"วัฒนา" โค่น "พงษ์ศักดิ์" แชมป์เก่า 6 สมัย เลือกตั้ง อบจ.ขอนแก่น กวาด 330,922 คะแนน ลั่นพร้อมทำงานทันที ไม่มีวันหยุดและไม่มีวันเหนื่อย
เมื่อเวลา23.34น.วันที่ 3 พ.ย.2567ที่ ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่นผู้สื่อข่าวรายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกอบจ.ขอนแก่นอย่างไม่เป็นทางการทั้ง 2,689 หน่วยเลือกตั้งใน 26 อำเภอกับ 1 เทศบาลผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งจังหวัดประมาณ 1.4 ล้านคน ซึ่งผลการนับคะแนนครบ 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างไม่เป็นทางการ พบว่าหมายเลข1 นายวัฒนา ช่างเหลา ประธานสโมสรฟุตบอลขอนแก่นยูไนเต็ดและเป็นอดีตสส.ขอนแก่นเขต2 ได้คะแนนอย่างไม่เป็นทางการ 330,922 คะแนน หมายเลข 2 นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ อดีตนายกอบจ.ขอนแก่น 6 สมัย ได้คะแนนอย่างไม่เป็นทางการ 289,908 คะแนน และหมายเลข 3 นายโตบูรพา สิมมาทัน ได้คะแนนทั้งหมดอย่างไม่เป็นทางการ 42,431 คะแนน ซึ่งจากผลการนับคะแนนพบว่านายวัฒนา ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ.ขอนแก่นหมายเลข1 มีคะแนนทิ้งห่างนายพงษ์ศักดิ์ อดีตนายกอบจ.ขอนแก่น 6 สมัย อยู่ 41,014 คะแนน และสามารถคว้าชัยชนะแต่ละอำเภอได้ทั้งสิ้น 19 อำเภอจาก 26 อำเภอ 1 เทศบาล
โดยมีจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 1,436,069 คน ซึ่งมาใช้สิทธิ์ทั้งสิ้น 722,158 คน คิดเป็นร้อยละ 50.29 มีบัตรเสียทั้งหมด25,558 คิดเป็น ร้อยละ 3.54 และมีผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนทั้งสิ้น33,339คิดเป็น ร้อยละ 4.62
ซึ่งทางอบจ.ขอนแก่นได้มีการติดผลการนับคะแนนแต่ละอำเภออยู่ที่ลานจอดรถหน้าหอประชุมอบจ.ขอนแก่นและจะมีการส่งผลการนับคะแนนทั้งหมดไปยังกกต.ขอนแก่น เพื่อประกาศผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการและจะมีการประกาศรับรองให้นายวัฒนา ช่างเหลา เป็นนายกอบจ.ขอนแก่นภายใน 30 วัน ในกรณีที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนหรือภายใน 60 วัน กรณีที่มีเรื่องร้องเรียนต่อไป
ภายหลังการนับคะแนนผลอย่างไม่เป็นทางการ นายวัฒนา กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ผมในการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างถล่มทลาย ซึ่งทุกนโยบายที่ได้ประกาศไว้จะทำทันที ไม่มีวันหยุดและไม่มีวันเหนื่อย นายก อบจ.ขอนแก่น จะลงพื้นที่แก้ปัญหาให้กับประชาชนครบทั้ง 26 อำเภอของจังหวัดเพราะจากการลงพื้นที่ในการหาเสียงแม้จะมีเวลาในการเตรียมตัวไม่มากนักแต่ตนเองและทีมงานมีความตั้งใจจริง มีความมุ่งมั่นตั้งใจและลงพื้นที่ครบทั้ง 26 อำเภอแม้จะไปไม่ครบทุกหมู่บ้านแต่ก็มีทีมงานไปในทุกพื้นที่ เพราะเราทำงานเป็นทีม
“ทุกคนบอกว่า อบจ.คือพี่ใหญ่ของวงการท้องถิ่น คำนี้เป็นข้อพิสูจน์ให้กับผมและคณะทำงานอย่างมาก เพราะทุกคะแนนที่มอบให้ เป็นความมุ่งมั่นที่ทุกคนจะพร้อมที่จะมาร่วมเปลี่ยนจังหวัดไปด้วยกัน ที่ผ่านมาการทำงานแบบเดิมของ อบจ.เป็นแบบใด ทุกท่านทราบกันอยู่แล้ว ภาพจำเดิมๆที่เคยมี มาในยุคผมไม่มีแน่นอน นายก อบจ.ต้องเข้าถึงง่าย รับฟังทุกปัญหาและร่วมกันแก้ไขปัญหาที่ตรงกับความต้องการของประชาชนและจะต้องตรงจุด อบจ.จะทำงานร่วมกันกับ เทศบาล และ อบต.ทุกแห่งอย่างเข้าใจ เพราะเรารู้ว่าท้องถิ่นนั้นติดขัดเรื่องงบประมาณ โดยเฉพาะในด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่นเดียวกันกับการทำงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจะครอบคลุมในทุกมิติขณะที่9 นโยบายที่ใช้ในการหาเสียงก็จะทำทันทีเช่นกัน”