เปิดเส้นทางชีวิต ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด จากเด็กเกเรไม่ตั้งใจเรียนสู่ทนายความชื่อดังฝีปากคมคาย ย้อนผลงานเด่นคดีดัง
มีชื่อปรากฏในสื่อบ่อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจนกระทั่งตอนนี้ ชื่อของ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ตกเป็นประเด็นร้อนรายชั่วโมงเลยทีเดียวกับกรณีถูกกล่าวหาฉ้อโกง "มาดามอ้อย" เป็นเงิน 71 ล้าน และสารพัด "โจทก์เก่า" ที่แตะมือกันออกมาแฉทนายตั้มรัวๆ
ประวัติ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด
ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ภูมิลำเนาเป็นคน อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ครอบครัวทำอาชีพค้าขาย ทนายตั้ม เคยเล่าปูมหลังว่า ตอนสมัยเรียนมัธยมเป็นเด็กไม่ค่อยตั้งใจเรียนสักเท่าไหร่ เกรดเฉลี่ยได้แค่ 1 กว่าๆ แต่มาคิดได้ตอนช่วงเรียนมหาวิทยาลัย
การได้มาเป็นทนายเหมือนโชคชะตา เดิมทีทนายตั้มเรียนคณะรัฐศาสตร์ยังไม่ได้เรียนนิติศาสตร์ ทนายตั้มบอกว่า ตนเองจบรัฐศาสตร์ภายใน 3 ปี จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง จุดนี้เองทำให้มีกำลังใจ ก็เลยไปเรียน นิติศาสตร์ ใช้วิธีเทียบโอนก็ใช้เวลาอีกแค่ปีครึ่งก็เรียนจบ จากนั้นก็ไปสอบเนติบัณฑิต และคว้า ตั๋วทนาย มาได้สำเร็จ
ปี 2547 จุดเริ่มต้นอาชีพทนายความ ทนายตั้ม เริ่มจากการให้คำปรึกษาด้านกฎหมายฟรีกับชาวบ้าน เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเรื่อยๆ ก่อนจะมีการรวมทีมกับเหล่าเพื่อนทนายร่วมกันทำงานช่วยเหลือสังคมในชื่อ "ทีมงานทนายประชาชน"
รวมไปถึงจัดโครงการ "พี่สอนน้องให้เป็นคนดีของสังคม" โดยกิจกรรมคือไปให้ความรู้แก่เด็กๆ ตามโรงเรียนต่างๆ โดยเน้นสอนเรื่องใกล้ตัว เตือนภัยยาเสพติด ต่อมาปี 2559 ทนายตั้มและทีมได้ก่อตั้งมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนเพื่อเยาวชนและสังคม โดยมีวัตถุประสงค์คือ เพื่อให้เยาวชนได้รู้กฎหมาย ปลูกฝังความซื่อสัตย์สุจริต โดยได้ร่วมกับภาครัฐ ทั้งกระทรวงยุติธรรม กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพด้วย
ทนายตั้ม เคยจับคดีสำคัญอะไรมาบ้าง
ปี 2556 คดีน้องภัทร สาวท้องถูกรถสิบล้อชนแล้วหนี บาดเจ็บสาหัส สูญเสียแขนและขาข้างซ้าย
ปี 2557 คดีน้องจีโน่ ถูกวัยรุ่นราดน้ำมันจุดไฟเผาทั้งเป็นเสียชีวิต ศาลตัดสินประหารชีวิตผู้ก่อเหตุ
ปี 2560 คดีหวย 30 ล้าน คดีแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการ ทนายตั้ม ว่าความให้กับ "หมวดจรูญ" คดีนี้สังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมากด้วยใคร่รู้ว่าสรุปแล้ว ลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 เป็นของใครกันแน่ ระหว่าง หมวดจรูญ และครูปรีชา เจ้าของประโยคทอง "ความจริงก็คือความจริง"
และตลอดการเป็นคดีความ จะเห็นได้ว่า มีประโยคเด็ดให้ได้ติดตามกันอยู่เนืองๆ ด้วยฝีปากของครูปรีชาและทนายตั้มนั้นจัดว่าสมน้ำสมเนื้อ ซึ่งภายหลังหมวดจรูญได้ชนะในคดีดังกล่าว
ปี 2564 คดีน้องชมพู่ บ้านกกกอก และลุงพล-ป้าแต๋น คดีดังที่เริ่มมาจากการหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาของ "น้องชมพู่" เด็กหญิง 3 ขวบ ซึ่งภายหลังพบเสียชีวิตอยู่บนภูเหล็กไฟ ทนายตั้มโดดมาเป็นทนายให้กับ นายไชย์พล วิภา หรือ "ลุงพล" ภายหลังทนายตั้มถอนตัวทำคดี ตามต่อมาด้วยดราม่าอีกมากมาย
ปี 2565 คดีแตงโม นิดา คดีดังที่ปรากฏเป็นข่าวต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 2 เดือน "ทนายตั้ม" เข้ามามีบทบาท และอาจจะบทบาทมากเกินไปเลยทำให้คุณแม่ของแตงโม ออกอาการไม่พอใจ ประกาศโกรธทนายตั้ม 100% พร้อมสั่งห้ามมายุ่มย่ามในคดี เพราะคุณแม๊ไม่ได้จ้าง และมีทนายความแล้ว แต่สุดท้ายก็จบสวย มีการปรับความเข้าใจ ซึ่งคุณแม๊ก็ให้อภัยทนายตั้ม 100%
ปี 2565 คดีนักการเมืองหื่น เป็นทนายให้ผู้เสียหายกรณี นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถูกดำเนินคดีในข้อหากระทำอนาจาร
ปี 2566 อดีตบิ๊กการเมืองเล่นชู้ภรรยาคนอื่น ทนายตั้มจัดหนักอีกครั้งกับแวดวงนักการเมือง อดีตรองนายกรัฐมนตรี เล่นชู้กับภรรยาคนอื่น เปิดคำใบ้รัวๆ ต่อมเผือกสั่นทั่วประเทศ
ปี 2567 จัดหนักวงการสีกากีระดับ "บิ๊ก" โยงส่วย เป็นอีกหนึ่งคดีที่ทนายตั้มแฉหมดใส่สนดาวบนไหล่ โดยทนายตั้มอ้างว่า ส่วยมีการจัดการอย่างเป็นระบบและโยงไปถึงบิ๊กตำรวจท่านหนึ่ง คดีนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน