ทักษิณ มั่นใจ ไม่เกิดรัฐประหาร นายกฯอิ๊งค์ 100% เชื่อเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อไทย กวาดเรียบ

22 ส.ค. 67

 

ทักษิณ มั่นใจ ไม่เกิดรัฐประหาร นายกฯอิ๊งค์ 100% เชื่อเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อไทย กลับมาชนะ ลั่นจะร่วมรัฐบาลต้องให้โอกาสพรรคมิตรเก่าก่อน 

วันที่ 22 ก.ย. 67 ที่พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน นาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามพิธีกร ช่วงหนึ่งในงาน Dinner Talk Vision for Thailand ถึงกรณีที่ประชาชนตั้งคำถามว่า 17 ปี ที่ออกจากประเทศไทยไป และเมื่อปี 2566 ได้กลับมาประเทศไทยในรอบนี้ มีเงื่อนไขต้องเป็นตัวประกันหรือดีลหรือไม่ 

นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่มีใครมาดีล ไม่มีใครกล้าดีล เพราะตนไม่มีอะไรจะให้มาดีลกับตนเพราะเสียเวลา แต่ต้องยอมรับว่าตนรักบ้านเมือง และคิดถึงหลานเวลาไปหาทีเขากลับเราก็น้ำตาตกทุกที ซึ่งมีความทุกข์ ที่อยากกลับประเทศตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้า และสุดท้ายก็ประสานกับทางรัฐบาล ซึ่งเป็นในสมัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าตนจะเดินทางกลับ เพราะตนไม่มีพาสปอร์ต ซึ่งมีการประสานมาแล้ว เขาก็เตรียมการ ตนสำนึกว่าสิ่งที่เราได้รับ เรามีหน้าที่ตอบแทนทุกอย่างให้บ้านเมือง และมีหน้าที่ที่จะต้องจงรักภักดีต่อไป เป็นสิ่งที่ทำให้ตนได้กลับมาเป็นคนไทยอีกครั้ง 

เมื่อถามว่า หลังกลับมาเป็นประชาชนคนไทย และได้รับใบบริสุทธิ์แล้ว คิดว่าอยากจะทำอะไรที่สุดสำหรับประเทศไทย หรืออยากจะช่วยนายกรัฐมนตรีขับเคลื่อนข้างหลัง หรืออยากผลักดันให้รัฐบาลนี้มีเอกภาพที่สุด นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ ตนเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พี่น้องคนไทยหลายคนยังมีความผูกพันอยู่กับตนบ้าง ตนถือว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องตอบแทนบ้านเมืองอย่างสุดฝีมือ ในขณะที่สมองเรายังดี มีความจำดี และผ่านประสบการณ์เห็นประเทศต่างๆ ในโลกเยอะจึงอยากเป็น ”พระเอก โลกทั้งใบให้นายคนเดียว“ ซึ่งพิธีกรสอบถามนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายทักษิณ ตอบกลับว่า “นายประเทศไทย” 

เมื่อถามว่า การเมืองเมืองไทยเปลี่ยนไปเยอะหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า การเมืองเมืองไทยเปลี่ยนไปเยอะ ตั้งแต่การปฏิวัติประเทศไทยครั้งแรกในครั้งที่สอง การร่างรัฐธรรมนูญมีเจตจำนวนอย่างชัดเจน เพื่อให้การเมืองอ่อนแอ เพราะกลัวการเมืองแข็งแรงเหมือนสมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะไม่เคยมีประวัติศาสตร์ ว่าการเลือกตั้งชนะรอบสอง และได้มาถึง 377 เสียง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากเห็น ซึ่งตอนนั้นถูกกล่าวหาว่าเป็นเผด็จการรัฐสภา ต้องถือว่าเป็นประชาชนเผด็จการ เพราะประชาชนเป็นคนเลือกมา และถึงตอนนี้ยังมองว่ารัฐธรรมนูญยังเป็นปัญหาจะต้องแก้เยอะ วันนี้ฝ่ายประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งแข็งแรงและสามัคคีกันมากพอสมควรถึงเวลาที่จะต้องแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้ประชาธิปไตยกลับคืนสู่คนไทย  

ส่วนรัฐบาลสภาวะปัจจุบัน ที่เป็นรัฐบาลข้ามขั้ว แล้ววันนี้เปลี่ยนจากนายเศรษฐา ทวีสิน มาเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ส่งผลให้ป่าสะเทือนเลื่อนลั่น จะทำให้รัฐบาลเดินไปอย่างมีเสถียรภาพอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า เรื่องเสถียรภาพไม่มีปัญหาเลย แต่เรื่องข้ามขั้วไม่ข้ามขั้ว บ้านเราชอบบัญญัติศัพท์ และพูดติดปากกันเลย บ้านเราเป็นระบบรัฐสภาใครรวมเสียงได้ก่อนก็จะตั้งรัฐบาล แต่ตามมารยาทให้สิทธิ์คนที่ได้ที่หนึ่งก่อน แต่ถ้าคนที่หนึ่งเขาไม่ได้ก็เป็นอันดับสอง เป็นคนรวบรวมเสียง จึงไม่ใช่การข้ามขั้วแต่เป็นระบบรัฐสภา และที่ตั้งไม่ได้เพราะเขาไม่ยอมยกเลิก การแตะต้องมาตรา 112 เรื่องเดียวเลย เพราะทุกพรรคเขาไม่เอาด้วยกับเรื่องนี้ ถ้าวันนั้นไม่มีมาตรา 112 วันนั้นการตั้งรัฐบาลของอดีตพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยจบไปแล้ว 

เมื่อถามถึงความมั่นใจว่ารัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมีความมั่นคงใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า มั่นใจ เพราะ สส.ในฝั่งรัฐบาลมี 300 กว่าเสียง ไม่มีอะไรที่เสี่ยง และการที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตั้งใจทำ และทีมงานที่รองรับด้านหลังน่าจะผลักดันได้ดี 

เมื่อถามถึง คำแนะนำต่อหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในการจะเป็นพรรคอันดับหนึ่งชนะพรรคประชาชนได้ นายทักษิณ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งหน้ามีโอกาสสูงพรรคเพื่อไทยจะเป็นที่ 1 การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา หากหัวหน้าพรรคไม่ลาคลอดแล้วเดินหน้าหาเสียงไปเรื่อยๆ ตอนนั้นลาคลอดไป 10 กว่าวัน ทำให้คะแนนนิยมตก หากหาเสียงจนจบ ตนว่าไม่แพ้มั่นใจ เพราะเราสำรวจตลอด 

เมื่อถามว่า อะไรที่ทำให้มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยจะชนะพรรคประชาชน นายทักษิณ กล่าวว่า ของมันเคยชนะมาแล้ว ซึ่งหลักของพรรคก้าวไกลหรือพรรคประชาชนเขาต้องการความเท่าเทียม ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ในบริบทของสังคมไทย ดังนั้น เขาจึงจะอยู่ในบริบทของการเมือง ส่วนของพรรคเพื่อไทยอยู่ในบริบทของการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อสร้างโอกาสที่เท่าเทียมของประชาชน เราเน้นโอกาส เขาเน้นสถานะ ไม่เหมือนกัน ซึ่งตนใช้แบบนี้มาตั้งแต่ปี 2541 ตนชนะด้วยคำเดียวคือโอกาส วันนี้ไม่ใช่คนไทยงอมืองอเท้าหรือไม่ฉลาด แต่เป็นเรื่องของโอกาส 

เมื่อถามว่า หากไม่มีเรื่อง 112 การเลือกตั้งครั้งต่อไปพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชนสามารถจับมือกันตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ในฐานะผู้เคยก่อตั้งพรรค เรามีพันธมิตรที่เคยทำงานในรัฐรัฐบาลร่วมกัน เขาต้องมีสิทธิ์ก่อน นี่คือมิตรทางการเมือง หลักการทางการเมืองเป็นเช่นนี้ 

เมื่อถามว่า คนที่อยู่ด้วยกันมีประชาธิปัตย์หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ประชาธิปัตย์ก็มาร่วม เห็นหรือให้มางานนี้ด้วย ตอนมองว่าวันนี้ประเทศไทยต้องสามัคคีกัน เราแบ่งหน้าที่ แต่เราไม่ได้เป็นศัตรูกัน 

เมื่อถามว่า ตั้งแต่กลับประเทศไทยมา 1 ปี ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐบ้างหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ก่อนมาเคยโทรคุยผ่านคนอื่น เป็นเรื่องที่จะร่วมรัฐบาลกัน ถามสารทุกข์สุขดิบ แต่ไม่เคยพูดคุยกัน ไม่ได้เจอกัน เขาไม่รู้จักตนแล้ว รู้จักตั้งแต่เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 จนเป็น ผบ.ทบ. 

เมื่อถามว่า คิดว่าพรรคพลังประชารัฐจะเป็นตัวแปรสำคัญหรืออุปสรรคสำหรับรัฐบาลแพทองธารหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่เป็น เพราะมีเสียงพอ 

เมื่อถามว่า มีอะไรอยากบอกพล.อ.ประวิตร หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เราก็อายุมากกันแล้ว ก็เข้าฟังธรรมะสักหน่อย จิตใจจะได้สงบ ตนอยู่เมืองนอกมา 17 ปี มีเรื่องราว มีคดีมากมาย ทีแรกตนก็โกรธ ทีหลังก็เฉยๆ ตอนหลังก็ขำมีอีกหนึ่งคดี 

เมื่อถามว่า ในฐานะพ่อคิดว่าจะสนับสนุนช่วยเหลือ ลูกสาวที่เป็นนายกรัฐมนตรี คนแรกที่อายุน้อยที่สุดอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า ตนต้องทำหน้าที่ ช่วยคิดช่วยเสนอแต่การตัดสินใจเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ตนไปพบว่าสิ่งไหนที่ต้องปรับปรุงแก้ไข หรือแนวทางประเทศควรไปทางไหนก็จะบอกเขา แต่การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ไม่ใช่เรื่องของตน แต่ตนคงจะอยู่เฉยมองปัญหาบ้านเมืองแบบไม่สนใจไม่ได้ เห็นอะไรไม่ดีก็ต้องบอก เพื่อให้เขาได้แก้ไข เราก็ห่วงใย รักบ้านเมืองอยู่แล้ว แม้ว่าจะไม่ใช่ลูกตนเป็นนายกรัฐมนตรี ตนก็ต้องบอกในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี 

ส่วนจะวางระยะห่างกรณีที่มีนักการเมืองหรือนักธุรกิจเข้าหาอย่างไรนั้น นายทักษิณ กล่าวว่า ตนมีนิสัยเป็นอาจารย์เก่า ชอบสอนหนังสือชอบให้ความรู้ ใครมาปรึกษาก็ยินดี แต่ถ้ามาวิ่งเต้นไม่เกี่ยวกับตน ไม่ต้องมา บ้านตนเจอแต่เพื่อนฝูง 

มองว่าหลังจากนี้มีโอกาสจะเกิดรัฐประหารขึ้นอีกหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่มี วงจรนั้นหายไปแล้ว เชื่อว่านายกฯแพทองธารจะปลอดภัยจากรัฐประหาร 100 เปอร์เซ็นต์

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม