นินิว อดีตเมีย เพชร สหรัตน์ ร้องสื่อถูกปลอมลายเซ็นค้ำประกันกู้ 80 ล้าน

7 พ.ย. 67

นินิว ซีอีโอน้ำปลาร้า อดีตเมีย เพชร สหรัตน์ ร้องสื่อถูกปลอมลายเซ็นค้ำประกันกู้ 80ล้าน ฟ้องศาลสู้คดี ทั้งแพ่งและอาญา เตรียมบุกสำนักงานใหญ่ธนาคารหาความจริง 

วันที่ 7 พ.ย. 67 ที่ จ.อุดรธานี น.ส.นิภารัตน์ สหเจริญพาณิชย์ พร้อมด้วยนาย ธีรศักดิ์ ทองทรวง ทนายความ และนายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือ เฮียเปี๊ยก เจ้าของเพจ “เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย” ร่วมกันแถลงข่าวร้องเรียนต่อสื่อมวลชน จ.อุดรธานี 

กรณี น.ส.นิภารัตน์ สหเจริญพาณิชย์ หรือ นินิว อายุ 31 ปี ถูกปลอมลายเซ็นไปค้ำประกันเงินกู้หลายฉบับวงเงิน 80 ล้านบาท และถูกทางธนาคารส่งใบแจ้งหนี้ เนื่องจากผู้กู้ไม่ชำระเงินกู้ และมีลายเซ็นของ น.ส.นินิวเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ หลังร้องสื่อมวลชน ทางธนาคารก็ส่งเอกสารแจ้งปลดภาระหนี้ผู้ค้ำประกันออกจากสัญญาค้ำประกัน จึงทำให้เกิดข้อสงสัย จึงนำเรื่องมาร้องขอความช่วยเหลือผ่านเฮียเปี๊ยก 

น.ส.นิภารัตน์ เปิดเผยว่า จากกรณีธนาคารแห่งหนึ่งส่งเอกสารแจ้งหนี้มา โดยมีมูลหนี้ร่วม 80 ล้านบาท เนื่องจากไปค้ำประกันให้บริษัทแห่งหนึ่ง เมื่อดูเอกสารที่ทางธนาคารส่งมาพบว่าลายเซ็นไม่ใช่ลายเซ็นของตัวเอง และบริษัทผู้กู้นั้นเป็นบริษัทของอดีตสามี พี่ชายของอดีตสามีเป็นกรรมการ ผู้มีอำนาจลงนาม เมื่อไปตรวจสอบที่ธนาคารพบว่ามีสิ่งผิดปกติก็คือลายเซ็น ไม่ใช่ลายเซ็นตน และตนไม่ได้เดินทางไปเซ็นค้ำประกันตามวันที่ที่ระบุ 

ต่อมาตนได้นำเรื่องนี้ไปร้องเรียนกับสื่อมวลชนที่ จ.สกลนครเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และหลังจากการร้องสื่อ ธนาคารได้ส่งเอกสารหลักฐานปลดภาระหนี้จากผู้ค้ำประกัน ออกโดยให้อีกบริษัทหนึ่งเป็นผู้ค้ำประกันแทน จึงทำให้เกิดข้อสงสัยเมื่อถามลายละเอียดกับทางธนาคารก็บอกให้ไปคุยกับอดีตสามี ทั้งนี้ยอดเงินที่ค้ำประกันตามเอกสารของธนาคารที่แจ้งมานั้นเป็นยอดเงิน 80 ล้านบาท แบ่งกู้เป็น 4 วงเงิน วงเงิน 7 ล้าน 8 ล้าน 25 ล้าน และ 40 ล้านบาท 

ข้อสงสัยตามเอกสารที่ธนาคารส่งมาคือเอกสารที่ตนได้มานั้นระบุวันที่ 11-12 พ.ค. 66 ได้เซ็นค้ำสำคัญคือสิ่งผิดปกตินั้นก็คือลายเซ็นไม่ใช่ของตนเอง 

ซึ่งวันที่ 12 พ.ค. 66 จำได้เลยว่าเป็นวันที่ไปจดทะเบียนหย่า ทั้งนี้หนังสือสัญญาเงินกู้ที่มีลายเซ็นตนค้ำนั้นเป็นชื่อของพี่ชายอดีตสามี โดยกู้ในนามบริษัท นอกจากนี้ยังมีอดีตสามีเซ็นในฐานะยินยอมให้คู่สมรสค้ำประกันค้ำประกันวงเงินนี้ 

น.ส.นิภารัตน์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ได้รับผลกระทบทางธุรกิจมาก จะไปกู้ยืมเงินเพื่อขยายวงเงินมาทำธุรกิจต่อก็ยังไม่สามารถจัดการได้ ณ ตอนนี้ที่สำคัญสภาพจิตใจตอนนี้ย่ำแย่มาก ทางครอบครัวทราบเรื่องก็พากันเครียดหมด ทั้งพ่อทั้งแม่เลยขอฝากถึงผู้ที่ปลอมลายเซ็นขอให้ออกมารับผิดชอบในส่วนที่ตนเองทำ 

ตนยืนยันไม่ได้เป็นคนเซ็นค้ำประกัน และขอให้มาอธิบายรายละเอียดว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรมีการเกิดขึ้นในวันเวลาไหนขั้นตอนไหน เพราะตนก็ยินดีที่จะชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงว่าวันเวลาที่เกิดเหตุอยู่ที่ไหน ณ วันที่เซ็นสัญญากัน 

ด้านนายธีรศักดิ์ ทนายความ บอกว่า ขณะนี้ น.ส.นินิวได้มอบอำนาจให้ทนายยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดสกลนครไปแล้ว โดยฟ้องทั้งคดีแพ่งและอาญาโดยคดีอาญาเราได้ทำการยื่นฟ้องบุคคล 5 คน ทั้งบริษัทและตัวบุคคล ซึ่งรวมถึงอดีตสามีของ น.ส.นินิวด้วยส่วนคดีแพ่งนั้นทางเราจะฟ้องไปยังธนาคาร และบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ปรากฏตามสัญญา และเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 20 ล้านบาท 

นายภานุมาศ บอกว่า จากนี้ตนก็จะพาผู้เสียหายพร้อมทนายความเดินทางไปที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารดังกล่าว เพื่อขอคำชี้แจงและคำตอบจากผู้บริหารว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นได้อย่างไร และจากนี้ทางธนาคารสำนักงานใหญ่ก็คงต้องมีคำตอบและออกมาชี้แจงให้ทางผู้เสียหายทราบ และถ้าเรื่องนี้เป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ธนาคารก็ขอให้ลงโทษเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส