วันนี้(30 มิ.ย.64) สำนักข่าวบีบีซี รายงาน แคนาดากำลังเผชิญ คลื่นความร้อน ถล่มอย่างหนัก อุณหภูมิพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 49.5 องศาเซลเซียส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ตำรวจเมืองแวนดูเวอร์ ระบุว่า ได้รับรายงานผู้เสียชีวิตกะทันหันอย่างน้อย 130 รายตั้งแต่วันศุกร์ (25 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยพบมีอย่างน้อย 65 ราย ที่สาเหตุการเสียชีวิตมาจากอากาศร้อนจัด ขณะที่เมืองเบอร์นาบี พบผู้เสียชีวิตกะทันหัน 34 ราย และในเมืองเซอร์รีย์อีก 38 ราย
ในหลายพื้นที่ประชาชน ระบุว่า ต้องอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น ไม่สามารถออกมากลางแจ้งได้เนื่องจากอากาศร้อนจัด ขณะที่บางส่วนออกแช่น้ำในน้ำพุ และใช้บริการศูนย์คลายร้อนที่ทางการจัดตั้งเป็นการพิเศษ
หน่วยงานด้านสภาพอากาศของแคนาดา รายงานว่า แคนาดาทำสถิติอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเมื่อวันอังคาร (29 มิ.ย) ตามเวลาท้องถิ่น ที่เมืองลิตตัน ในรัฐบริติชโคลัมเบีย ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองแวนคูเวอร์ไปทางตะวันออกราว 250 กม. โดยมีอุณหภูมิสูงถึงสูงถึง 49.5 องศาเซลเซียส โดยก่อนหน้านี้อุณหภูมิสูงที่สดของแคนาดาไม่เคยสูงเกินกว่า 45 องศาเซลเซียส มาก่อน
ผู้เชี่ยวชาญ ชื่อว่า สาเหตุของคลื่นความร้อนดังกล่าวมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอันเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน
ขณะเดียวกัน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาสหรัฐ รายงานว่า เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอนและเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคแปซิฟิกนอร์ทเวสต์ มีอุณหภูมิพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บบันทึกสถิติอุณหภูมิตั้งแต่ปี ค.ศ. 1940 โดยที่เมืองพอร์ตแลนด์มีอุณหภูมิสูงถึง 46.1 องศาเซลเซียส และเมืองซีแอตเทิลมีอุณหภูมิ 42.2 องศาเซลเซียส เมื่อวันจันทร์ที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยอุณภูมิที่พุ่งสูงดังกล่าวร้อนจนทำให้สายเคเบิลของรถรางเมืองพอร์ตแลนด์ละลาย ต้องหยุดให้บริการไป 1 วันเต็ม
Advertisement