"บิ๊กป้อม" รอด ป.ป.ช.ชี้ ยืมนาฬิกาเพื่อนไม่ผิด ไม่ต้องแสดงบัญชี

ป.ป.ช.ระบุ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยืมนาฬิกาเพื่อนไม่ผิด ชี้เป็นการยืมใช้คงรูป ไม่ต้องแสดงในแบบบัญชีรายการทรัพย์สิน

นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความอิสระ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดเผยหนังสือการรายงานของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่องการครอบครองนาฬิกาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

หนังสือดังกล่าวลงวันที่ 25 พ.ค.2563 เป็นการแจ้งผลการพิจารณาต่อ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา โดยระบุว่า ตามที่นายเรืองไกร ได้ขอให้พิจารณาชี้มูลความผิด พล.อ.ประวิตร ฐานไม่แจ้งทรัพย์สินในมูลค่านาฬิกาหรูที่มาจากการยืม

ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เจ้าของนาฬิกา ให้ พล.อ.ประวิตร ยืมใช้ในโอกาสต่างๆ และ พล.อ.ประวิตร คืนให้เมื่อใช้สอยเสร็จแล้ว การยืมดังกล่าวเป็นการยืมใช้คงรูป และการยืมใช้คงรูปแม้เป็นหนี้ แต่มิใช่หนี้สินตามที่ ป.ป.ช. กำหนดให้ต้องแสดงในแบบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน เพราะตามคำอธิบายการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินท้ายแบบบัญชีรายการหนี้สินล้วนหมายถึงหนี้สินที่เป็นเงินตราเท่านั้น มิใช่เป็นการยืมใช้สอยได้เปล่าและมีการคืนทรัพย์ให้แก่ผู้ยืม ดังนั้น พล.อ.ประวิตร จึงไม่มีหน้าที่ต้องแสดงการยืมนาฬิกาในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน

อย่างไรก็ตาม ทนายเกิดผล ได้แสดงความคิดเห็นว่า ป.ป.ช สร้างบรรทัดฐานใหม่ ต่อไปการยืมนาฬิกา ยืมบ้าน รถ ที่ดิน เพชร ทอง ก็ไม่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน เพราะเป็นการยืมทรัพย์คงรูป ซึ่งขัดกับคำตัดสินคดี นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ที่ยืมใช้รถยนต์โฟล์คสวาเกน ป.ป.ช.กลับชี้มีความผิด ต้องจำคุก 10 เดือน ซึ่งการวินิจฉัยของ ป.ป.ช.อาจนำไปสู่ช่องทางการทุจริตในอนาคตได้ เพราะผู้ทุจริตจะเลี่ยงการรับเงินสด แต่หันไปรับเป็นทรัพย์สินแทน และอาจต่อสู้หรือแจ้งต่อ ป.ป.ช.ว่าเป็นการยืมทรัพย์คงรูป ตามคำวินิจฉัยครั้งนี้ของ ป.ป.ช.