ทาสแมวใจสลาย พาน้องไปอาบน้ำ กลับมาไม่ทันข้ามวันตาย

14 ส.ค. 67

 

ทาสแมวใจสลาย พาน้องไปอาบน้ำ กลับมาไม่ทันข้ามวัน สัตวแพทย์แจ้งเกิดภาวะน้ำท่วมปอด จากการถูกขังกรงนาน ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ 

วันที่ 14 ส.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.โชติกา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี เจ้าของ “น้องซากิ” แมวสายพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ เพศเมีย อายุ 10 เดือน ว่า 

ตนได้พาน้องแมวไปอาบน้ำที่ร้านแห่งหนึ่งใน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี หลังจากรับน้องแมวกลับบ้าน ปรากฎว่าน้องแมวมีอาการผิดปกติ และตาย โดยแพทย์ระบุว่าสาเหตุเกิดจากน้ำท่วมปอด ตนทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียน้องแมวไป และอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากทางร้านปัดความรับผิดชอบ บอกไม่เกี่ยวข้องกับการอาบน้ำ 

โดยน.ส.โชติกา ได้นำคลิปภาพน้องซากิ แมวพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ เพศเมีย อายุ 10 เดือน ขณะกำลังสิ้นใจ เสียชีวิตอยู่ภายในโรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยตนได้ร้องไห้เสียใจ และทำใจไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียน้องซากิไป ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา 

น.ส.โชติกา เจ้าของแมวร้องสื่อทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงยังรับไม่ได้กับการที่เจ้าของร้านอาบน้ำแมวไม่ยอมรับผิด และไม่สนใจใยดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

โดยเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ในวันที่ 6 ส.ค. ช่วงเวลา 13.00 น. ตนได้พาซากิไปอาบน้ำที่ร้านอาบน้ำตัดขนหมาแมวแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บางกรวย จ.นนทบุรี ราคา 900 บาท พอไปรับน้องช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. สังเกตว่าน้องมีอาการผิดปกติ ไม่ร่าเริง ซึมและกลัวคน พอพากลับไปที่บ้านก็สังเกตว่าอาการน้องยังไม่ดีขึ้น จึงรีบพาไปคลินิก และได้โทรสอบถามทางร้านอาบน้ำตัดขนว่าเกิดอะไรขึ้น ร้านก็ยอมรับว่าตอนที่อาบน้ำ ได้พอกน้ำยาทิ้งไว้ และจับน้องใส่ตะกร้าขังไว้ น้องมีอาการวิ่งชน จึงได้เล่าอาการนี้ให้สัตวแพทย์ฟัง 

สัตวแพทย์จึงฉีดยาลดปวดบวมให้ แต่ปรากฏว่าพอข้ามวันอาการก็ยังไม่ดีขึ้น จึงพาไปโรงพยาบาลสัตว์ ปรากฎว่าโรงพยาบาลสัตว์ต้องรีบทำการรักษา เพราะตรวจพบเกิดภาวะน้ำท่วมปอด และได้ตรวจโรค ทั้งแบคทีเรียและไวรัสปรากฏว่าไม่ได้มีการติดเชื้ออะไรเลย จึงลงความเห็นว่ามีความเป็นไปได้ ที่แมวจะเกิดภาวะตกใจ ทำให้อวัยวะภายในผิดปกติ จนเกิดน้ำท่วมปอดและตายในที่สุด 

น.ส.โชติกา กล่าวอีกว่า ตอนแรกตนได้พยายามติดต่อและพูดคุยกับทางร้านอาบน้ำแมว ปรากฏว่าทางร้านก็บอกว่าจะเดินทางมาเผาศพน้อง และช่วยเหลือค่าใช้จ่าย แต่สุดท้ายก็หายไป ไม่ติดต่อมาเลย จนกระทั่งทางครอบครัวได้จัดพิธีฌาปนกิจศพ น้องเมื่อวานนี้ วันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา และวันนี้จึงตัดสินใจร้องสื่อ อยากให้เจ้าของร้านยอมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะทางร้านก็ยังคงยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากการอาบน้ำของทางร้าน แต่เกิดจากอวัยวะภายใน ซึ่งส่วนตัวแล้วก็มั่นใจว่าที่น้องเสียชีวิตเกิดจากอาการตกใจช็อก จนเกิดภาวะน้ำท่วมปอด ซึ่งก็เกี่ยวข้องกับกระบวนการขั้นตอนในการอาบน้ำที่มีการจับน้องขังไว้ในกรงนาน 

ปกติแล้วแมวพันธุ์นี้ ร้านอาบน้ำจะทราบดีอยู่แล้วว่าแมวพันธุ์นี้ค่อนข้างที่จะ Sensitive และจะต้องอาบเป็นตัวๆ ไป ไม่อาบน้ำพร้อมกันหลายตัว พอสอบถามถึงภาพจากกล้องวงจรปิด ปรากฏว่าทางร้านก็ไม่มีวงจรปิดช่วงเวลาอาบน้ำแมวให้ดู รวมถึงตรวจสอบแล้วไม่มีใบขออนุญาตประกอบกิจการอีกด้วย สำหรับเหตุการณ์นี้จริงๆ ไม่ได้ต้องการรับการเยียวยาเป็นเงินสด หรืออะไรเลย เจ้าของร้านยอมรับผิดและปรับปรุงขั้นตอนการดูแลสัตว์ที่เจ้าของได้นำไปฝากไว้เท่านั้น แต่ปรากฏว่าเคสนี้ปัดความรับผิดชอบ และไม่ยอมรับผิด จึงขอให้ชดใช้ค่าเสียหาย ทั้งค่าบริการ ค่ารักษาพยาบาล และค่าทำศพ 

ขณะที่ทางทีมข่าวก็ได้โทรสอบถามเรื่องนี้กับทางเจ้าของร้านคู่กรณี ก็บอกกับทีมข่าวว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจ รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าได้พูดคุยเรื่องนี้กับทางเจ้าของแมวแล้ว และยังคงยืนยันว่าสาเหตุการเสียชีวิตของแมวนั้นไม่ได้เกิดจากทางร้าน และสะดวกที่จะให้การชี้แจงเรื่องนี้อีกครั้งในสัปดาห์หน้า

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส