สำนักข่าวบีบีซีรายงานการพิพากษาจำคุก โจชัว หว่อง และ เบนนี ไท พร้อมแกนนำกลุ่มนักเคลื่อนไหว Hong Kong 47 ในความผิดฐานร่วมกันก่อกบฏ ซึ่งทำให้ชาวฮ่องกงนับแสนคนออกมาเดินขบวนประท้วงบนท้องถนนเป็นเวลาหลายเดือน และยังเกิดการปะทะรุนแรงกับเจ้าหน้าที่
คดีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากชาวฮ่องกง มีประชาชนจำนวนมากกว่า 300 คน ต่อแถวหน้าศาลเกาลูนตะวันตก ก่อนการพิพากษาหลายวัน เพื่อให้ได้ที่นั่งในห้องตัดสินพิจารณาคดีและแสดงการสนับสนุนต่อกลุ่มนักเคลื่อนไหว
ทั้งนี้ นักเคลื่อนไหวในกลุ่มแกนนำดังกล่าวมีทั้งหมด 47 คน มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่พ้นจากข้อกล่าวหา ส่วนอีก 45 คนถูกตัดสินจำคุกตั้งแต่ 4 ปี ไปจนสูงสุด 10 ปี โดยนายโจชัว หว่อง อดีตแกนนำนักศึกษาที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้ประชาชนออกมาเดินขบวนประท้วง ได้รับโทษ 4 ปี 8 เดือน ซึ่งเขาให้การรับสารภาพต่อศาล จึงได้ลดโทษหนึ่งในสาม
ขณะที่เบนนี ไท อดีตศาสตราจารย์ด้านกฎหมายได้รับโทษจำคุกหนักที่สุดถึง 10 ปี ในข้อหาสนับสนุนการปฏิวัติ บุคคลสำคัญอื่น ๆ ที่ถูกตัดสินจำคุก ได้แก่ กวินเน็ธ โฮ อดีตนักข่าวที่เข้าสู่วงการการเมือง และอดีตสมาชิกรัฐสภา คลอเดีย โม และเหลียง กว็อกหุ่ง โดยทั้งคู่ถูกตัดสินจำคุกระหว่าง 4 ปี ถึง 7 ปี
การตัดสินดังกล่าวอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติจีน (NSL) ที่ประกาศใช้อย่างเป็นทางการในฮ่องกงเมื่อปี 2020 เพียงปีเดียวหลังจากที่เกิดการเดินขบวนประท้วงของประชาชน จึงทำให้ถูกจับตามองจากทั่วโลกและมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความรุนแรงของบทลงโทษ ด้านสหรัฐฯ ได้กล่าวถึงการพิจารณาคดีครั้งนี้ว่า เกิดจาก “แรงจูงใจทางการเมือง” ขณะที่ออสเตรเลียแสดงการคัดค้านอย่างหนักที่จะใช้กฏหมายดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนและฮ่องกงได้ออกมาโต้แย้งว่า กฎหมายนี้มีความจำเป็นต่อการรักษาเสถียรภาพของประเทศ ซึ่งไม่ได้ทำให้อำนาจปกครองของฮ่องกงอ่อนแอลงแต่อย่างใด และการตัดสินลงโทษในครั้งนี้ เป็นการเตือนกองกำลังที่พยายามบ่อนทำลายความมั่นคงแห่งชาติของจีน
จุดเริ่มต้นของการตัดสินคดีในครั้งนี้ เกิดขึ้นในปี 2019 ที่ประชาชนฮ่องกงได้ออกมาเคลื่อนไหวโดยการเดินขบวนต่อต้านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้กับจีน จนทำให้เกิดเหตุปะทะรุนแรงระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่ แต่การประท้วงต้องหยุดชะงักลงในภาวะโควิด-19 ระบาดหนัก กลุ่มแกนนำจึงจัดการเลือกตั้งขั้นต้นขึ้นเพื่อเป็นแนวทางต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
การจัดการเลือกตั้งขั้นต้น เกิดขึ้นในเดือนกรกฏาคม ปี 2020 และได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชนในการมาร่วมโหวตกว่า 500,000 รายชื่อ ซึ่งผู้จัดงานเชื่อว่าเป็นการกระทำที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายพื้นฐาน ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับย่อที่ให้เสรีภาพกับประชาชน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนและฮ่องกงไม่ยอมรับการเลือกตั้งในครั้งนี้และเตือนว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติจีน (NSL) ซึ่งมีผลบังคับใช้ ไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้งขั้นต้น โดยรัฐบาลได้กล่าวหาว่านักเคลื่อนไหวพยายาม "โค่นล้ม" รัฐบาล และได้จับกุมพวกเขาในช่วงต้นปี 2021