เกาะติดเลือกตั้งสหรัฐฯ2020: เปิดรายชื่อ 5 รัฐ "สวิงสเตท" ชี้ชะตา ปธน.สหรัฐฯ

เปิดรายชื่อ 5 รัฐ "สวิงสเตท" ที่ต้องจับตา! คืนนับผลคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2020

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

เหลือเวลาอีกเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น สำหรับการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ระหว่าง "ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์" จากพรรครีพับลิกัน และ "โจ ไบเดน" ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.นี้ 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เกาะติดเลือกตั้งสหรัฐฯ2020: ส่องนโยบาย ตปท. "ไบเดน" จับมือพันธมิตรสู้การค้าจีน
- เกาะติดเลือกตั้งสหรัฐฯ2020: ชาวอเมริกันแห่เลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว 70 ล้านคน
- เกาะติดเลือกตั้งสหรัฐฯ2020: "ทรัมป์" ลุยหาเสียงหลายรัฐสมรภูมิ
- เกาะติดเลือกตั้งสหรัฐฯ2020: "ไบเดน" บุกหาเสียงในถิ่น "รีพับลิกัน"

สำนักข่าว Sky News ได้มีการวิเคราะห์สมรภูมิ "สวิงสเตท" หรือกลุ่มรัฐที่ทั้ง 2 พรรคมีคะแนนสูสีกันที่ต้องจับตาเป็นพิเศษในการนับผลคะแนนเลือกตั้งสหรัฐฯ เพราะเป็นรัฐที่มีส่วนสำคัญในการชี้ชะตาว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป ดังนี้ 

ไอโอวา (คณะผู้เลือกตั้ง 6 คน)

ในการเลือกตั้ง 2016 ทรัมป์เอาชนะฮิลลารี่ไปด้วยคะแนนมากกว่า 10% ถือเป็นคะแนนที่ต่ำที่สุดของเดโมแครตทั้งแต่ปี 1980 ซึ่งก่อนหน้าทรัมป์จะชนะ เดโมแคตรครองคะแนนเสียงมายาวนานตั้งแต่ปี 1988 ยกเว้นสมัยจอร์จ ดับเบิลยู บุช ที่พลิกมาชนะในปี 2014

โดยในการเลือกตั้งปี 2016 รีพับลิกันแพ้เพียง 6 จาก 99 เทศมณฑลของรัฐ หากเดโมแครตกลับมาเอาชนะในรัฐนี้ได้ก็มั่นใจได้ว่าจะครองเก้าอี้ได้ นอกเสียจากว่าจะแพ้ในรัฐที่เดโมแครตเป็นต่อ

จอร์เจีย (คณะผู้เลือกตั้ง 16 คน)

เป็นถิ่นของรีพับลิกันในการเลือกตั้ง 6 ครั้งล่าสุด แต่คะแนนของเดโมแคตรตีตื้นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2016 คะแนนโหวตของทรัมป์ชนะไปที่ 51 ต่อ 46 โดยเป็น 1 ใน 11 รัฐที่คะแนนของเดโมแคตรเพิ่มขึ้น

ประชากรในรัฐจอร์เจียมีอัตราเพิ่มสูงเป็นอันดับ 5 ของประเทศ โดยเฉพาะแถบชานเมืองแอตแลนตา เมืองหลวงของรัฐซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของเดโมแครต และผลโพลล่าสุดพบว่าคะแนนความนิยมของผู้สมัครทั้ง 2 คนสูสี

นอร์ธแคโรไลนา (คณะผู้เลือกตั้ง 15 คน)

ทรัมป์ต้องรักษาฐานคะแนนในรัฐนี้หากเขาต้องการที่จะเป็น ปธน.อีกครั้ง นายโอบามาเคยชนะในรัฐนี้อย่างหวุดหวิดในปี 2008 แต่แพ้ในการเลือกตั้งครั้งถัดมา

ทั้งนี้ รัฐดังกล่าวเป็นฐานเสียงของรีพับลิกันมาตั้งแต่ยุค ปธน.จิมมี่ คาร์เตอร์ ในปี 1976 ในผลการเลือกตั้งปี 2016 แสดงให้เห็นว่า รีพับลิกันชนะเนื่องจากบางเทศมณฑลที่โหวตให้โอบามากลับมาโหวตให้ทรัมป์ อย่างไรก็ดี ผลโพลล่าสุดพบว่านายไบเดนคะแนนนำอยู่เล็กน้อย

โอไฮโอ (คณะผู้เลือกตั้ง 18 คน)

คะแนนจากโอไฮโอ มักสะท้อนความนิยมของพรรคต่อชาวอเมริกันในขณะนั้น เนื่องจากไม่เคยมีความแน่นอน โดยชาวโอไฮโอ สนับสนุนนายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ในปี 2000 และ 2001 จากนั้นก็โหวตให้นาย บารัค โอบามา ในปี 2008 และ 2012 ก่อนจะกลับมาโหวตให้ทรัมป์ในปี 2016

ไม่เคยมีผู้สมัครรีพับลิกันคนใดที่จะได้รับตำแหน่งประธานาธิบดี หากแพ้ในโอไฮโอ โดยในปี 2016 รีพับลิกันแพ้เพียง 8 จาก 88 เทศมณฑลในรัฐโอไฮโอ ขณะที่โพลล่าสุดแม้ไบเดนจะมีคะแนนความนิยมภาพรวมระดับประเทศมากกว่า แต่ทรัมป์มีคะแนนนำในโอไฮโอ

ฟลอริดา (คณะผู้เลือกตั้ง 29 คน)

เป็นรัฐที่คะแนนทั้ง 2 พรรคสูสี และเป็นรัฐที่มีคณะผู้เลือกตั้ง 29 เสียง มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศ นอกจากนี้จากสถิติพรรคที่ชนะในรัฐฟลอริดามักได้เป็นประธานาธิบดีในทุกการเลือกตั้ง ตั้งแต่ปี 1992

ในการเลือกตั้งปี 2000 ระหว่าง จอร์จ ดับเบิลยู บุช และ อัลกอร์ ถูกตัดสินด้วยผลการเลือกตั้งจากฟลอริดา

ขณะที่ในปี 2016 คะแนนในรัฐฟลอริดาของทั้ง 2 พรรค ห่างกันเพียง 1% โดยปัจจัยที่ทำให้ทรัมป์ชนะ คือความนิยมในหมู่ชาวอเมริกันเชื้อสายคิวบา

 

 

 

Click the map to create your own at 270toWin.com