ทักษิณ เชียร์ รัฐบาลดึงเอกชน ทุ่มทุนแสนล้าน เดินหน้า สถานบันเทิงแบบครบวงจร

ทักษิณ เชียร์ รัฐบาลดึงเอกชน ทุ่มทุนแสนล้าน เดินหน้า สถานบันเทิงแบบครบวงจร สู้เพื่อนบ้าน แนะถมทะเลบางขุนเทียน-ปากน้ำ ผุดเมืองใหม่ 

วันที่ 22 ก.ย. 67 ที่พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน นาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงหนึ่งของ Dinner Talk Vision for Thailand ว่า ถึงเรื่อง เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ หรือ สถานบันเทิงแบบครบวงจรว่า ในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศสิงคโปร์ ซึ่งความจริงตนเคยคิดแล้วตอนนั้น แต่ทำไม่ได้ เพราะมีคนค้าน แต่วันนี้ตนไม่ได้คิด และไม่มีคนค้าน มีแต่คนเชียร์เยอะ 

ซึ่งในเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ จะประกอบไปด้วยหลายอย่าง เช่น สวนสนุกของเด็ก คอนเสิร์ตฮอลล์ สนามกีฬา ส่วนพื้นที่ที่เป็นกาสิโนจริงๆ มีไม่ถึง 10% ของพื้น ซึ่งเป็นกติกาที่ใช้กัน และเราจะใช้กติกาแบบนี้คือให้มีพื้นที่กาสิโนไม่เกิน 10% ของพื้นที่ทั้งหมด และต้องลงทุนแต่ละแห่งใน กทม.เริ่มแสนล้าน ลงทุนน้อยไม่เอามันไม่หล่อสู้ประเทศอื่นไม่ได้ เราจะถือโอกาสเติมในสิ่งที่เราขาด อย่างวันนี้เราจะมีคอนเสิร์ตดีๆ แต่ไม่มีคอนเสิร์ตฮอลล์ใหญ่จัดแล้วฝนตกเราจะทำอย่างไร ซึ่งสิ่งที่เราขาดไปเราจะเรียกร้องให้มีการมาลงทุนในเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ โดยที่เราไม่ต้องลงทุนเอง 

นอกจากนี้ เห็นว่าการลงทุนภาครัฐจะต้องเกิดขึ้นในช่วง 3 ปีของรัฐบาลนี้ และต่อด้วยชนะเลือกตั้ง ก็ทำต่อในรัฐบาลหน้า และสำคัญที่พูดไว้ คือการถมทะเลบางขุนเทียน-ปากน้ำ เพื่อที่จะได้พื้นที่ขยายความแออัดของกทม. ส่วนหนึ่งสามารถเป็นเมืองสีเขียว เป็นเมืองใหม่ให้เฉพาะรถไฟรถไฟฟ้าวิ่งเท่านั้น มีรถไฟเชื่อมและมีการป้องกันกทม.ไม่ให้น้ำท่วมได้ และ กทม.น้ำทะเลสูงขึ้นทุกวัน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมได้ วันนี้จำเป็นที่จะต้องมีการป้องกันเตรียมน้ำท่วมจากทุกที่ ซึ่งการถมทะเลถือว่าเป็นการได้พื้นที่มากขึ้นและได้แหล่งท่องเที่ยวในเมือง 

ขณะที่รถไฟความเร็วสูงจากหนองคายถึงกทม. หรือ กทม.-โคราช เราจะได้เชื่อมเส้นทางสายไหม ของจีนได้ซึ่งจะถือโอกาสเอาปีหน้าซึ่งครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ไทยจีน ซึ่งตนอยากเห็นเราเชื่อมโลกได้อีกครั้ง เพราะรถไฟฟ้าไม่ใช่การส่งผู้โดยสารอย่างเดียวแต่ยังสามารถส่งสินค้าได้ด้วย 

ส่วนรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสายคงต้องทำ เพราะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าเราพูดไปแล้วเราต้องทำให้ได้ ฉะนั้นเรื่องรถไฟฟ้า 20 บาทเราอาจจะต้องเวนคืนรถไฟฟ้าที่เอกชนบริหารกลับมาเป็นของรัฐ แล้วจ้างเอกชนเป็นคนบริหารและเราต้องกำหนดค่าตั๋ว ไม่เช่นนั้นเอกชนจะมุ่งเน้นเรื่องกำไรเป็นสิ่งที่เราจะต้องทำและต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟรถไฟฟ้า 

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม ต้องไปชวนต่างประเทศมาลงทุน เรื่องต่อมา เรื่องดาต้าเซนเตอร์ เขาบ่นเรื่องค่าไฟและพลังงานสีเขียว ถ้าจำเป็นต้องทำเอง ทำได้แต่ห้ามขาย ไม่ใช่ให้มาทำธุรกิจไฟฟ้า แต่ทำใช้เองไม่ว่ากัน กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย 

ขณะที่เรื่องรถอีวี ตอนช่วงตนอยู่ ตนสนับสนุนอีโคคาร์ เลยใช้ภาษีสรรพสามิตสนับสนุนอีโคคาร์ เมื่ออีวีจีนมา ตนอยากขอร้องว่า ให้ไทยเป็นฐานผลิตพวงมาลัยขวา อยากให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตพวงมาลัยขวาได้หรือไม่ เรื่องอีโคซิสเตมอุตสาหกรรมรถยนต์ต้องรักษาไว้ ทำอย่างไรให้รถไฟฟ้าจากจีนมาใช้ส่วนประกอบในไทยบ้าง ต้องเริ่มเจรจาได้แล้ว ขอให้คนที่เกี่ยวข้องเจรจากัน