จากกรณีที่นักร้องหนุ่ม แพท พาวเวอร์แพท หรือ วรยศ บุญทองนุ่ม ได้เข้ารับการผ่าตัดจากอาการ หมอนรองกระดูกคอกดทับเส้นประสาทไปเมื่อ 10 วันที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนถึงการผ่าตัดใหญ่ครั้งนี้
ผมเป็นโรคหมอนรองกระดูกคอกดทับเส้นประสาท เมื่อประมาณช่วงปลายปีที่แล้ว ผมมีอาการปวดและเหน็บชาตั้งแต่ช่วงบ่า หัวไหล่ ไล่มาจนถึงฝ่ามือข้างขวา ตอนแรกผมเองคิดว่าอาจจะทำงานหนักเกินไป ด้วยกำลังมุ่งมั่นกับการตัดต่อคลิปช่องยูทูบของตัวเอง พยายามทำอะไรหลายอย่างด้วยตัวเอง ก็คิดว่าอาจจะซ้อมกีตาร์หนักเกินไปก็เลยซื้อพวกแผ่นแปะบรรเทาปวด พวกยานวดต่างๆมาทา ประมาณ2–3 ครั้งในช่วงอาทิตย์แต่อาการไม่ดีขึ้น
รู้สึกว่ามันเกิดปัญหากับการใช้ชีวิตการทำงาน เลยมีความกังวลใจ เลยไปหาหมอ ก็วินิจฉัยเบื้องต้นว่าน่าจะเกี่ยวกับที่คอของเรา ตอนนั้นผมก็ค่อนข้างสับสน เพราะเราเป็นที่แขนแต่ทำไมคุณหมอบอกเป็นที่คอ ในเมื่อผมไม่ได้ปวดคอหรือรู้สึกว่าคอจะมีปัญหาได้ พอผลเอ็กซเรย์ออก มันมีกระดูกคอ2-3 คู่ที่มันหล่นลงมาชิดกัน เป็นอาการของหมอนรองกระดูกเสื่อม เลยทำให้กระดูกหล่นไปทับเส้นประสาท ฝั่งขวาของผมโดนกดทับจนน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะคู่ที่5-6 ที่มีปัญหา แล้วก็ยังมีอีก2คู่ที่เริ่มเสื่อมแล้ว
เพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำก็เลยถูกส่งตัวไปMRI แล้วผมก็ถูกส่งตัวไปให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกระดูกคอโดยตรง ซึ่งคุณหมอก็ได้แสดงอาการกังวลว่าอาการดูไม่ดีแล้ว จำเป็นที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนหมอนรองกระดูกที่เสื่อม ซึ่งเอาของเก่าออกแล้วนำของเทียมใส่เข้าไป มีการยึดเหล็กที่คอ ยิงน็อตทแยงขึ้นไประหว่างกระดูกข้างบนกับข้างล่างเพื่อให้คอตั้งตรง คุณหมอตัดสินใจเลือกผ่าตัดเฉพาะคู่ที่อาการรุนแรงที่สุดก่อน คือคู่ที่5-6
ก็ประมาณสักสองสัปดาห์ก็จะลองไปฝึกร้องเพลงได้ แต่ที่ก็10 วันแล้ว แผลที่เช็คก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ก็มีน้ำเข้าบ้างเล็กน้อย มีไหมที่บางช่วงไม่ละลาย ก็อาจจะต้องดึงออก ส่งนอาการที่จะบอกถึงความรุนแรงเช่น อาการกินข้าว กินน้ำและสำลัก อาการเสียงแหบก็ไม่มีเกิดขึ้น ก็ไม่มีอะไรน่ากังวล ต้องขอบคุณทีมแพทย์ม่านเก่งมาก รวมถึงอาจารย์หมอด้วยที่มาร่วมผ่า รวมถึงทีมงานแพทย์ทีมพยาบาลที่ดูแลผมเป็นอย่างดี ขอบคุณมากครับ
แขนไม่มีปัญหาแล้วครับ อาการเหมือนกับจะหายไปแล้ว ก็จะมีชาวงคอที่ยังหันได้ไม่เต็มที่ และช่วงผ่าตัดเสร็จใหม่ๆ ก็จะมีอาการปวดเส้นเอ็น กล้ามเนื้อช่วงคอถึงบ่าทั้ง 2 ข้าง ซึ่งไม่เกี่ยวกับด้านในที่ผ่า คุณหมอก็ให้ยาแก้ปวด คุณหมอบอกว่าเกิดจากท่านอนระหว่างผ่าที่เราต้องแหงนคอเป็นเวลาหลายชั่วโมง ทำให้ช่วงบ่าและคอปวดเกร็ง ทานยา 2-3 วันก็หาย
ส่วนช่วงแรกที่ผ่าคอไม่สามารถที่จะเกร็งได้ด้วยตัวเอง คือมันจะเจ็บ เวลาลุกหรือหันผมต้องใช้มือประคองช่วยให้หัวตัวเองขึ้นมา ช่วงนี้นตะรู้สึกว่าหัวตัวเองหนักมาก ค่อนข้างเจ็บ กลืนน้ำลายเจ็บ รับประทานอาหารเจ็บ เจ็บข้างในเหมือนตอนเราเป็นต่อมทอนซิลอักเสบประมาณนัเน ต้องรับประทานของอ่อนๆ เช่นข้าวต้ม โจ๊ก อาการเจ็บคอก็ค่อยๆ ดีขึ้น ทุกวันนี้ก็หายไปแล้ว สามารถรับประทานอาหารได้ปกติ อาหารเกร็งคอเจ็บก็ไม่มีแล้ว จะมีก็แค่ตอนเปล่งเสียง ไม่สาระเปล่งแรงได้ ก็จะมีอาการเสียดๆแผล ตอนเราหันและพูดแรง
การวาดรูปถ้าเป็นชิ้นงานเล็กๆ ไม่กี่ชั่วโมง หรือ 1-2 วัน ผมว่าก็อาจจะยังพอทำได้ แต่ถ้าเป็นชิ้นใหญ่ที่เราเคยมีความฝันไว้ว่าถ้าเราออกมาแล้วอยากจะทำคู่ไปกับงานเพลงคงจะไม่สามารถที่จะเขียนได้แล้ว เพราะว่าผมคงจะต้องดูแลตัวเองไม่ให้กระดูกข้อที่เสื่อมเกิดอาการกำเริบซ้ำและต้องผ่าตัดอีก ก็ต้องยอมเข้าใจและปรับพฤติกรรมตัวเอง เพราะฉะนั้นใครมีทีชิ้นงาน ภาพเขียนของผมก็คงจะมีให้ชมเพียงเท่านี้แล้ว
ใช่ครับ แต่ยังเล่นดนตรี ค่องเพลงก็ยังทำได้ เพราะว่าต้องยอมรับว่าการเขียนรูป สไตล์การเขียนรูปของตัวเองจะเป็นงานที่ละเอียดและใช้เวลานานมาก ชิ้นใหญ่ก็คงต้องงดเลย
มันจำเป็นที่จะต้องยอมเสียสละเพื่อไม่ให้เราไม่สามารถทำอย่างอื่นอีกได้เลย ไม่ให้เสียไปกว่าเดิม ถ้าต้องผ่าอีกก็จะลำบากมาก คุณหมอบอกว่าคอจะต้องดามเหล็กเพิ่มอีก ซึ่งมันอันตรายมาก ก็ชองดูแลตัวเองดูก่อน
ล่าสุดที่ผมเขียนก่อนผ่าตัดจะมีการเขียนรูปการกุศลของบริษัทหนึ่ง เขาจะทำภาพนี้ไปสกรีนบนเสื้อ และขายเสื้อเพื่อนำมาเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนที่ขาดโอกาส งานชิ้นนั้นจะเป็นงานสุดท้ายตั้งแต่ช่วงที่ผ่านมา ส่วนจะเริ่มเขียนอีกไหม เมื่อไหร่ผมยังไม่ได้วางแผน ผมตั้งเป้าว่าอยากจะกลับมาร้องเพลง เล่นดนตรีให้ได้เป็นปกติก่อน มีงานคอนเสิร์ตที่จองไว้ มีโปรเจ็กต์ที่ผมกับเพื่อนวางไว้ มีการวางแพลนทำฃานล่วงหน้าไว้แล้ว ผมก็พยายามจะพักฟื้นให้หายและกลับมาทำงานให้ได้ตามเวลาที่เราวางไว้ครับ
ผมไม่คิดว่าจะเกี่ยว เพราะว่าอย่างที่เรียนไปว่าอาการมันส่งผลมาประมาณปีหรือสองปีแล้ว ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องของพฤติกรรม การใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่นที่เราใช้หนักเกินไป ใช่โดยไม่มีความเข้าใจว่าวันหนึ่งมันจะเสื่อม เราแก่ขึ้นร่างกายก็ไม่เป็นแบบเดิมแล้ว ไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องนั้น เพราะมันสะสมมาเป็น10 ปีแล้ว
ขอบคุณมากๆ เลยครับ ขอบคุณกำลังใจจากทุกๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานต่างๆ กลุ่มแฟนคลับผมรับรู้ได้ทุกๆ กำลังใจที่ส่งมาให้ผม ขอบคุณการ์ดที่ส่งมาให้ ขอบคุณของเยี่ยม ผลไม้อะไรต่างๆ รวมถึงกำลังใจจากทุกส่วนเลยที่เป็นห่วงผม ก็ขอบคุณมากๆ ครับ จะรีบหายครับ
คือส่วนร่างกายผมมันไม่ได้มีปัญหา ผมมีปัญหาแค่เสียงและลำคอแค่นั้นเอง เพราะฉะนั้นผมยังช่วยเลือกตัวเองได้ตามปกติ อาการเจ็บผมคืดว่า 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว ดีขึ้น สัปดาห์นี้น่าจะเริ่มก๊อกๆ แก๊กๆ เรื่มจับกีตาร์ เริ่มผ่อนคลายขึ้น แค่ยังไม่กล้าเปล่งเสียงเต็ม คอจะแข็งๆ ประมาณนี้ และจะหันมากไม่ได้
ผมวางแพลนไว้แลเวว่าเราจะหยุดช่วงไหน เพราะฉะนั้นงานทุกอย่างจะถูกทำไว้เรียบร้อยแล้ว ทางค่าย เพื่อนๆ ในวงก็เข้ามจตรงนี้ ไม่กระทบกับงานเลย ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไปก็จะเริ่มจะต้องกลับมาทำงานบ้างแล้ว สำหรับแฟนๆ ไม่ต้องห่วงครับ ไม่ได้หายไปไหน และจะมีผลงานให้ชมกันแน่ๆ ครับ
Advertisement