วันที่ 8 พ.ย. 63 บรรยากาศการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 17.30 น. ตั้งแต่ ถ.ราชดำเนินกลาง กลุ่มผู้ชุมนุมขยายเป็นวางกว้างยาวไปจนถึงแยกสะพานฝ่านฟ้าลีลาศ มีผู้ปราศรัยผลัดเปลี่ยนกันบนรถเครื่องขยายเสียง ผู้ชุมนุมนั่งปักหลักเป็นจำนวนมากทั้งฟังการปราศรัยและนั่งพักผ่อน มีการ์ดผู้ชุมนุม 3 ชุด การ์ดธรรมศาตร์ การ์ดเยาวชนปลดแอก และการ์ดของนายโตโต้ แกนนำ
ทั้งนี้ มีจุดจัดกิจกรรมวางผืนผ้าสีขาวขนาดใหญ่วางบนพื้นถนน และให้เขียนข้อความข้อเรียกร้องต่าง ๆ ลงบนผืนผ้า เกี่ยวกับเรียกร้องนโยบายต่าง ๆ รวมถึงเรื่องกัญชาเสรีด้วย
พระสงฆ์รูปหนึ่งมาจาก จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า เพิ่งเดินมาถึงเวลา 17.00 น. เพราะไม่ได้ความยุติธรรม และตนตั้งใจมาพบว่าบรรยากาศดี มีมิตรภาพ และไม่กลัวเกิดการปะทะ แต่กลัวจะไม่เกิดมากกว่า
เมื่อทีมข่าวถามว่าบวชมากี่พรรษาแล้ว ได้รับคำตอบว่า "ถ้าอยากรู้ว่าบวชมากี่พรรษาแล้ว ก็ให้เอามือขึ้นมานับ แล้วก็เอาเท้าขึ้นมานับ แล้วก็เอามือขึ้นมานับอีก เอาเท้าขึ้นมานับอีก" ส่วนเรื่องที่สำนักพุทธฯ อาจจะมีการดำเนินการกับพรที่มาร่วมชุมนุมหรือไม่ ตนไม่กังวล
จากนั้น แกนนำประกาศเคลื่อนขบวนเดินเท้ามุ่งหน้าสนามหลวง เพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อสถาบันที่พระบรมมหาราชวัง โดยพระสงฆ์ 6 รูป ที่มาร่วมการชุมนุมวันนี้ เปิดใจว่า เนื่องจากความรุนแรงในอดีต ตอนที่เจ้าหน้าที่มีการฉีดน้ำแรงดันครั้งแรกใส่กลุ่มผู้ชุมนุม เป็นความรุนแรงที่ไม่มีอำนาจความชอบธรรม ทั้งที่ประชาชนได้อยู่ในเส้นของการชุมนุมแล้ว แต่ตำรวจยังฉีดน้ำใส่ และลุต่ออำนาจที่มีอยู่แล้ว
ส่วนตนหลังจากปราศรัยที่ม.มหิดล ศาลายา จ.นครปฐม ก็ถูกสำนักพุทธและสันติบาลตามจับตัว บังคับให้พวกตนสึก แต่ไม่สมควร เพราะการมาชุมนุมไม่ผิดหลักปาราชิก 4 ข้อ อีกทั้งตนถูกตามคุกคามที่หอพักของมหาวิทยาลัยด้วย
ทั้งนี้ มีข้อเรียกร้องกลุ่มพระภิกษุสงฆ์ สามเณร เพื่อความเท่าเทียมของคนทุกศาสนา และไม่มีศาสนาใดมีอภิสิทธิมากกว่าศาสนาอื่น คือ หยุดใช้ศาสนาสร้างความแตกแยก ปฏิรูปโครงสร้างสงฆ์ และเรียกร้องสิทธิพลเมืองของพระสงฆ์