กบ ไมโคร แจงดรามา ขึ้นเวที ดิไอคอน เข้าพบตำรวจปคบ. แสดงความสุจริตใจ ยอมรับเคยเป็นแม่ข่าย แต่เสียเงินจริงกว่า 2 ล้าน บอกตัวเลขกำไรบริษัทจูงใจ
เมื่อเวลา 12.08 น. วันที่ 15 ต.ค. 67 ที่กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง นาย ไกรภพ จันทร์ดี หรือ กบ ไมโคร มือกีตาร์วงไมโคร ซึ่งเป็น 1 ในผู้เสียหายจากบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป กล่าวว่า เมื่อสองคืนที่แล้ว ตนได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สน.ประเวศ และวันนี้ตนเดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่ ปคบ. เพื่อแสดงความสุจริตใจ และพร้อมให้ความร่วมมือทุกประการที่เจ้าหน้าที่ต้องการ
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการขุดภาพคลิปวิดีโอ กบ ไมโคร ขึ้นเวที ดิไอคอน พร้อมระบุว่าไม่ใช่แม่ข่ายที่กลับตัวกลับใจ แต่คือโค้ชที่เสียผลประโยชน์นั้น กบ ไมโคร กล่าวว่า ตอนนี้ตนกำลังคลุมเครือว่าตนเป็นผู้เสียหาย เป็นแม่ทีม เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด หรือเป็นอะไ รเพราะฉะนั้นข้างหน้าเป็นอย่างไรไม่รู้ ตนรู้อย่างเดียวว่าตนต้องมาก่อน ตนไม่รู้เรื่องขั้นตอนราชการ รู้เพียงแต่ว่าวันนี้ต้องมา ส่วนคลิปดังกล่าวตนสมัครได้เข้าไปได้ประมาณ 4-5 เดือน และมีหัวข้อ “ไรซ์ซิ่ง สตาร์” ให้มาบอกเล่าเหตุผลว่าทำไมถึงมาขายของออนไลน์ ตอนนั้นจึงอยากขึ้นไปแบ่งปันบอกเล่าว่าอะไรทำให้ถึงมาขายของออนไลน์ และขายเป็นอย่างไร
ซึ่งก็รับหน้าที่ที่จะพูดตรงนั้น และไม่ได้มีค่าจ้างใดๆ ทั้งสิ้น ในส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้นในส่วนของตนปิดบิลไป 5 ดีลเลอร์ ส่วนของภรรยาอีก 5 ดีลเลอร์
เมื่อถามว่า ที่ไม่ได้ค่าจ้าง แต่ได้ไปฝรั่งเศสคืออะไร กบ ไมโคร กล่าวว่า การขึ้นเวทีไปพูด ไม่ได้รับค่าจ้างอะไร แต่เข้าไปเพื่อแบ่งปัน ส่วนการไปเที่ยวฝรั่งเศสเป็นทริปโปรโมชั่นแต่ละครั้งที่เปิดดีลเลอร์ จะมีโปรโมชั่นเพื่อจูงใจให้เรารีดีลเลอร์ ส่วนการปิดดีลเลอร์จะได้กำไรจะได้กำไรจากการขายของ แต่เมื่อไปถึงจุดหนึ่งขายไม่ได้ ไม่ว่าจะในช่องทางออนไลน์ หรือกับคนรู้จัก ของก็เริ่มคาสต๊อก ในที่สุดก็นำไปถวายพระ นำไปแจกให้ญาติกิน ในช่วงเวลาที่ใกล้หมดอายุก็จำเป็นต้องขายตัดราคา เวลามีคนมาขอซื้อยอมรับว่าผิด แต่ทุกคนอยู่ในเงื่อนไขนี้หมด ของใกล้หมดอายุต้องขายออกไป เพื่อเอาทุนคืนบางส่วน
เมื่อถามถึงเหตุผลที่เปิดถึง 10 ดีลเลอร์เพราะอะไร กบ ไมโคร กล่าวว่า ระหว่างที่ทำงานไปอยู่ในนั้นประมาณปีกว่า เราจะต้องอยู่ในมนต์สะกดของเขา ด้วยคำว่า ไม่เถียง ไม่ถาม ขอให้ทำตามอย่างเดียว แล้วจะมีผลสำเร็จ และดีลเลอร์จะมีอยู่คำหนึ่งว่า ถ้าเราไม่เปิด ใครเขาจะเปิดกับคุณคน หากใครที่อยู่ในดิไอคอนจะรู้แม่ทีมชอบพูดคำนี้ ดังนั้นเราก็ต้องปิดบิล โดยมีเงื่อนไขการไปเที่ยวแถมมา ตนจึงเดินไปสู่จุดนั้น และคาดหวังว่าจะขายของได้แต่ เมื่อถึงจุดหนึ่งแล้วเราขายไม่ได้
เมื่อถามว่า เป็นคนปิดดีลเลอร์ถึงขั้นแม่ทีมหรือไม่ ให้คำนิยามตัวเองอย่างไร กบ ไมโคร ยอมรับว่า ยืนยันให้คำนิยามตัวเองว่าเป็นแม่ทีม มีคนตามมาปิดดีลเลอร์ตามตน 8 คน ซึ่งตนไม่เคยปิดการขาย และขายของไม่เป็น เขาเหล่านั้นก็สมัครมาเป็นดีลเลอร์ด้วยตัวเอง ซึ่ง 8 คนนี้ ทำให้ตนเลิกทำธุรกิจนี้ เพราะขายของไม่ได้ เขาพยายามไปขายช่องทางต่างๆ ทุกวิถีทางแล้ว เมื่อ 8 คนนี้ขายไม่ได้ ตนก็มาดูว่ามันเป็นธุรกิจขายของออนไลน์จริงหรือไม่ ทำให้ตนต้องเริ่มสแกนธุรกิจนี้ว่าคืออะไร และค่อยๆถอยออกมาแล้วก็คลำหาข้อมูลที่หาได้ทั้งหมดเท่าที่จะแอบคุยแอบถามกับสมาชิกที่ลำบาก
ซึ่งทั้ง 8 คนมอบอำนาจให้ตนเป็นคนดูแลเรื่องคดีให้เขาทั้งหมด เพราะทุกคนอยากได้เงินคืน แต่ตนไม่ได้อยากได้เงินคืน เพราะเราก็ไม่รู้ว่าจะชนะคดีหรือไม่ ไม่รู้ว่าเราสู้กับอะไรอยู่หรือเปล่าปัญหา กับดิไอคอนเกิดขึ้นมานานแล้ว เพราะมีคนโดนฟ้องหมิ่นประมาท ตนอยากพูดมานานแล้ว แต่มีคนโดนฟ้องคดีถึงที่สุดวันที่ 28 ต.ค.นี้
ตนเลิกธุรกิจดังกล่าวตั้งแต่เดือน ก.ค. –ส.ค. ปี 66 ที่ถอยออกมา ทั้งนี้ยืนยันว่าเคยเจอ บอสพอส เค้าเล่ากันว่าบอสพอลอยู่บนสุด และข้างล่างถัดมาจะมี 10 คน ตนไม่รู้ว่าเขามาจากธุรกิจเครือข่าย นึกว่าเป็นธุรกิจออนไลน์แท้ๆ จากนั้นมีเครือข่ายต่างๆ เริ่มโผล่มา ทั้งที่เขายืนยันตลอดว่าไม่ใช่ธุรกิจเครือข่ายจะใช้คำว่า จะใช้คำว่าแฟรนไชส์ในการเปิดบิล ไม่มีคำว่าอัพ LINE ดาวน์ LINE ในบริษัทนี้ หรือแม้แต่คำว่า แม่ทีม แต่จะใช้คำว่าแฟรนไชส์เหมือนกับการเปิดสาขา ทุกคนจึงเดินเข้ามา และไม่รู้ว่าเราทำธุรกิจเครือข่ายจนล้มกันหมดเลย
ทั้งนี้หมดนี้ความน่าเชื่อสูงสุดของบริษัทดังกล่าวอยู่ที่ตัวเลขผลประกอบการ 4,000 ล้านบาทซึ่ งเรามองเป็นความมั่นคงทางธุรกิจ ไม่ใช่ความโลภ ดังนั้นจุดนี้เป็นจุดสำคัญที่สุดสำหรับตนที่เข้ามาเขาก็พยายามสอนออนไลน์ แต่กว่าจะเข้าใจว่า 4,000 ล้านบาทมาจากอะไร ซึ่ง ณ เวลานี้ได้ยินว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ ถ้ารู้ว่าเป็นแชร์ลูกโซ่คงไม่มีใครทำ แต่เพราะไม่มีใครรู้ว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ หรือแม้กระทั่งเป็นธุรกิจเครือข่าย ไม่มีใครรู้อะไรเลยสักอย่าง ถ้ารู้คงมาไม่ถึงตรงนี้ ส่วนเรื่องเส้นทางเทวดาตนไม่ทราบ และไม่ได้สัมผัสกับตรงนั้น ในส่วนของตนและภรรยาประมาณ 2,000,000 กว่าบาท ฝากถามว่าตรงนี้ตนเป็นผู้เสียหายหรือไม่
ส่วนที่จะให้เราขึ้นไปบนเวที เพื่อแบ่งปันในฐานะคนทำงานออนไลน์ จะมีวิธีการพูดว่าจะต้องชี้อัพเจ้าของกิจการ และชี้อัพโค้ด ซึ่งเป็นวิธีที่จะบอกให้รู้ว่าธุรกิจนี้มันจะเปลี่ยนชีวิตเราได้อย่างไร ซึ่งในที่สุดแล้วสิ่งนี้คือธุรกิจเครือข่าย แต่ตอนนั้นตนไม่รู้จัก และยืนยันว่าเคยเจอ บอสพอลตั้งแต่วันแรกที่เข้าไป
