ช่วยระทึก! ยายวัย 93 ตกบ่อลึก 12 ม. 9 ชม.ไม่ตาย กู้ภัยปีนช่วยเจอส่งยิ้ม (คลิป)

กรณีวันที่ 5 พ.ค. 64 มีหญิงชราวัย 93 ปีตกลงไปในบ่อน้ำลึกกว่า 5 เมตร ที่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 8 ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ กู้ภัยมูลนิธิร่มโพธิ์ได้ทำการช่วยเหลือนำตัวขึ้นมาอย่างปลอดภัย จากนั้นได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์

ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านปูนชั้นเดียวตั้งอยู่ริมถนนสระบุรี-หล่มสัก และที่บริเวณข้าง บ้านซึ่งเป็นป่ากล้วยมีต้นกล้วยขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากพบบ่อน้ำบาดาลเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร ความลึกมองลงไปแทบจะไม่เห็นก้นบ่อ เพราะลึกมาก ต้องใช้ไฟฉายส่องดูและที่บริเวณปากบ่อพบฝาปิดท่อที่ชำรุดเสียหาย

ส่วนหญิงชราที่ตกลงไปในบ่อ อาสากู้ภัยมูลนิธิร่มโพธิ์เพชรบูรณ์ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ทราบชื่อต่อมาคือนางทองดี ชัยสุบิน อายุ 93 ปี เป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว

วันที่ 6 พ.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายุงจุดเกิดเหตุ พบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว จุดเกิดเหตุเป็นป่ากล้วยอยู่ด้านข้างบ้าน  บ่อน้ำบาดาลอยู่ 1 บ่อ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร ลึกประมาณ 5 เมตร เป็นบ่อน้ำที่วางท่อ 12 ท่

นายวีรยุทธ เพิ่มพูลทรัพย์ รองหัวหน้ามูลนิธิร่มโพธิ์เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น ศูนย์กู้ภัยของตนได้รับแจ้งเหตุว่ามียายวัย 93 ปี ตกบ่อน้ำ ตนและเจ้าหน้าที่จึงรีบมาที่เกิดเหตุ มาถึงที่เกิดเหตุประมาณ 11.30 น พบว่าขณะนั้นยายทองดี ผู้บาดเจ็บ ได้นอนตะแคงตัวอยู่ท้ายบ่อ หายใจรวยริน จากนั้นเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ได้วางแผนปฏิบัติการช่วยเหลือยายทองดี

หลังวางแผนเสร็จ ได้ทำการนำพีดลมจำนวน 3 ตัว มาเป่าลมลงไปยังก้นบ่อ เพื่อให้ยายทองดีมีอากาศหายใจ และได้ใช้เชือกมัดกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย 1 นาย จากนั้นเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้โรยตัวลงไปที่ก้นบ่อ และอุ้มร่างยายทองดีขึ้นมาได้สำเร็จ ใช้เวลาช่วยเหลือประมาณ 4 นาที เจ้าหน้าที่พบบาดแผลที่ศีรษะ เป็นรอยแผลฉีกขาด มีแผลขีดข่วนที่เท้า และพบว่ายายทองดียังมีอาการปวดหลังอีกด้วย คาดว่ายายทองดีน่าจะอยู่ในท่อประมาณ 8-9 ชั่วโมง จากตี 2 ถึง 11.30 น. การช่วยเหลือยายทองดีครั้งนี้พบว่าอุปสรรคอยู่ที่ปากท่อที่ค่อนข้างจะไม่แข็งแรง เวลาเจ้าหน้าที่เหยียบปากท่อจะทำให้ปากท่อทรุดลงอยู่เรื่อย ๆ

นายสุรินทร์ อินทร์จันทร์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่โรยตัวไปช่วยยายทองดี บอกว่า ก่อนตนโรยตัวลงไปช่วยเหลือยายทองดี เจ้าหน้าที่กู้ภัยรายอื่นได้ผูกเชือกเซฟตี้ไว้กับร่างกายตน จากนั้นตนได้โรยตัวลงไปหายายทองดีที่อยู่ก้นบ่อน้ำ พอไปถึงตัวยายทองดี พบว่ายายทองดีขยับร่างกายไม่ได้ คาดว่าน่าจะมีอาการปวดเมื่อยตามลำตัว ตนได้พูดกับยายทองดีว่า "คุณยายผมมาช่วยแล้วนะ ยายปลอดภัยแล้วนะ" จากนั้นยายทองดีก็ทำสีหน้ายิ้มแย้ม ปรบมือให้กับตนเอง จากนั้นยายทองดีก็บ่นพรำใจความไม่ได้ ตามประสาคนแก่ จากนั้นตนได้อุ้มร่างยายทองดีขึ้นมาจากก้นบ่อจนสำเร็จ

ด้านนายภาณุวัฒน์ โพธิ์แปลง หรือ แป๊ด อายุ 48 ปี เพื่อนบ้านของยายทองดี เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 4 พ.ค. หลานสะใภ้ของยาทองดีได้เอาอาหารมาส่งให้ยายทองดีทาน พร้อมกับให้เงินยายทองดีไว้ติดตัวจำนวน 500 บาท โดยยายทองดีจะอาศัยอยู่บ้านกับลูกเลี้ยงชื่อนายบัติอายุ 60 ปี เพียงแค่ 2 คน พอลูกสะใภ้กลับออกจากบ้าน ตนก็ได้ยินเสียงยายทองดี ทะเลาะกับนายบัติ คาดว่านายบัติน่าจะขอเงินยายทองดีไปซื้อเหล้า

กระทั่งกลางดึกวันที่ 5 พ.ค. เวลาประมาณ 02.00 น. ตนได้ยินเสียงยายทองดีร้องครางโอดโอย แต่จับใจความไม่ได้ กระทั่งเช้าวันที่ 6 พ.ค. เวลาประมาณ 08.00 น. ตนได้ยินเสียงยายทองดีร้องว่า "แป๊ดเอ้ย ช่วยยายหน่อย ๆ" จากนั้นตนจึงเอะใจ กลัวว่ายายทองดีจะถูกนายบัติลูกเลี้ยงทำร้ายร่างกายอีก ตนจึงไปแจ้งกำนันให้มายังที่เกิดเหตุ โดยพอมาที่ข้างบ้านของยายทองดี ที่บริเวณสวนกล้วยข้างบ้าน ก็พบยายทองดีนอนขดตัวอยู่ที่ก้นบ่อน้ำบาดาล จากนั้นตนและกำนันจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาช่วยเหลือยายทองดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนคาดว่ายายทองดีน่าจะไม่ได้เดินไปตกบ่อน้ำบาดาลด้วยตัวเอง เพราะยายทองดีอยู่บ้านหลังนี้มาหลาย 10 ปี เขาก็ไม่เคยตกบ่อน้ำ และยายทองดีเวลาเขาเดินไปไหนไม่ว่าจะเป็นเวลาเช้าหรือกลางคืน ยายทองดีเขาจะพกไม้เท้าเดินไปด้วยตลอด แต่ในที่เกิดเหตุไม่พบไม้เท้ายายทองดี สำหรับยายทองดี สามีเสียชีวิตไปแล้วกว่า 50 ปี ไม่มีบุตร มีเพียงลูกบุญธรรม