ภูมิธรรม ยัน พรรคร่วมรัฐบาล ยังไม่มีถกร่าง กาสิโนถูกหมาย

12 ส.ค. 67

 

ภูมิธรรม ยัน พรรคร่วมรัฐบาล ยังไม่มีถกร่าง กาสิโนถูกหมาย ชี้หารือ 2 เรื่อง เลือกตั้งพิษณุโลก-ตำแหน่งรองประธานสภาฯ 

วันที่ 12 ส.ค. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมแกนนำพรรคร่วม หลังมีกระแสข่าวนัดหารือเรื่อง ร่างพ .ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ... หรือ เอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ว่า ยืนยันว่าไม่มีการหารือในประเด็นร่างกฎหมายดังกล่าว 

ส่วนเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ที่ขณะนี้ กระทรวงการคลังเปิดรับฟังความคิดเห็นจะสิ้นสุดในวันที่ 18 ส.ค. นี้ จะมีการหารือในพรรคร่วมรัฐบาลก่อนที่จะมีการส่งเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลรับไปดำเนินการในกระบวนการประชาพิจารณ์ และกำลังดำเนินการทำประชาพิจารณ์อยู่ หากดำเนินการแล้วเสร็จจะส่งต่อไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จากนั้นจึงจะเข้าสู่ที่ประชุม ครม.อีกครั้ง หากที่ประชุม ครม.มีความเห็นตรงกันอย่างไรก็จะส่งไปยังที่สภาฯ เพื่อพิจารณา ซึ่งขณะนี้กระบวนการยังไม่จบ แต่มีการตกลงกันในพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ย้ำว่าทุกอย่างมีกระบวนการอยู่แล้ว ขอให้รอเป็นไปตามขั้นตอน 

ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วยกับเรื่องนี้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่หากผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม ครม.แล้วก็จะต้องเป็นไปตาม ส่วนที่มีข้อเสนอว่าการทำประชาพิจารณ์อาจจะไม่เพียงพอจะมีการเสนอให้ทำประชามตินั้น ยังไม่ได้คิดไปไกลถึงขนาดนั้น ตอนนี้ขอให้เป็นไปตามกระบวนการก่อน และยืนยันว่าที่ประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้มีการหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุย และที่มีกระแสข่าวออกมาเป็นการคาดการณ์ของสื่อมวลชน ซึ่งความสำคัญของการพูดในวันนี้ คือการประชุมวาระสภาฯ และวาระของรัฐบาล 

นอกจากนี้นายภูมิธรรม ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมวินิจฉัย เรื่องที่ สว. ยื่นถอดถอนนาย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีปมแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน ในวันที่ 14 ส.ค.นี้ว่า ไม่มีความกังวลใดๆ ขอให้พรรคร่วมรัฐบาลให้สบายใจ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้ระบุว่าให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมเท่านั้นเอง พร้อมย้ำว่าไม่มีอะไรน่ากังวลให้กระบวนการยุติธรรมทำหน้าที่  

ส่วนการประชุมพรรคร่วมรัฐบาลในวันนี้ นายภูมิธรรม ระบุว่า ที่ประชุมได้พูดคุยกันใน 2 เรื่องใหญ่ คือ 1.ภายหลังการยุบพรรคก้าวไกล จะมีการเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 แทนนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ซึ่งถูดตัดสิทธิ์ทางการเมือง ที่ประชุม เห็นว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาพบว่า พรรคที่ได้อันดับสองคือพรรคพลังประชารัฐและพรรคอันดับสามคือพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีคะแนนห่างกัน ประมาณ 1,000 คะแนน จึงให้พรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทยไปพูดคุยกัน แต่โดยสรุปพรรคร่วมรัฐบาลมีแนวโน้มส่งแค่หนึ่งพรรค 

ส่วนประเด็นที่ 2 ในที่ประชุมพูดคุยตำแหน่งรองประธานสภาฯ ที่ว่างลง โดยตามธรรมเนียมจะต้องเป็นพรรคเพื่อไทย ดังนั้นที่ประชุมจึงมอบให้พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยไปพูดคุยกัน เพราะพรรคภูมิใจไทยขอหนึ่งที่นั่ง โดยพรรคภูมิใจไทยไม่ขัดว่าจะเป็นรองคนที่ 1 หรือคนที่ 2 ดังนั้นในที่ประชุมจึงให้สองพรรคไปตกลงกัน ส่วนพรรคเพื่อไทยนั้นยังไม่ได้มีการพูดคุยกันในกรรมการบริหารพรรค โดยให้แล้วเสร็จ ก่อนวันที่จะมีการเลือกในวันที่ 14 ส.ค.นี้ 

นายภูมิธรรม ยืนยันด้วยว่า การเลือกตั้งซ่อมที่รัฐบาลตกลงว่าจะส่งเพียงพรรคเดียวไม่ใช่เป็นการฮั้วแต่ใครมีโอกาส  โดยให้สองพรรคร่วมรัฐบาลที่ได้คะแนนสูงไปคุยกัน ซึ่งเพื่อไทยอาจจะบอกว่าให้พรรคอันดับสอง ส่งเลยก็ได้ไม่ใช่เป็นการฮั้วแต่เป็นการจัดการตามปกติของการเลือกตั้ง 

ขณะที่ตำแหน่งประธานสภาฯ ที่เป็นโควตาของพรรคประชาชาติ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกันที่ประชุม และที่ประชุมสรุปว่าคนอื่นไม่เกี่ยวตามธรรมเนียมปฏิบัติ ก็เป็นเช่นนั้นเมื่อคุยกันแล้วก็ไม่ติดใจ 

ส่วนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่2 จะไม่ลาออก นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่เห็นยาก พรรคบอกอะไรก็ได้ถ้านายพิเชษฐ์ไม่เอา พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยตามนี้ ก็อยู่ตามนี้ไม่มีอะไรต้องเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าบอกว่าเปลี่ยนก็ได้ ถ้าที่ประชุมพรรคร่วมรัฐบาลเห็นพร้อมต้องกันคะแนนก็ได้อยู่แล้ว อันนี้แล้วแต่สะดวก 

เมื่อถามว่าทำไมถึงใช้ตึกไทยคู่ฟ้าประชุมแทนจะเป็นตึกบัญชาการ 1 และการประชุมไม่มีนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมด้วย นายภูมิธรรม หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “เมื่อนายกฯไม่อยู่ ผมก็พอใช้ได้ พอดีเป็นที่ประชุม ที่ทุกคนก็รู้แล้วก็เลยขออนุญาต และนายกรัฐมนตรีรับรู้แล้วว่าผมจะประชุม ซึ่งไม่ได้มีอะไรต้องกังวล ถ้ากังวลก็ต้องไปแอบซ่อน ก็อาจจะไปประชุมที่ตึกอื่น”

 

advertisement

ข่าวยอดนิยม