กรณีการ เยียวยาโควิด ระลอกใหม่ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2564 พรรค เพื่อไทย จัดเสวนา วิกฤต และ ทางออก โควิด ระลอก 3 ซึ่งมีแกนนำพรรคเพื่อไทยร่วมเสวนา นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การระบาดโควิด ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าห่วง เพราะแต่เดิมก็มีปัญหามากมาย ตั้งแต่การระบาดรอบแรก ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจไม่สามารถเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ และยิ่งมีการระบาดช่วงเทศกาลสำคัญ ยิ่งทำให้ผลประกอบการต่างๆ มีปัญหาแบบลูกโซ่
เต้ มงคลกิตติ์ เสนอรัฐเยียวยาคนไทยทุกคน 7,000 บาท รับผิดชอบรมต.มีส่วนแพร่โควิด
สำหรับปัญหาการคลัง ปีนี้มีความเป็นไปได้ที่จะมีหนี้สาธารณะทะลุร้อยละ 60 หนี้ภาคครัวเรือนทะลุร้อยละ 90 หลายบริษัทก็มีผลประกอบการติดลบ ทำให้มีสัญญานว่า รัฐบาลจะเข้าสู่สภาวะการกู้เงินอีกครั้ง และเห็นว่า การระบาดตั้งแต่ครั้งแรก มักมาจากความผิดพลาดของรัฐบาล ทั้งสนามมวย การละเลยบ่อนการพนัน รวมถึงจากสถานบันเทิง และมองว่า หากมีการรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากบริษัทที่เหมาะสม หรือมีตัวเลือกที่มากเหมือนหลายประเทศ นอกจากช่วยประชาชนได้แล้ว ยังสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไปในตัวได้อีก เนื่องจากประชนจะมีความมั่นใจ พร้อมแนะรัฐบาล ควรเริ่มเยียวยาประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเป็นระยะเวลา 3 เดือนทันที
ดังนั้น ในภาวะวิกฤตไวรัสโควิดรอบใหม่นี้ จึงอยากเสนอแนวทางออกของประเทศไทยทั้งในระยะสั้นและในระยะกลาง ทั้งหมด 6 แนวทางดังนี้
1 ต้องเร่งเยียวยาประชาชนโดยด่วน โดยไม่ต้องรอให้ประชาชนด่าก่อนค่อยคิดเยียวยา ประชาชนลำบากกันอย่างมากอยู่แล้ว ยังต้องมาเจอการระบาดรอบ 3 กันอีก และต้องยอมรับความจริงว่าการระบาดส่วนหนึ่งมาจากคนในรัฐบาลด้วย และการระบาดครั้งนี้ทำท่าจะรุนแรงและยืดเยื้อ แม้จะไม่ประกาศล็อกดาวน์ แต่การห้ามกิจกรรมหลายอย่างก็ไม่ต่างจากล็อกดาวต์แล้ว ดังนั้นจึงขอเสนอให้เยียวยาประชาชนเดือนละ 5,000 บาท จำนวน 3 เดือน โดยจ่ายเป็นเงินสด ไม่เอาแบบโอนเงินเหมือนครั้งที่ผ่านมา
2 รัฐบาลจะต้องเร่งหาวัคซีนมากระจาย การฉีดให้กับประชาชนโดยเร็ว ไม่ว่าด้วยวิธีใด และต้องมีหลายยี่ห้อ หลายประเทศผู้นำจะติดต่อบริษัทโดยตรงเพื่อเจรจาแบ่งปันขอซื้อวัคซีน
3 เร่งช่วยเหลือธุรกิจ SME การให้ซอฟท์โลนอย่างเร่งด่วนหลังจากปล่อยธุรกิจ SME ตามยถากรรมมาเป็นปีแล้ว การรักษาธุรกิจเดิมไว้ และ ต้องเร่งสร้างธุรกิจใหม่เป็นความจำเป็นเร่งด่วน
4 เร่งสร้างความมั่นใจให้กลับมาโดยเร็ว ซึ่งพลเอกประยุทธ์ไม่สามารถทำได้แล้ว ยิ่งเหตุการณ์ในประเทศเมียนมาร์มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ภาพลักษณ์ของไทยก็พลอยเสื่อมเสียไปด้วย เพราะในสายตาของต่างชาติประเทศไทยในปัจจุบันไม่ต่างจากประเทศเมียนมาร์ เพียงแต่ยังไม่ได้ฆ่าประชาชนเพิ่มขึ้นเหมือนเผด็จการพม่าเท่านั้นเอง
5 เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นปัญหาหลักของประเทศให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
6 เร่งสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับประเทศ โดยการปล่อยนักศึกษาและแกนนำผู้ชุมนุมที่ถูกคุมขัง ทั้งที่คดียังไม่สิ้นสุด อีกทั้งต้องให้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน เพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างธุรกิจใหม่ ๆ
ประยุทธ์ มั่นใจเศรษฐกิจไทยปี 64 ขยายตัว เผยมีเงินในคลัง 3.8 แสนล้านบาท
สิระ เจนจาคะ เผย นายกทำงานหนักไม่มีวันหยุด ซัดรัฐมนตรีหายหัว