ตำรวจ ปทส.สรุปสำนวนสั่งฟ้อง "ปารีณา ไกรคุปต์" รุกที่ป่าสงวนฟัน 4 ข้อหา เตรียมส่งอัยการ 5 พ.ย.นี้ ส่วนคดี "ทวี ไกรคุปต์" ก็ไม่รอด เตรียมแจ้งข้อหารุกที่ดินรัฐกว่า 1 พันไร่ด้วย
เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 63 พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวน และคณะทำงาน เพื่อตรวจสำนวนคดีพร้อมสรุปสำนวนคดี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กรณีครอบครองที่ดินใน ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โดนอีก! ป่าไม้แจ้งความ "ปารีณา" รุกป่าเพิ่ม
- "เรืองไกร" หอบแผนที่ยืนยันที่ดิน "ปารีณา" รุกป่าสงวน-ส.ป.ก. จี้รบ.ตรวจสอบ
- เตรียมเอาผิด "ปารีณา" รุกป่ากว่า 700 ไร่
พล.ต.ต.พิทักษ์ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน บก.ปทส.ได้ตรวจทานรายละเอียดสำนวนคดีดังกล่าว โดยเบื้องต้น บก.ปทส.มีความเห็นสั่งฟ้องตามความเห็นของคณะพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการเตรียมส่งสำนวนคดีดังกล่าวให้พนักงานอัยการ จ.ราชบุรีสั่งฟ้องคดี โดย น.ส.ปารีณา ได้นัดหมายกับทางพนักงานสอบสวน ในวันที่ 5 พ.ย. 63 เวลา 10.00 น. โดยสำนวนคดีมีทั้งหมด 6 แฟ้มจำนวน 2,408 หน้า และได้สอบปากคำพยานเพิ่มเติมตามที่ น.ส.ปารีณา ร้องขอ 3 ปาก ซึ่งเป็นพยานที่ดินข้างเคียงแล้ว โดยสั่งฟ้องรวม 4 ข้อหา ประกอบด้วย
1. ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ม.14 และ ม.31 "ร่วมกันยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเบ็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนชาติ โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินยี่สิบห้าไร่โดยไม่ได้รับอนุญาต"
2. ความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 "ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถางหรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินยี่สิบห้าไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่"
3. ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน "ร่วมกันเข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่อสร้างหรือเผาป่า กระทำด้วยประการใด ให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทราย ในบริเวณที่รัฐมนตรีประกาศหวงห้ามในราชกิจานุเบกษา หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินกว่าห้าสิบไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต"
4. ความผิดตาม พ.ร.บ.น้ำบาดาล พ.ศ.2520 "ร่วมกันประกอบกิจการน้ำบาดาล ในเขตน้ำบาดาลใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่ดิน ในเขตน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต" ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดจำคุก 4-20 ปี ปรับ 200,000-2,000,000 บาท ซึ่งในส่วนของ น.ส.ปารีณา จะถูกดำเนินคดีทั้งในฐานะบุคคลและนิติบุคคลด้วย
สำหรับคดีนี้มีผู้กล่าวหา 5 ราย ประกอบไปด้วย นายวีระ สมความคิด ,นายพัฒนะ ศิริมัย นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการสำนักป่าไม้จังหวัดราชบุรี, นายสุรเชษฐ์ ศรีแดงรักษา นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ผู้อำนวยการป่าไม้จังหวัดราชบุรี, นายวัชระ ละอออ่อน นักวิชาการป่าไม้ปฎิบัติการ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 และนายสมชาย เลขาวิวัฒน์ ผอ.สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดราชบุรี ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ บริษัท ปารีณา ไกรคุปต์ จำกัด โดยมี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ในฐานะนิติบุคคลและส่วนตัว หลังพบว่าบุกรุกที่ เขาสนฟาร์ม หมู่ที่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวน 711 ไร่ 2 งาน 93 ตารางวา
อย่างไรก็ตาม นอกจากการเอาผิด น.ส.ปารีณาแล้ว ทางบก.ปทส. ได้เรียก นายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ มารับทราบข้อกล่าวหาซึ่งเป็นข้อหาเดียวกันกับ น.ส.ปารีณาในวันที่ 23 พ.ย.ที่จะถึงนี้หลังถูกร้องเรียนว่าบุกรุกที่ดินรัฐกว่า 1 พันไร่ บริเวณหมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ด้วย