
ส่วนแคดิเดตนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งสมัยหน้าจะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีชื่อเดียวหรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ บอกว่า ผมในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน ซึ่งต้องขอพูดตรงๆ ผมคิดว่า วันนี้ผมอาจจะยังไม่ดีพร้อมแต่ผมพร้อมที่จะพัฒนาตัวเอง ตราบใดที่ประชาชนให้การสนับสนุน ตราบใดที่ผู้สนับสนุนพรรคพ่อแม่พี่น้องสื่อมวลชนรวมถึงสังคมโลกใบนี้เห็นว่าสิ่งที่พวกเราพยายามทำมาโดยตลอดเราต้องการสิ่งเรียบง่ายมาก คือให้การเมืองเป็นของทุกคนการเมืองดีขึ้นการเมืองเป็นของประชาชน เพราะฉะนั้นตราบใดที่เรายังได้รับเสียงสนับสนุน ผมพร้อมที่จะผลักดันตัวเองไปข้างหน้าพร้อมกับทุกท่านด้วยแต่แน่นอนที่สุดในเรื่องการเสนอ แคนดิเดต นายกรัฐมนตรี เราได้ถอดบทเรียนหลายๆอย่างมาในอดีต และยังเปิดกว้าง อาจจะสามารถเสนอรายชื่อได้ แต่ว่าต้องผ่านการหาหรือพูดคุยในอนาคต ซึ่งส่วนตัวผมพร้อมที่จะทำหน้าที่ แทนทุกคน ที่จะทำการเมืองใหม่และทำการเมืองให้ดีกว่าเดิม ด้วยการทำงานหนักให้พรรคชนะการเลือกตั้งให้ได้
ขณะที่นายศรายุทธ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา ซึ่งเราตระหนักเรื่องนี้ดีตั้งแต่การสร้างพรรคอนาคตใหม่ ดังนั้นการที่ต้องใช้เวลา ขณะเดียวกันเราจำเป็นต้องมีคนจำนวนมาก เพื่อที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน นั่นคือที่มาว่าเราต้องสร้างพรรคให้เป็นสถาบัน ที่ผ่านมาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ จนมาสู่ก้าวไกล เรามีโครงสร้าง ที่มาจากสมาชิกพรรค และเรามีโครงสร้าง ที่เป็นตัวแทนสมาชิกพรรคผ่านงานเครือข่ายมีเครือข่ายพื้นที่ เครือข่ายชาติพันธุ์ และอีกหลายเครือข่าย
เรายังคาดหวังการเติบโต ของสมาชิกพรรคในอนาคตว่าในอนาคตอันใกล้เราจะมีโครงสร้างตัวแทนสมาชิกพรรค ที่ทำงานการเมืองท้องถิ่น เราคาดหวังที่จะมีโครงสร้างสมาชิกพรรคที่จะไปเป็นรัฐบาล ทำหน้าที่บริหารประเทศนี่คือความสำคัญ ที่เรามีหลายโครงสร้างภายใน พรรค ที่ชื่อว่าประชาชน ดังนั้นหน้าที่ผม ก็คือ การบริหารจัดการ ที่จะทำให้ ทุกภาคส่วน ทำงาน ประสานสอดคล้องกัน เพื่อเป้าหมายที่เราอยากสร้างการเปลี่ยนแปลงประเทศ แน่นอนเมื่อเราทำสำเร็จ เราจะมั่นใจว่าเราจะมีพรรค ทำงานเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง ในอนาคตแม้ว่า เราจะไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้วก็ตาม
โดยระหว่างการแถลงข่าวนายศรายุทธ ได้น้ำตาคลอ และเสียงสั่นเครือ ก่อนที่นายณัฐพงษ์ จะเข้ามาปลอบและโอบเอว ให้กำลังใจ