ทนายธรรมราช จ่อซื้อปืนเพิ่ม หลังเจอบุกตบ ล็อกคอหน้ากองปราบ ยืนยันตัวเองมีสติพอ จริงๆจะชกคืนก็ได้แต่ไม่ทำ
วันที่ 1 พ.ย.67 จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 09.40 น. ทนายธรรมราช สาระปัญญา เดินทางมากองปราบปรามเพื่อแจ้งความเอาผิด "อ.เบียร์ คนตื่นธรรม" โดยอ้างว่า เหยียดหยามศาสนากลางรายการดัง หลังวิจารณ์เอาเงินไปสร้างวัตถุมงคล สร้างวัดวาอาราม ศาลาโรงธรรมใหญ่โต เอาไว้ให้หมาไปเดินเกาขี้กลาก แต่ก่อนที่ทนายธรรมราช กำลังจะแถลงข่าวกับสื่อมวลชนอยู่นั้น มีชายเสื้อขาว บุกต่อยหน้าทนายธรรมราชอย่างแรง จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุน
ล่าสุดทนายธรรมราช ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอีกครั้ง โดยระบุว่าตนเองไม่ได้พูดคุยกับคู่กรณี เพราะว่าตำรวจล็อกตัวเข้าห้องขังเลย ผู้ก่อเหตุก็คือคนที่มาทำร้ายตนตามคลิปหนึ่งคน ส่วนอีกสองคนมีพฤติการณ์ร่วมกัน ยังไม่รู้ว่าทั้ง 3 คนรู้จักกันไหม แต่ดูจากคลิปน่าจะร่วมกัน เพราะว่ามีคนผมยาวมาล็อกคอตน ไม่ใช่ลักษณะช่วยห้าม แต่เป็นการล็อกคอจนตนคอเคล็ด ยังไม่รู้เหตุผลในการก่อเหตุ ตอนนี้ให้ตำรวจเอามือถือคนก่อเหตุไปตรวจสอบดูแล้ว ว่ามีใครจ้างมาหรือไม่หรือเกี่ยวข้องกับใครอีกบ้าง
"โดยเฉพาะคนผมยาว หลังจากนี้เขาทั้ง 3 คนต้องโดนคดีและไม่มีการยอมความ เรียกว่าหน้าตัวเมียมาตอนเผลอ ยอมรับว่าตนเคยโดนหนักกว่านี้ ตนเคยโดนลอบยิงมาแล้ว เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่ไม่แมน อาชีพทนายมันมีความขัดแย้งเป็นเรื่องธรรมดาแต่ว่ามันมีที่มาที่ไป ถ้าสืบได้เขาก็รับไปเต็มๆโดนตัวเขาอยู่แล้ว"
กองปราบเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน ตนมั่นใจความปลอดภัยที่นี่ตนจึงเลือกมาแจ้งความที่นี่ แต่มาเจอเรื่องแบบนี้ ตนเชื่อว่าตำรวจเขาคงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตนเป็นทนายความที่ผ่านมาระวังตัวเองอยู่แล้ว แต่ตนเห็นว่าที่นี่ปลอดภัยตนก็เลยมา หลังจากนี้ก็น่าจะต้องซื้อปืนเพิ่มเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง พฤติกรรมแบบนี้ใครโดนก็รับไม่ได้ ยืนยันว่าที่ตนวิ่งไป ตนไม่ได้จะทำร้ายเอาคืน ตนมีสติพอ จริงๆตนจะชกคืนก็ได้ แต่ตนไม่ทำ
ตอนนี้ตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณดวงตา ตาถือเป็นอวัยวะสำคัญ และเชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีเจตนาทำต่อหน้าสื่อ ต้องการประจานตน ซึ่งตนจะดำเนินการตามกฎหมายจนถึงที่สุด แต่พี่น้องวงศ์ตระกูลตนเขาจะยอมหรือไม่ อันนั้นเป็นอีกเรื่องนึง
วันนี้อย่าบอกทุกท่านว่า ตนมาด้วยใจบริสุทธิ์มาทำหน้าที่ของคนไทยโดยชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ แต่ถูกกระทำแบบนี้ก็ให้พิจารณาว่าบ้านเมืองเรามันเกิดอะไรขึ้น ที่เห็นความรุนแรงก็ไปชอบใจพอใจ โดยเฉพาะสื่อบางสำนัก เห็นแล้วก็ เออ ออห่อหมกไปด้วย มองดูแล้วมันรับไม่ได้ มันน่าสมเพชที่จะมาวิจารณ์การกระทำแบบนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีหลายคนให้ความเห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการจัดฉากหรือไม่ ทนายธรรมราช ระบุว่า ตนน่ะเหรอจะไปจัดฉาก มีแต่คนบ้าเท่านั้นที่คิดแบบนั้น คนดีๆเขาไม่ได้คิดแบบนั้น เชื่อว่ากลุ่มก่อเหตุน่าจะอยากดัง หรืออาจจะมีคนยุหรือเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากเกิดเรื่องมีการพูดคุยกับครอบครัวน้องเชื่อมจิตหรือไม่ ทนายธรรมราช ระบุว่าพูดคุยแล้ว ก็ให้กำลังใจกันและเขาก็ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง
ซึ่งหลังจากนี้ตนจะไปแจ้งความที่ สน.พหลโยธิน และจะยื่นคัดค้านการประกันตัวด้วย.