ป.ป.ช.ฟัน 'นิพนธ์' ผิด ม. 157 สมัยนายก อบจ.สงขลา ลุ้นหลุดเก้าอี้ 'รมช.'

7 ต.ค. 63

ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดอาญา "นิพนธ์ บุญญามณี" รมช.มหาดไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา กรณีละเว้นไม่จ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ 2 คัน มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ให้แก่บริษัทคู่สัญญา

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 63 นายนิวัติไชย เกษมมงคง รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกัน​และ​ปราบปราม​การ​ทุจริต​แห่งชาติ (ป.ป.ช.)​ ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงมติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ชี้มูลความผิดทางอาญาแก่นายนิพนธ์ บุญ​ญา​มณี​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมช.มหาดไทย) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (นายก อบจ.สงขลา) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมีพฤติการณ์ฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย หรือสวัสดิภาพประชาชน หรือละเลย ปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 จากกรณี ละเว้นไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์​ชนิด 10 ล้อ เครื่องยนต์ดีเซล จำนวน 2 คัน วงเงินกว่า 50 ล้านบาท ให้กับบริษัทคู่สัญญา

จากการไต่สวนข้อเท็จจริง พยานหลักฐานรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 56 ผบจ.สงขลา ได้มีประกาศ เรื่องจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ ชนิด 10 ล้อ เครื่องยนต์ดีเซล มีกำลังไม่น้อยกว่า 200 แรงม้า จำนวน 2 คัน งบประมาณ 51,000,000 บาท ปรากฏว่าบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล โดยเสนอราคาต่ำสุด เป็นเงิน 50,850,000 บาท อบจ.สงขลา โดยนายอุทิศ ชูช่วย นายก อบจ.สงขลา ในขณะนั้น จึงได้ทำสัญญาซื้อขายรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ดังกล่าวจากบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด

ต่อมาวันที่ 28 ส.ค. 56 นายนิพนธ์ บุญญามณี เข้ามาดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา และวันที่ 8 ต.ค. 56 บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ได้แจ้งส่งมอบรถทั้ง 2 คัน คณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ตรวจรับรถแล้ว เห็นว่ามีปริมาณและคุณภาพถูกต้องครบถ้วน จึงได้รายงานผลการตรวจรับให้ปลัด อบจ. ปฏิบัติราชการแทนนายก อบจ.สงขลา และได้มีการลงนามรับทราบผลการตรวจรับดังกล่าวแล้ว ดังนั้น การตรวจรับรถทั้ง 2 คันจึงเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องครบถ้วนตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 ข้อ 64 (4) และถือว่าบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ได้ส่งมอบรถทั้ง 2 คันครบถ้วนตั้งแต่วันที่ได้มีการตรวจรับรถไว้แล้ว

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่พัสดุได้แจ้งผลการตรวจรับรถทั้ง 2 คันต่อนายนิพนธ์ บุญญามณี ให้ทราบและลงนามในหนังสือถึงสำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลาเพื่อมอบอำนาจให้บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด จดทะเบียนรถทั้ง 2 คันให้ อบจ.สงขลา แต่นายนิพนธ์ กลับละเว้นไม่ลงนามในหนังสือดังกล่าว ทั้งยังได้เขียน สั่งการในด้านหลังของรายงานผลการตรวจรับรถทั้ง 2 คัน ว่าเห็นควรให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้มีการทดลองระบบต่าง ๆ ของรถดังกล่าวอีก ทั้งที่คณะกรรมการตรวจรับพัสดุไม่ได้รายงานว่ารถทั้ง 2 คันไม่เป็นตามรูปแบบ รายละเอียด และข้อกำหนดในสัญญา หรือมีเหตุอื่นใดที่จะเป็นเหตุให้ต้องสั่งการดังกล่าว

ต่อมาบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ได้แจ้งให้ อบจ.สงขลา ส่งมอบเอกสารเพื่อไปดำเนินการจดทะเบียนรถกับกรมการขนส่งทางบก แต่นายนิพนธ์ ก็ไม่ดำเนินการทั้งยังแจ้งให้บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ดำเนินการทดสอบระบบต่าง ๆ ตามที่สั่งการไว้แล้วจึงจะมีการจดทะเบียนรถต่อไป

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 57 บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ได้นำรถทั้ง 2 คันไปทดสอบตามที่นายนิพนธ์ สั่งการ ผลการทดสอบปรากฏว่าอุปกรณ์ที่ติดตั้งมากับรถมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายและสามารถใช้งานซ่อมถนนได้ หลังจากนั้นวันที่ 5 ก.พ. 57 นายนิพนธ์ จึงได้มอบอำนาจให้บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ไปดำเนินการจดทะเบียนรถทั้ง 2 คัน ให้แก่ อบจ.สงขลา ภายหลังจากที่ อบจ.สงขลา รับรถทั้ง 2 คันไปใช้งานแล้ว วันที่ 17 ก.พ. 57 เจ้าหน้าที่ได้เสนอเรื่องให้นายนิพนธ์ เบิกจ่ายเงินค่ารถทั้ง 2 คันให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด แต่นายนิพนธ์ กลับละเว้นไม่จ่ายเงินตามสัญญา ซึ่งบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด จึงได้ร้องเรียนในเรื่องนี้กับสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 15 (สตง.) และจังหวัดสงขลา โดยทั้งสองหน่วยงานได้มีการแจ้ง อบจ.สงขลาว่า เมื่อกรรมการตรวจรับพัสดุได้ตรวจรับรถทั้ง 2 คันไว้แล้ว อีกทั้งยังได้มีการนำรถไปใช้ในราชการอย่างต่อเนื่อง และมีการจดทะเบียนเป็นกรรมสิทธิ์ของ อบจ.สงขลาแล้ว ดังนั้นการที่ อบจ.สงขลา ยังไม่ดำเนินการเบิกจ่ายเงินให้แก่ผู้ขายจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยงานบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 ข้อ 64 (4) และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 ข้อ 64 และเห็นว่าการเบิกจ่ายเงินล่าช้าดังกล่าวไม่มีเหตุผลอันควรยกขึ้นอ้าง กับผู้ขายได้ตามกฎหมาย และอาจถูกผู้ขายฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ จึงขอให้ อบจ.สงขลา พิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยเคร่งครัดต่อไป

แต่นายนิพนธ์ ก็ยังไม่เบิกจ่ายเงินให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด โดยอ้างว่าการเสนอราคากระทำโดยมีเจตนาไม่สุจริตมีพฤติกรรมสมยอมกันในการเข้าเสนอราคาต่อ อบจ.สงขลา และทำให้ไม่เป็นการแข่งขันอย่างเป็นธรรม บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด จึงได้ยื่นฟ้อง อบจ.สงขลา ต่อศาลปกครอง โดยคดีดังกล่าวศาลปกครองสงขลามีคำพิพากษาให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ผู้ถูกฟ้องคดี ชำระเงินค่ารถทั้งสองคันพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี รวมเป็นเงินจำนวน 52,062,041 บาท ให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมติว่า การกระทำของ นายนิพนธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา มีมูลความผิดฐานเป็นความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมีพฤติการณ์การกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 มาตรา 79 ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐานไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลที่มีเขตอำนาจ และไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนพิจารณาดำเนินการต่อไป

ส่วนนายนิพนธ์ จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคำสั่งศาลหลังประทับรับฟ้อง ซึ่งตามกฎหมายเมื่อศาลประทับรับฟ้องแล้วจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่ถูกกล่าวหา ส่วนตำแหน่งอื่น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส