นครพนมรับมือ “ซูลิก” แผลงฤทธิ์ ภาคเหนือ-อีสานฝนหนักคืนนี้

20 ก.ย. 67

 

นครพนมรับมือ “ซูลิก” แผลงฤทธิ์ ภาคเหนือ-อีสานฝนหนักคืนนี้ ขณะที่ ทม.นครพนมเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงโขงเตรียมรับมือ 

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 19 ก.ย. 67 หลัง พายุโซนร้อนซูลิกได้ขึ้นฝั่งเวียดนามที่เมืองกวางตรี เมื่อช่วงเวลา 16.00 น. วันที่ 19 ก.ย. กระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. เคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศ สปป.ลาว และเข้าสู่พื้นที่ จ.นครพนมตามลำดับ 

โดยอิทธิพลของพายุเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนตกหนัก คาดจะตกต่อเนื่องตลอดทั้งคืน ทั้งนี้เทศบาลเมืองนครพนมเตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่ได้เดินเครื่องสูบน้ำระบบไฟฟ้าอัตโนมัติขนาดใหญ่รวม  7 จุดเพื่อระบายน้ำออกจากตัวเมืองลงสู่น้ำโขงแต่ในช่วงนี้ระดับน้ำโขงยังสูงแม้จะลดลงบ้างแล้ว ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 11.70 เมตรห่างจากจุดเฝ้าระวังล้นตลิ่ง 30 เซนติเมตร คือที่ 12 เมตร ทำให้มวลน้ำในพื้นที่ รวมถึงลำน้ำสาขาไหลระบายลงน้ำโขงช้ายิ่ง หากมีฝนตกต่อเนื่องจะต้องเดินเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเร่งระบายมวลน้ำลงโขงให้เร็วที่สุดป้องกันน้ำรอระบายเอ่อท่วมตัวเมืองย่านชุมชนเศรษฐกิจการค้า 

นครพนมรับมือ “ซูลิก” แผลงฤทธิ์ ภาคเหนือ-อีสานฝนหนักคืนนี้

ส่วนปัญหาน้ำโขงเอ่อล้นทะลักท่วมตัวเมืองนครพนม รวมถึงอำเภอชายแดน 4 อำเภอมี อ.บ้านแพง อ.ท่าอุเทน อ.เมืองนครพนม และอ.ธาตุพนม ยังมีโอกาสยาก เพราะระดับเขื่อนป้องกันตลิ่งสูงสามารถรองรับน้ำโขงได้ถึง 15 เมตร จะมีเพียงพื้นที่ลุ่มต่ำรวมถึงพื้นที่การเกษตรติดแม่น้ำโขงที่ได้รับผลกระทบหากยังมีฝนตกหนักต่อเนื่องอีกหลายวัน คาดว่าระดับน้ำโขงจะไม่ลดระดับลง เนื่องจากยังมีมวลน้ำจากหลายพื้นที่ไหลมาสมทบ 

นครพนมรับมือ “ซูลิก” แผลงฤทธิ์ ภาคเหนือ-อีสานฝนหนักคืนนี้

สำหรับพื้นที่ได้รับผลกระทบหนักสุดคือ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เนื่องจากเป็นจุดรวมน้ำสาขาสายหลักทั้งลำน้ำอูนลำน้ำสงครามไหลมาบรรจบกันก่อนไหลลงแม่น้ำโขงที่ ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน แต่ในช่วงน้ำโขงสูงหนุน ทำให้ไม่สามารถระบายลงโขงได้ ล่าสุดมีปริมาณเกินความจุถึงร้อยละ 50 จนเอ่อล้นท่วมพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะนาข้าวของเกษตรกรจำนวนกว่า 50,000 ไร่ 

โดยหน่วยงานเกี่ยวข้องอยู่ระหว่างเร่งสำรวจให้การช่วยเหลือชดเชยเยียวยา รวมถึงสัตว์เลี้ยงเศรษฐกิจโคกระบือได้รับผลกระทบเริ่มขาดหญ้ นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนของชาวบ้านบางส่วนเกิดน้ำท่วมขังโดยเฉพาะพื้นที่ ต.ท่าบ่อสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนมได้รับผลกระทบหนักสุด เนื่องจากพื้นที่เป็นลักษณะแอ่งกระทะ ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งลำน้ำสาขาถือเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากเกือบทุกปี ชาวบ้านจึงปลูกสร้างบ้านเป็นแบบยกสูงพอน้ำมาต้องอาศัยอยู่ชั้นบนโดยมีภาครัฐให้การดูแลช่วยเหลือจนกว่าระดับน้ำลดบางปีท่วมขังนานกว่า 2 เดือน 

นครพนมรับมือ “ซูลิก” แผลงฤทธิ์ ภาคเหนือ-อีสานฝนหนักคืนนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ล่าสุดเวลา 00.30 น. วันที่ 20 ก.ย. 67 ว่า ซูลิกยังคงเป็นพายุโซนร้อนอยู่ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศเวียดนามและเคลื่อนตัวค่อนข้างช้า  คาดจะอ่อนกำลังเป็นดีเปรสชั่น บริเวณพื้นที่ จ.นครพนม และยังคงเส้นทางเดิมอยู่เมื่อพายุเคลื่อนถึง จ.เลยจะอ่อนเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง และจะทำให้ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบนมีกำลังแรงมากขึ้นฝนหนักจะเริ่มตั้งแต่คืนนี้วันที่ 20 ก.ย. เป็นต้นไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส