ถกแปรงบ 68 เดือด! โยกเงินใช้หนี้ เติมดิจิทัล วอลเล็ต 3.5 หมื่นล้าน วรภพ ห่วงทำเกินเส้นวินัยการเงินการคลัง หวั่นจบที่องค์กรอิสระ
วันที่ 21 ส.ค. 67 ที่รัฐสภา ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 มีการเสนอขอแปรงบประมาณในส่วนของที่ตั้งไว้ สำหรับการใช้หนี้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท ไปไว้ในงบกลาง เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่าน ดิจิทัล วอลเล็ต
นายวีระ ธีระภัทรานนท์ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ได้จี้ถาม ผอ.สำนักงบประมาณถึงความชัดเจนในการจัดทำงบประมาณ 450,000 ล้านบาทที่จะนำมาใช้ดำเนินโครงการดิจิทัล วอลเล็ต
โดยนายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวชี้แจงว่า มีการตั้งงบประมาณไว้ในปีงบประมาณ 67 122,000,000 ล้านบาท 43 หมื่นล้านบาท 1.6 แสนล้านบาท ในปี 2568 ตั้งไว้ 3.1 แสนล้านบาท แปลเพิ่มเติม 35,000 หมื่นล้านบาท และยังมีงบกลางที่สามารถใช้ได้อีก 9.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งตอนนี้มีคนลงทะเบียนรับเงินดิจิทัลเกือบ 30 ล้านคน จึงเชื่อมีครบกำหนดลงทะเบียนจะมีงบประมาณเพียงพอดำเนินโครงการ
นายวีระ จึงจี้ถามว่าจะใช้งบกลางทั้งหมดมาดำเนินโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ไม่เผื่อไว้สำหรับเหตุฉุกเฉินใช่หรือไม่ นายเฉลิมพล ชี้แจงต่อว่า หากเกิดกรณีฉุกเฉินยังมีเฃินทุนสำรองจ่ายตามมาตรา 45 วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท และหากต้องใช้เงินในส่วนนี้จริง จะตั้งงบมาใช้คืนในปีงบประมาณ 2570
นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.พรรคประชาชน เสนอคงามกังวลว่าเรื่องนี้เกินเส้นกรอบวินัยการเงินการคลัง เพราะมาตรา 20 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังกำหนดให้ตั้งงบมาใช้หนีคืนในโอกาสแรกที่สามารถทำได้ แต่กลับเสนอโอนย้ายไปไปไว้ในงบกลางนั้นเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ ไม่อยากให้องค์กรอิสระเป็นผู้ตัดสินเรื่องนี้
โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวชี้แจงในโครงการ ดิจิทัล วอลเล็ต ว่า ในมาตรา 20 ใน พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง เป็นเรื่องของการตั้งงบประมาณ ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วและสภาให้การรับรอง ในวาระ 1 ซึ่งขั้นตอนเป็นขั้นตอนของฝ่ายนิติบัญญัติในการพิจารณาในชั้นมีหน้าที่ในการพิจารณาปรับลดหรือเพิ่มเติม ซึ่ง 5 ธนาคาร ได้มีการพูดคุยและเสนอความคิดเห็นว่าสามารถปรับลดงบประมาณได้ แต่ไม่กระทบต่อสถานะความแข็งแกร่งของธนาคารทั้ง 5 แห่งได้ พร้อมยืนยันว่า การดำเนินการทุกอย่างอยู่ในกรอบวินัยการเงินการ ตามมาตรา 28 รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างยิ่ง
ส่วนข้อกังวลว่าปัจจุบันอยู่ในภาวะสุญญากาศหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เป็นข้อเท็จจริงที่มีการปรับเปลี่ยนรัฐบาล แต่จะให้มาตอบว่าจะจบอย่างไรคงให้ไม่ได้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความตั้งใจ ต้องการให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย และกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นได้โดยเร็ว เพราะฉะนั้นโครงการนี้โดยหลักควรจะต้องมีการเดินหน้า แต่อย่างไรก็ตาม หน้าที่ของพวกเราของสำนักงบประมาณที่มีการบรรจุเรื่องนี้เข้ามาในชั้นกรรมาธิการ เป็นสิ่งที่ผ่านการพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยคณะรัฐมนตรีออกมาแล้ว มีการมติออกมา ถามว่าวันนี้เราจะพิจารณาอย่างไร ตนให้คำตอบเดียวกับที่ตนให้คำตอบกับสื่อมวลชนว่า หน้าที่ของครม.รักษาการ หรือหน้าที่ของรักษามติครม. ที่สั่งการให้เดินหน้า โดยตัวโครงการยังคงอยู่ ไม่ได้มีมติใดๆ มาล้มล้างไป แม้อาจจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามา ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป หากจะยกเลิก แต่ในขณะนี้ไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เพียงยังคงเดินหน้าต่อไปในกรอบของกฎหมายที่เราทำตามข้อสั่งการของคณะรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้มีคำขอของส่วนงานเข้ามาขอตัดงบ 35,000 บาทแปรงบ ซึ่งมีหน้าที่รับสิ่งนี้เข้ามาพิจารณาและเห็นชอบเพียงแค่
ทั้งนี้ที่ประชุมมีองค์ประชุม 48 คน เห็นด้วย 33 คน ไม่เห็นด้วยจำนวน 12 คน งดออกเสียง 1 คน และไม่ประสงค์ลงคะแนน 2 คน